The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2563

บทนำ สู่พระนครกบิลพัสดุ์บ้านเกิดของพระพุทธเจ้าในปรัชญาพุทธภูมิ

Introduction to Kapilavastu,   the Hometown of Lord Buddha in  Buddhaphumi Philosophy

 บทนำ 

      ผู้เขียนเป็นชาวพุทธเป็นโดยกำเนิดสืบเชื้อสายมาจากตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย   บทเรียนแรกที่ชาวพุทธได้เรียนรู้  คือคำสอนของบิดามารดาสอนเกี่ยวกับการถวายทานแก่พระภิกษุด้เมื่อเข้าโรงเรียนและมหาวิทยาลัย พวกเราเริ่มศึกษาความจริงเกี่ยวกับพระนครกบิลพัสดุ์    อาณาจักรสักกะ  ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระเจ้าสุทโธทนะนั้น   ถือว่าเป็นการนำเสนอทางอภิปรัชญาที่น่าสนใจและมีคุณค่าอย่างยิ่งที่ควรศึกษา เมื่อปรัชญาคือความรู้ของมนุษย์  ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายในและสั่งสมเหตุการณ์เหล่านั้นไว้เป็นหลักฐานทางอารมณ์ไว้ในจิตใจของตนเอง  เมื่อธรรมชาติของจิตใจของมนุษย์ไม่เพียงแค่รับรู้และเก็บเรื่องราวเป็นหลักฐานทางอารมณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นนักคิดอีกด้วย เมื่อรับรู้สิ่งใด พวกเขาจะคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น  

     กล่าวอีกนัยหนึ่ง  มนุษย์ใช้อายตนะภายในของร่างกายในการรับรู้โลก มนุษย์ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ  เหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นและข้อพิสูจน์การมีอยู่ของเทพเจ้า เป็นต้นเมื่อมนุษย์เรียนรู้แล้วจิตมนุษย์จะรวบรวมหลักฐานทางอารมณ์และวิเคราะห์โดยอนุมานจากหลักฐานต่างๆ    เพื่อนำมาพิจารณาและพิสูจน์ความจริงของคำตอบ หากผลของการวิเคราะห์ยังคงคลุมเครือ   และไม่ชัดเจนความจริงนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ? อย่างไรก็ตามนักปรัชญาชอบในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม  พวกเขาจะต้องสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป และรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้     

        เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย  และได้ทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า"พระศากยมุนีพุทธเจ้า"     เดิมมีพระนามว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นพระโอรสองค์โตในพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางมายาเทวี    พระองค์ทรงศรัทธาในคำสอนของศาสนาพราหมณ์  และประสูติในพระราชวงศ์ศากยะ  ณ สวนป่าลุมพินี    ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และกรุงเทวทหะ    ซึ่งเป็นที่ประทับของชาวสักกะและชาวเทวทหะในระหว่างการเดินทาง   เจ้าชายแห่งราชวงศ์ศากยะทรงเป็นเจ้าของสวนลุมพินี    พระเจ้าสุทโธทนะทรงเป็นประมุขของอาณาจักรสักกะ โดยมีพระนครกบิลพัสดุ์เป็นเมืองราชธานี     พราหมณ์ท่านหนึ่งได้ทำนายชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะไว้  ๒ ประการคือ  พระองค์จะทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ปกครองโลกมนุษย์ และทรงเป็นศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ของโลก  เจ้าชายสิทธัตถะทรงประทับอยู่ในปราสาทอย่างมีความสุข ตลอดามฤดูนานหลายปีในฤดูฝน พระองค์ทรงประทับอยู่ในพระราชวังนานหลายเดือนโดยไม่เสด็จออกจากพระราชวังเลย นี่คือจุดสูงสุดของความสุขของมนุษย์  เจ้าชายสิทธัตถะทรงเบื่อหน่ายกับความสุขในรูป รส   กลิ่นเสียง สัมผัสและอารมณ์น่ายินดี ที่พระองค์ทรงหมกมุ่นมานานหลายปี    จึงทรงไม่ต้องการความสุขในพระราชวังอีกต่อไปเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จไปเยี่ยมชาวพระนครกบิลพัสดุ์  และประพาสสวนหลวงกบิลพัสดุ์ระหว่างเส้นทางพระราชดำเนินนั้น  พระองค์ทรงเห็นปัญหาของชนจัณฑาลที่ถูกสังคมลงโทษตลอดชีวิต   เพราะกระทำผิดฐานละเมิดกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยวรรณะต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนตามท้องถนน แม้ในวัยชรา ล้มป่วย และตายตามท้องถนน เป็นต้น 

