Introduction to Kapilavastu the hometown of Lord Buddha in Buddhaphumi's Philosophy
บทนำ
ในการศึกษาปัญหาความจริงเกี่ยวกับพระนครกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นที่ประสูติของพระเจ้าสุทโธทนะนั้นถือว่า เป็นปัญหาทางอภิปรัชญาเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ และควรศึกษาอย่างยิ่ง เพราะปรัชญาเป็นความรู้ของมนุษย์ ซึ่งมีที่มาของความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัส และสั่งสมความรู้อยู่ในจิตใจของตนเอง เมื่อธรรมชาติของจิตใจมนุษย์เป็นผู้คิด เมื่อรับรู้สิ่งใดก็คิดจากสิ่งนั้น โดยมนุษย์ใช้อวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖ ของร่างกายในการรับรู้อารมณ์ โลก, มนุษย์ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นและข้อพิสูจน์การมีอยู่ของเทพเจ้า เป็นต้น เมื่อมนุษย์รู้แล้ว จิตมนุษย์ก็จะรวบรวมหลักฐานทางอารมณ์ มาสั่งสมไว้ในจิตใจของตนและวิเคราะห์หลักฐานด้วยเหตุผล เพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น ๆ หากผลของการวิเคราะห์ออกมาแล้วได้คำตอบยังไม่ชัดเจนว่าความจริงของเรื่องนั้นมีที่มาอย่างไร? ถ้านักปรัชญารักที่จะแสวงหาความรู้ต่อไปก็จะต้องสืบหาข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานในเรื่องนี้ต่อไป
เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ และได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า"พระศากยมุนีพุทธเจ้า" ซึ่งมีพระนามเดิมคือ เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นพระโอรสองค์โตในพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางมายาเทวี พระองค์ทรงนับถือศาสนาพราหมณ์และประสูติในราชวงศ์ศากยะ ณ สวนป่าลุมพินี ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะ ซึ่งเป็นที่พำนักระหว่างการเดินทางของชาวสักกะและชาวเทวทหะ เจ้าชายแห่งราชวงศ์ศากยะทรงเป็นเจ้าของผู้ครอบครองสวนป่าลุมพินีนี้ พระเจ้าสุทโธทนะทรงเป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรสักกะมีพระนครกบิลพัสดุ์เป็นเมืองหลวง พราหมณ์ในฐานะปุโรหิตพยากรณ์ถึงชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะ ๒ ลักษณะคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ครองโลกมนุษย์และศาสดาเอกผู้ยิ่งใหญ่ของโลก เจ้าชายสิทธัตถะทรงประทับอยู่อย่างมีความสุขในปราสาท ๓ หลังเป็นเวลาหลายปีในฤดูฝนนั้น พระองค์ทรงประทับอยู่บนปราสาทโดยไม่เสด็จลงมาจากปราสาทฤดูฝนเลยเป็นเวลาหลายเดือน และความจริงอันเป็นที่สุดแห่งความสุขของมนุษย์ทุกคน คือเจ้าชายสิทธัตถะทรงเบื่อหน่ายในปิติแห่งความสุขในรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัสและอารมณ์น่ายินดีที่พระองค์ทรงหมกมุ่นอยู่ในความปิตินั้น มาหลายปีและไม่ปรารถนาความสุขในปราสาทอีกต่อไป เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จเยี่ยมชาวพระนครกบิลพัสดุ์และสวนหลวงกบิลพัสดุ์ ระหว่างเส้นทางพระราชดำเนิน พระองค์ทรงเห็นปัญหาของจัณฑาลที่ถูกสังคมลงโทษตลอดชีวิตฐานฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยวรรณะต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนตามท้องถนน แม้ในวัยชรา ล้มป่วย และตายตามท้องถนน เป็นต้น
