The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บทนำ สาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงหนีไปผนวชตามหลักปรัชญาพุทธภูมิ

 Introduction: The reason why Prince Siddhartha ran away  to ordained

     โดยทั่วไปแล้ว ชาวพุทธในประเทศไทยและทั่วโลกได้ยินความจริงในเรื่องสาเหตุที่เจ้าสิทธัตถะทรงหนีไปผนวชนั้นเกิดจากนิมิต ๔ ประการคือคนแก่ คนเจ็บ คนตายและสมณะ เป็นต้น จากการแสดงพระธรรมเทศนาของพระภิกษุนิกายเถรวาทและนิกายมหายาน ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเช่นวันธรรมสวนะ วันมาฆบูชา และวันวิสขบูชาเป็นเวลากว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้วที่พวกเขาได้ยินความจริงในเรื่องนี้แล้ว ก็ยอมรับโดยปริยายว่าเป็นความจริง แต่ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ทรงตรัสสอนว่าเมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใด จะต้องมีหลักฐานพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้นด้วย ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงนักปรัชญาถือว่าข้อเท็จจริงนั้นขาดความน่าเชื่อถือ และนักปรัชญาไม่ยอมรับข้อเท็จจริงนั้นได้ว่าเป็นความจริงได้ เพราะมนุษย์มักมีอคติต่อกันโดยมีสาเหตุที่เกิดขึ้นจากความโง่เขลา ความเกลียดชัง ความกลัว,  และความรักใคร่ชอบพอกัน เป็นต้น นอกจากนี้มนุษย์มีข้อจำกัดในการรับรู้ผ่านอวัยวะอินทรย์ในร่างกายของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

      เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานจากที่มาความรู้แหล่งต่าง ๆ ในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ  อรรถกถา และตำราวิชาการทางพระพุทธศาสนา ผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า เจ้าชายสิทธัตถะทรงไม่สามารถปฏิรูปสังคมในรัฐสักกะได้ เพื่อให้จัณฑาลมีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกับวรรณะอื่น ๆ ทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน การบูชาเทพเจ้าในนิกายของตนเองและมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศได้ เมื่อสมาชิกรัฐสภาแห่งศากยวงศ์ได้ร่วมกันพิจารณากฎหมายจารีตประเพณีว่า ด้วยการยกเลิกวรรณะในรัฐสักกะ ตามที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสนอ เมื่อสมาชิกสภาแห่งชาติศากยวงศ์ได้พิจารณาบทบัญญัติกฎหมายจารีตประเพณีสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐสักกะที่เรียกว่า"หลักอปริหานิยธรรม"ในมาตรา ๓ บัญญัติว่าห้ามมิให้ยกเลิกกฏหมายที่บัญญัติไว้ดีแล้วและในฐานะปุโรหิต(priesthood) ซึ่งเป็นพราหมณ์ที่ปรึกษาของกษัตริย์แห่งศากยวงศ์ได้เสนอแนะนำแก่สมาชิกสภาแห่งชาติศากยวงศ์ว่า หากสมาชิกรัฐสภาแห่งชาติศากยวงศ์ เห็นชอบให้ตรากฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยการยกเลิกวรรณะเพื่อการปฏิรูปสังคมในรัฐสักกะ ในอนาคต คงเป็นเรื่องยากสำหรับวรรณะกษัตริย์แห่งศากยวงศ์ที่จะปกครองรัฐสักกะให้เจริญรุ่งเรืองเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่มีวันเสื่อมเลย ดังนั้นสมาชิกรัฐสภาศากยวงศ์จึงมีความเห็นด้วยการลงมติเป็นเอกฉันท์ ไม่เห็นชอบด้วยกับกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยการยกเลิกวรรณะเพื่อปฏิรูปสังคมในประเทศตามที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสนอต่อรัฐสภาแห่งศากยวงศ์เพื่อพิจารณาเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองของรัฐสักกะเป็นเช่นนี้ ประชาชนเชื่อคำสอนของพราหมณ์ว่าเทพเจ้าจะช่วยพวกเขาให้บรรลุสิ่งที่ปรารถนาได้และกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยวรรณะและกฎหมายจารีตประเพณีสูงสุดในการบริหารประเทศไม่เปิดโอกาสให้พวกเขามีส่วนร่วมในการบริหารรัฐสักกะ ประชาชนจึงไม่คิดที่จะพัฒนาศักยภาพชีวิตและทักษะในการทำงาน เพื่อให้มีความรู้สั่งสมอยู่ในจิตใจและนำความรู้ที่มีอยู่นั้นไปแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองเพราะพวกเขามีชีวิตอ่อนแอเกินไป จึงเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะหลุดพ้นจากความมืดมิดของชีวิตได้    
   