      ในปีพ.ศ. ๒๕๔๖ ผู้เขียนและนักแสวงบุญได้เดินทางไปยังพระนครกบิลพัสดุ์ เมืองหลวงของอาณาจักรสักกะโบราณเป็นครั้งแรก ตั้งอยู่ในอำเภอกบิลพัสดุ์ จังหวัดลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตนเนปาล ผู้เขียนและนักแสวงบุญได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองพระนครกบิลพัสดุ์โบราณ จากพระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยซึ่งได้อธิบายให้ผู้เขียนและนักแสวงบุญทราบว่า เมืองนี้ถูกทิ้งร้างมานานหลายร้อยปีแล้ว และกลายเป็นเมืองเล็กๆในชนบทใกล้เชิงเขาหิมาลัย ปัจจุบันประชากรในเขตกบิลพัสดุ์ ทั้งหมดนับถือศาสนาฮินดู และทำอาชีพเกษตรกรรมโดยใช้ผักเป็นอาหารมังสวิรัติ เพื่อชำระล้างร่างกายและจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูที่สอนโดยพราหมณ์ เป็นต้น 

     ในยุคปัจจุบัน ประชาชนในอำเภอกบิลพัสดุ์ไม่รู้จักพระปัญญาอันยิ่งใหญ่ของพระศากยมนีพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระปัญญาของโลก เพราะพระธรรมทูตต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรโมริยะ ในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราชได้เผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระศากยมุนีพุทธเจ้าไปทั่วโลก  ในยุคหลังบาทหลวงชาวยุโรปได้บันทึกพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ค้นพบในดินแดนต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นหลักฐานในรูปแบบของจดหมายเหตุของตนเองแล้ว ส่งจดหมายเหตุฉบับนั้นกลับไยังประเทศของตนและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เก็บไว้ในโลกตะวันตก  เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์ความคิดของมนุษย์ ความรู้หลายแขนงได้ขยายจากเนื้อหาของคำสอนของพระพุทธเจ้า และแตกแขนงออกไปสู่สาขาใหม่ ๆ มากมาย   อย่างไรก็ตาม ทุกคนกลับลืมภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้าและโต้แย้งว่าภูมิปัญญานี้ ได้รับการพัฒนาโดยนักปรัชญารุ่นใหม่ในสาขานั้น ได้เป็นผู้ศึกษาค้นคว้าเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับความจริงในเรื่องนั้นขึ้นมา 

     ในปัจจุบัน พระราชวังกบิลพัสดุ์ที่เจ้าชายสิทธัตถะประทับอยู่ส่วนพระองค์และข้าราชบริพารไม่น้อยกว่า ๔๐,๐๐๐ คนอาศัยอยู่ กลายเป็นซากปรักหักพัง ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย เนื่องจากข้าราชบริพารอาศัยอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ ได้หลบหนีสงครามระหว่างกองทัพของพระเจ้าวิทูฑภะแห่งแคว้นโกศล กับกองทัพมหาราชามหานามะ แห่งแคว้นสักกะ ที่พระเจ้าวิทูฑภะทรงยกทัพไปกวาดล้างวรรณะกษัตริย์แห่งราชวงศ์ศากย เหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถานที่ผุพังไปตามกาลเวลา   เมื่อคณะของเรามาถึงมีพระภิกษุไทยรูปหนึ่ง เป็นแสดงธรรมเทศนาแก่คณะผู้แสวงบุญของเรา และชี้ให้ผู้แสวงบุญเห็นซากปรักหักพังของแหล่งโบราณคดีพระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณซึ่งเจ้าชายสิทธัตถะทรงประทับอยู่ นอกจากคณะของเรายังได้เห็นหลักฐานทางโบราณคดีของกำแพงพระราชวังทางด้านทิศตะวันตก และด้านตะวันออก แม้ว่าจะมีหลักฐานเหลือเพียงให้คณะของเราได้ชมเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็เป็นร่องรอยของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของพระนครกบิลพัสดุิ์ ซึ่งเป็นหลักฐานสอดคล้องกับบันทึกที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกมหาจุฬาฯและพระไตรปิฎกอื่น ๆ อีกหลายฉบับ 

