Introduction: The reason why Prince Siddhartha fled to become a Bodhisattva
บทนำ
โดยทั่วไป ชาวพุทธทั้งชาวไทยและชาวโลกคงเคยได้ยินเรื่องราวของเจ้าชายสิทธัตถะทรงหนีออกจากพระราชวังกบิลพัสดุ์ เพื่อออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ เพราะพระองค์ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และพระภิกษุ เป็นต้นซึ่งข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ พวกเขาได้ยินมาจากพระธรรมเทศนาของพระภิกษุเถรวาทและมหายาน ที่แสดงพระธรรมเทศนาในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันธรรมสวนะ วันมาฆบูชาและวันวิสาขบูชาที่สืบทอดกันมากว่า ๒,๕๐๐ ปี หรือจากคำสอนของครูบาอาจารย์ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วโลกในวิชาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา เมื่อชาวพุทธทั่วโลกได้ยินเรื่องที่เจ้าชายทรงหลบหนีออกจากพระราชวังกบิลพัสดุ์ เพื่อออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์นั้นเป็นความจริงโดยปริยาย โดยไม่มีความสงสัยในข้อเท็จจริงของเรื่องนี้อีกต่อไป
แต่ตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น เมื่อพราหมณ์บางคนในโลกเป็นนักตรรกะและนักปรัชญา เมื่อได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดสิ่งหนึ่งที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นักตรรกะและนักปรัชญามักจะแสดงทัศนะหรือความคิดเห็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามปฏิภาณของตนเองตามหลักเหตุผล หรือคาดคะเนความจริงจากสิ่งที่ได้ยินมาโดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของเรื่องนั้น แต่การใช้เหตุผลของนักตรรกะ นักปรัชญาบางครั้งอาจใช้เหตุผลอธิบายความจริงที่ถูกต้องบ้าง บางครั้งก็ใช้เหตุผลอธิบายความจริงที่ไม่ถูกต้อง บางครั้งก็ใช้เหตุผลอธิบายความจริงในลักษณะเป็นอย่างนี้บ้าง บางครั้งก็ใช้เหตุผลอธิบายความจริงในลักษณะเป็นอย่างนั้นบ้าง เมื่อเหตุผลอธิบายความจริงของเรื่องนั้นไม่ชัดเจนว่ามีความเป็นอย่างไรแล้ว วิญญูชนย่อมไม่เชื่อถือข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องนั้น และไม่ยอมว่าเป็นความรู้ที่จริงของเรื่องนั้น เป็นต้น
ในการแก้ปัญหาในความไม่น่าเชื่อของประจักษ์พยานของเรื่องนี้ เพราะมนุษย์มักมีอคติต่อกัน เนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดจากความไม่รู้ ความเกลียดชัง ความกลัวและความรัก เป็นต้น อีกทั้งมนุษย์ยังมีข้อจำกัดในการรับรู้ผ่านอายตนะภายในร่างกายเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ชีวิตมนุษย์จึงเต็มไปด้วยความมืดมน จึงขาดความสามารถในการคิด โดยใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงในเรื่องนั้นอย่างสมเหตุสมผล เป็นต้น
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าเมื่่อได้ยินข้อเท็จจริงของเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เล่าสืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว เราไม่ควรเชื่อข้อเท็จจริงนั้นทันที เราควรสงสัยเสียก่อน จนกว่าเราจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว เราจะใช้หลักฐานนั้น เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้หรือการคาดคะเนความจริงตามหลักเหตุผล เพื่อพิสูจน์ความจริงในนั้นโดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของเรื่องนั้นอย่างมีเหตุผล เป็นต้น ถ้าไม่มีหลักฐานที่จะมาพิสูจน์ความจริงของสิ่งนั้น ข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นก็ไม่มีความน่าเชื่อถือ พระพุทธเจ้าไม่ทรงยอมรับว่าเป็นความจริง
เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาข้อเท็จจริงของเรื่องนี้จากหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ อรรถกถา และคัมภีรฺ์วิชาการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ผู้เขียนได้ทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงไม่อาจปฏิรูปสังคมในแคว้นสักกะ เพื่อให้คนจัณฑาลมีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกับชนชั้นอื่น ๆ ในด้านการศึกษา อาชีพ การบูชาเทพเจ้าในนิกายของตนและสามารถมีส่วนร่วมในทางการเมืองในการปกครองประเทศได้ เมื่อสมาชิกรัฐสภาจากราชวงศ์ศากยะพิจารณาร่างกฎหมายยกเลิกวรรณะ ตามที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสนอให้พิจารณา สมาชิกรัฐสภาจากราชวงศ์ศากยะลงมติเอกฉันท์ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีสูงสุดในการปกครองแคว้นสักกะเรียกว่า"ราชอปริหานิยธรรม" ในมาตรา ๓ ที่ระบุว่ากฎหมายที่บัญญัติขึ้นแล้วไม่สามารถยกเลิกได้