 
     เหตุการณ์หลังพุทธกาลในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ผู้เขียนและคณะผู้แสวงบุญชาวไทยได้เดินทางไปยังอำเภอกบิลพัสดุ์  จังหวัดลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลสองครั้งด้วยกัน  ด้วยจิตของพวกเราน้อมระลึกถึงคุณของเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรงละวรรณะกษัตริย์เพื่อออกผนวช จนตรัสรู้ความจริงของชีวิตมนุษย์ตามกฎธรรมชาติจนกลายเป็นศาสดาเอกของโลก  และอยากไปเยี่ยมบ้านเกิดของพระพุทธเจ้าสักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่แคว้นสักกะซึ่งเป็นดินแดนกำเนิดของพระศากยมนุพุทธเจ้าซึ่งเป็นเจ้าของภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่ของโลก แคว้นสักกะแห่งนี้ได้สูญสิ้นอำนาจอธิปไตยเป็นเวลาหลายร้อยปีในดินแดนของอาณาจักรแห่งนี้ เป็นเพียงอำเภอเล็กๆ อันเงียบสงบบนพื้นฐานศีลธรรมในศาสนาฮินดูและกฎหมายของเนปาล อาณาเขตของเมืองโบราณกบิลพัสดุ์ถูกเจ้าหน้าที่กองโบราณคดีของเนปาลล้อมรั้วไว้ เพื่อเป็นหลักฐานรอการขุดค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองโบราณของพระนครกบิลพัสดุ์ ผู้เขียนและคณะผู้แสวงบุญเดินผ่านประตูทางทิศตะวันตกบริเวณเขตพระราชวังโบราณกบิลพัสดุ์เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของโบราณสถาน ตรงหน้าประตูเขตพระราชวังโบราณกบิลพัสดุ์ด้านทิศตะวันออกนั้นมีกองดินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พระวิทยากรกล่าวว่าเป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงเจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยอย่างแน่วแน่ เสด็จหนีออกจากพระราชวังโบราณกบิลพัสดุ์ออกไปสู่โลกอันกว้างใหญ่เพื่อค้นหาสัจธรรมของชีวิต เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงของความรู้ที่แท้จริงมาโต้แย้งคำสอนของพราหมณ์ เพื่อหักล้างความเชื่อว่าพระพรหมสร้างมนุษย์และสร้างวรรณะให้กับมนุษย์เป็นความเชื่อที่สั่งสมอยู่ในจิตใจของชาวสักกะและชาวโกลิยะมายาวนาน ตั้งแต่สมัยพระเจ้าโอกกากราชซึ่งเป็นมหาราชปกครองแคว้นโกลิยะ และชาวโกลิยะมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่าพระพรหม พระอิศวร ผู้สร้างมนุษย์ เป็นต้น พระองค์ตัดสินพระทัยสละวรรณะกษัตริย์อันยิ่งใหญ่กลับสู่คนไร้วรรณะเช่นเดียวกับจัณฑาล, ละสมาชิกพระราชวงศ์  ละทิ้งปราสาท ๓ ฤดูเป็นที่ประทับส่วนพระองค์และนางสนมอีก ๔๐,๐๐๐ คนไว้เพื่อเดินตามปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากความมิดมิดของชีวิต เพราะถูกครอบงำด้วยความเชื่อในพระพรหมและอิศวรว่าช่วยให้มนุษย์สำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา และนำมาบัญญัติเป็นกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วย "วรรณะ" เพื่อประกาศบังคับใช้ในสังคมเพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการทำงาน การศึกษา การทำพิธีกรรมตามเชื่อในศาสนาพราหมณ์นิกายตน และแม้กระทั่งการมีความรักมิให้เกินขอบเขตของวรรณะ
 
      เมื่อผู้เขียนเห็นกองดินอยู่ตรงข้ามประตูทิศตะวันออกของพระราชวังโบราณกบิลพัสดุ์ และเห็นว่าน่าจะเป็นซากปรักหักพังของอนุสรณ์สถานโบราณ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เพื่อเป็นหลักฐานว่า เป็นเส้นทางที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จหลบหนีออกจากปราสาท ๓ ฤดูซึ่งเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณโดยมีข้าราชบริพารไม่น้อยกว่า๔๐,๐๐๐ คน อาศัยอยู่ต้องเสด็จฝ่ากำแพงหนา ๘  เมตรและมีกำลังทหารลาดตระเวนตลอด ๒๔ ชั่วโมง เมื่อวิเคราะห์หลักฐานซึ่งเป็นข้อมูลแล้วเรื่องราวปรากฏขึ้นในใจของผู้เขียนยังไม่ชัดเจน ในเรื่องเจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จหนีไปผนวชได้อย่างไร ทำให้ผู้เขียนสงสัยในความจริงของเรื่องและต้องการหาหลักฐานเพิ่มเติมว่า ทำไมเจ้าชายสิทธัตถะจึงทรงหนีไปผนวช 
ด้วยเหตุผลข้างต้นผู้เขียนจึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานจากที่มาของความรู้ในเอกสารหลักฐาน พยานวัตถุ พยานบุคคล และหลักฐานเอกสารดิจิทัล เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์หาเหตุผลยืนยันความจริงของคำตอบในเรื่องนี้ โดยการเขียนบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ คำตอบจะเป็นประโยชน์ต่อพระวิทยากรสมัยใหม่ในการอธิบายเรื่องนี้แก่ผู้แสวงบุญชาวไทยในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เมือง และปฏิบัติบูชาตามคำสอนของพระพุทธเจ้ากระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลจากที่มาของความรู้ เพื่อหาเหตุผลยืนยันความจริงของคำตอบว่า สาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงหนีไปผนวชจะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตปริญญาเอกเพื่อเป็นแนวทางในการวิจัยวิทยานิพนธ์เชิงคุณภาพต่อไป    

1 ความคิดเห็น:

ศศินันท์ สันนิธิลาวัณย์ กล่าวว่า...

กราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ยุทธนา เป็นอย่างสูง ที่เมตตาให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะทรงสละวรรณะกษัตริย์เพื่อออกผนวช ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนิสิตและประชาชนผู้ที่สนใจศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง กราบสาธุเจ้าค่ะ

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