    แม้พระวิทยากรจะยืนยันหนักแน่นว่าเป็นเขตพระราชวังโบราณ ที่พระเจ้าสุทโธทนะทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของเจ้าชายสิทธัตถะ แต่ข้อเท็จจริงได้ยินจากหลักฐานซึ่งเป็นพระวิทยากรเพียงคนเดียวและนักปรัชญาก็ยอมรับไม่ได้ว่าเป็นความจริงได้ เพราะมนุษย์มีอวัยวะอินทรีย์ในร่างกายถึง ๖ อวัยวะในร่างกาย มีข้อจำกัดในการรับรู้เหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นย้อนหลังไปกว่า ๒,๖๐๐ ปี และมนุษย์ก็เห็นแก่ตัวมักมีอคติต่อกันเพราะเหตุแห่งความไม่รู้, ความกลัว, ความเกลียดชัง และความรักใคร่ชอบพอ เป็นต้น  เมื่อพยานเพียงคนเดียวไม่น่าเชื่อถือ ก็เหมือนกับไม่มีหลักฐานมายืนยันข้อเท็จจริงของเรื่องได้ เมื่อเรื่องราวของโบราณสถานปรากฏขึ้นในจิตใจของผู้เขียนจึงไม่ชัดเจนว่ามีความเป็นมาอย่างไร? ใครเป็นผู้ค้นพบหลักฐานนี้และใช้ยืนยันความจริงคำตอบว่าคือ พระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณจริง แต่พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าเมื่อได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดแล้ว อย่าเชื่อข้อเท็จจริงทันที่ว่าเป็นจริง เพราะได้เล่าสืบทอดตามกันมาจากรุ่นสู่รุ่น, เพราะเป็นครู, เพราะเป็นตำรา เป็นต้น ควรตั้งข้อสงสัยก่อน จนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ  เช่น พระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ อรรถกถา และตำราทางพุทธศาสนา พยานวัตถุเช่น ซากเมืองโบราณมีระยะห่างจากสวนลุมพินี ๒๘ กิโลเมตร พยานบุคคลได้แก่ นักโบราณคดีผู้ขุดค้นโบราณสถานและเอกสารดิจิทัลเช่น แผนที่โลกกูเกิล เป็นต้น เมื่อรวบรวมหลักฐานได้เพียงพอแล้ว ผู้เขียนจึงตัดสินใจวิเคราะห์ข้อมูลโดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เช่น พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ แผนโลกกูเกิล บันทึกจดหมายของสมณะชาวจีน ๒ ท่านและพยานวัตถุจากพุทธสถานโบราณในพระนครกบิลพัสดุ์ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบเกี่ยวกับพระนครกบิลพัสดุ์โบราณที่ประสูติของพระพุทธเจ้า (Phra Nakhon Kapilavastu, the birthplace of Lord  Buddha)  เป็นต้น    บทความนี้ จะเป็นเป็นประโยชน์ต่อพระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยในรุ่นได้ศึกษาค้นคว้า และใช้เนื้อหาความรู้ซึ่งได้จากการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบอย่างสมเหตุสมผล ใช้ในการปฏิบัติงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วโลก และได้บรรยายให้กับผู้แสวงบุญในแดนพุทธภูมิฟังในขณะปฏิบัติบูชา เพื่อให้เนื้อหาของพระพุทธศาสนาได้อธิบายในลักษณะเดียวกัน เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพชีวิตให้ผู้แสวงบุญมีความเข้าใจในพระพุทธศาสนา และกระบวนการวิเคราะห์ จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตปริญญาเอกสาขาพระพุทธศาสนาและปรัชญาซึ่งจะใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไปเพื่อหาเหตุผลยืนยันความจริงของคำตอบเพื่อการวิจัยระดับปริญญาเอกต่อไป 


3 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

อธิบายได้ละเอียดจนเห็นภาพเลยนะ๊ครับ

สมใจ/อ๊อด กล่าวว่า...

ดีคับ

Unknown กล่าวว่า...

"ถ้าคิดได้....... ให้ช่วยคิด
ถ้าคิดไม่ได้...... ให้ช่วยทำ"

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