ดังนั้นเมื่อสมาชิกรัฐสภาจากราชวงศ์ศากยะ ลงมติเอกฉันท์คัดค้านกฎหมายยกเลิกวรรณะ เพื่อปฏิรูปสังคมในประเทศตามที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสนอต่อรัฐสภาแห่งราชวงศ์ศากยะ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงพิจารณาสถานการณ์ทางการเมืองของแคว้นสักกะแล้ว ประชาชนยังศรัทธาในเทพเจ้าหลายองค์ เชื่อว่าเทพเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาและสร้างวรรณะให้มนุษย์ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาพวกเขาต้องปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่ตนเกิดมา และสามารถลงโทษผู้ที่ไม่ฟังคำสอนของพราหมณ์และละเมิดกฎหมายวรรณะ โดยมีเพศสัมพันธ์กับคนต่างวรรณะและปฏิบัติหน้าที่ของวรรณะอื่น เป็นต้น
ในปัจจุบันดินแดนของแคว้นสักกะโบราณเป็นเพียงอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดลุมพินีของสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ที่ชาวกบิลพัสดุ์ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบสุข ตามหลักศีลธรรมของศาสนาฮินดูและกฎหมายของเนปาล บริเวรณพระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณถูกล้อมรั้วโดยเจ้าหน้าที่จากกรมโบราณคดีเนปาล เป็นหลักฐานที่รอการขุดค้นเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนครกบิลพัสดุ์โบราณ ผู้เขียนและผู้แสวงบุญเดินผ่านประตูทางทิศตะวันตก เข้าไปในพระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังโบราณ ด้านหน้าประตูทางทิศตะวันออกของพระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณ มีเนินดินขนาดใหญ่เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ทรงช่วยมนุษย์หลุดพ้นจากวัฏจักรแห่งการเกิดและการตายในสังสารวัฏ เป็นต้น
ในปีพ.ศ. ๒๕๔๗ ผู้เขียนและนิสิตชาวไทยได้เดินทางไปแสวงบุญยังเขตกบิลพัสดุ์โบราณ จังหวัดลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลเป็นครั้งแรก ด้วยพวกเรารำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของเจ้าชายสิทธัตถะ ที่ทรงตัดสินพระทัยที่จะละทิ้งวรรณะกษัตริย์ ทำให้พระองค์ทรงสูญเสียสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ในการปกครองแคว้นสักกะ พระองค์ทรงได้เป็นพระโพธิสัตว์ไปตลอดชีวิตเพื่อแสวงหาความจริงของชีวิตมนุษย์ว่า พระพรหมสร้างมนุษย์และวรรณะขึ้นตามคำสอนพราหมณ์อารยันหรือไม่ พระองค์ใช้เวลาหลายปีในการบำเพ็ญตบะ จนพระองค์ได้ตรัสรู้ความจริงแห่งชีวิตมนุษย์ตามกฎธรรมชาติและพระองค์ทรงเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ของมนุษย์และเทวดา
ในปี ๒๐๐๒ เมื่อผู้เขียนและนิสิตจำนวน ๓๐ คน ได้ยินเรื่องราวของสาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช เป็นพระโพธิสัตว์จากคำบรรยายของพระธรรมทูตสายต่างประเทศ แห่งราชอาณาจักรไทย ก็ได้อธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ให้คณะของเราฟังว่า สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของเจ้าชายสิทธัตถะ ที่เสด็จออกจากพระราชวังโบราณกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อครั้งก่อนสมัยโบราณเพื่อออกไปสู่โลกกว้าง เพื่อแสวงหาความจริงแห่งชีวิต เพื่อยืนยันว่าพระพรหมได้สร้างมนุษย์และสร้างวรรณะให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะ ที่ตนเกิดมา ตามคำสอนของพราหมณ์อารยัน เพราะหากเป็นจริงพระองค์จะทรงทำพิธีบูชายัญ เพื่อขอพรจากพระพรหมเพื่อช่วยยกเลิกวรรณะและปลดปล่อยมนุษย์จากการเป็นจัณฑาลและกลับคืนสู่สถานะดั้งเดิมในสังคมให้กับพวกเขา
เมื่อพระองค์ทรงผนวชเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว พระองค์จะทรงทำพิธีบูชายัญด้วยของมีค่าแก่พระพรหม เพื่อขอพรพระพรหมให้ยกเลิกวรรณะที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นในแคว้นสักกะได้ โดยไม่ฝ่าฝืนคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายวรรณะ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องเทพเจ้าได้หยั่งรากลึกในจิตใจของชาวสักกะ และชาวโกลิยะมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าโอกกากราช กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองแคว้นโกลิยะและชาวโกลิยะมีความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่าพระพรหม พระอิศวรผู้สร้างมนุษย์ เป็นต้น
ดังนั้น พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยสละราชบัลลังก์อันยิ่งใหญ่ ทิ้งสมาชิกราชวงศ์ศากยะ ทิ้งพระราชวัง ๓ ฤดูซึ่งเป็นที่ประทับส่วนพระองค์และพระสนมอีก ๔๐,๐๐๐ คนไว้ เมื่อพระองค์ทรงออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อทำตามปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงต้องการปลดปล่อยมนุษย์ ให้หลุดพ้นจากความมืดมนแห่งชีวิต ทั้งนี้เป็นเพราะชาวเมืองสักกะถูกครอบงำ ด้วยความเชื่อในพระพรหม และพระอิศวรผู้ทรงช่วยให้ผู้คนบรรลุความปรารถนา และบัญญัติกฎหมายจารีตประเพณีแบ่งวรรณะขึ้นเพื่่อบังคับใช้ในสังคมซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการทำงาน การศึกษาเล่าเรียน และประกอบพิธีกรรมตามเชื่อของนิกายพราหมณ์ของตนเองและถึงแม้จะมีความรักก็ไม่เกินขอบเขตของวรรณะตนเอง
เมื่อผู้เขียนเห็นเนินดินที่อยู่ตรงกันข้ามประตูทางเข้าด้านตะวันออกของพระราชวังกบิลพัสดุ์ โบราณและพิจารณาเห็นว่า น่าจะเป็นซากปรักหักพังของโบราณสถาน ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ก็เป็นหลักฐานว่านั่นคือ เส้นทางที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงใช้หลบหนีออกจากปราสาทสามหลัง (The three castels) ซึ่งเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ในบริเวณพระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณมีข้าราชบริพารอาศัยอยู่กว่า ๔๐,๐๐๐ คน พระองค์เสด็จผ่านกำแพงหนา๘ เมตร วึ่งมีทหารลาดตระเวนตลอด ๒๔ ชั่วโมง หากผู้เขียนแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ตามปฏิภาณของตนเองตามหลักเหตุผล
แต่เมื่อผู้เขียนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานจากกองดินเพียงอย่างเดียว แล้ววิเคราะห์โดยการอนุมานความรู้จากพยานวัตถุคือกองดินเพียงอย่างเดียว เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของเรื่องที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงหลบหนีไปผนวช แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นในใจของผู้เขียน ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอธิบายความจริงเรื่องนั้นให้ชัดเจนได้เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ผู้เขียนมีข้อจำกัดในการรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า ๒,๕๐๐ปีแล้ว และผู้เขียนมีอคติเพราะไม่รู้ของตนเองชีวิตจึงมืดมน จึงไม่สามารถคิดหาเหตุผลอธิบายความจริงในเรื่องนี้ได้ เมื่อข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังคงน่าสงสัยและคลุมเครือผู้เขียนชอบแสวงหาความจริงของเรื่องนี้ และสืบเสาะหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุเรื่องนี้เพิ่มเติมว่าทำไมเจ้าชายสิทธัตถะทรงหนีไปผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ จึงได้ตัดสินใจรวบรวมหลักฐานจากแหล่งความรู้ทั้งหลักฐานเอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคลและหลักฐานเอกสารดิจิทัลเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้และหาเหตุผล เพื่อยืนยันความจริงของคำตอบในเรื่องนี้ โดยเขียนบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ คำตอบจะเป็นประโยชน์ต่อพระธรรมทูตในการอธิบายเรื่องนี้ สำหรับชาวไทยที่แสวงบุญตามสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เมืองหรือวัดต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อปฏิบัติบูชาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า กระบวนการพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้าในการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลักฐานต่าง ๆ หาเหตุผลเพื่อยืนยันความจริงของคำตอบที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงหนีไปผนวชวิธีพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้าจะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตปริญญาเอกสาขาปรัชญา พระพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการวิจัยวิทยานิพนธ์เชิงคุณภาพต่อไป
1 ความคิดเห็น:
กราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ยุทธนา เป็นอย่างสูง ที่เมตตาให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะทรงสละวรรณะกษัตริย์เพื่อออกผนวช ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนิสิตและประชาชนผู้ที่สนใจศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง กราบสาธุเจ้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น