ในปีพ.ศ. ๒๕๔๖ ผู้เขียนพร้อมด้วยคณะผู้แสวงบุญได้เดินทางไปยังพระนครกบิลพัสดุ์ เมืองหลวงของอาณาจักรสักกะโบราณเป็นครั้งแรกที่ตั้งอยู่ในอำเภอกบิลพัสดุ์ จังหวัดลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตนเนปาล ผู้เขียนและผู้แสวบุญได้ยินข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเมืองพระนครกบิลพัสดุ์โบราณจากพระวิทยากรได้บรรยายให้ผู้เขียนและผู้แสวงบุญว่า เมืองนี้ถูกทิ้งร้างมาหลายร้อยปีแล้วกลายเป็นเมืองชนบทเล็กๆใกล้เชิงเขาหิมาลัย ในปัจจุบันประชากรทั้งหมดของอำเภอกบิลพัสดุ์ เป็นชาวฮินดูและประกอบอาชีพเกษตรกรรมโดยใช้ผักเพื่อทำอาหารมังสวิรัติ เพื่อชำระร่างกายและจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูที่สอนโดยพราหมณ์ เป็นต้น ในยุคปัจจุบัน ชาวอำเภอกบิลพัสดุ์ไม่รู้จักพระปรีชาญาณอันยิ่งใหญ่ของพระศากยมนีพุทธเจ้าซึ่งเป็นภูมิปัญญาของโลกเพราะพระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรโมริยะในรัชสมัยขอพระเจ้าอโศกมหาราชได้เผยแผ่คำสอนของพระศากยมุนีพุทธเจ้าไปทั่วโลก และในยุคต่อมา บาทหลวงชาวยุโรปได้บันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ค้นพบในดินแดนต่าง ๆ ทั่วโลกไว้เป็นหลักฐานในรูปของจดหมายเหตุของตนเองส่งกลับไยังประเทศของตนและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ส่งเก็บไว้ในโลกตะวันตก เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์ความคิดของมนุษย์มีความรู้หลายแขนงที่ขยายเนื้อหาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า และแตกแขนงออกไปเป็นสาขาใหม่ๆมากมาย แต่ทุกคนลืมพระปรีชาญาณของพระพุทธเจ้า และโต้เถียงว่าพัฒนามาจากความรู้ของนักวิชาการรุ่นใหม่ ๆ ในสาขานั้นเป็นผู้คิดค้นเนื้อหาของความรู้เกี่ยวกับความจริงในเรื่องนั้น ๆ ขึ้นมา
ในปัจจุบัน เขตพระราชฐานพระราชวังกบิลพัสดุ์ซึ่งเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของเจ้าชายสิทธัตถะ และมีข่าราชบริพารอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า ๔๐,๐๐๐ คน เหลือซากปรักหักพังไม่มีผู้คนอยู่อาศัย เพราะข้าราชบริพารในพระราชวังแห่งนี้ได้หลบหนีภัยสงครามระหว่างกองทัพของพระเจ้าวิทูฑภะแห่งแคว้นโกศล กับมหาราชามหานามะแห่งแคว้นสักกะที่ยกกองทัพมาฆ่าล้างเผ่าพันธ์แห่งศากยวงศ์ จน เหลือ แต่ซากปรักหักพังโบราณสถานของปราสาทที่ผุพังไปตามกาลเวลา เมื่อคณะของเราไปถึงมีพระภิกษุชาวไทย ๑ รูป เป็นองค์ปาฐกบรรยายว่า ที่นี่คือพระราชวังกบิลพัสดุ์ที่ประทับของเจ้าชายสิทธัตถะ และแสดงหลักฐานทางโบราณคดีของกำแพงพระราชวังด้านทิศตะวันตกและด้านตะวันออกให้คณะผู้แสวงบุญชาวไทยชม แม้หลักฐานจะเหลือให้เราดูน้อยมากก็ตาม แต่นับเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่และมีหลักฐานกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกมหาจุฬาฯและพระไตรปิฎกอื่น ๆ อีกหลายฉบับ แม้พระวิทยากรจะยืนยันหนักแน่นว่าเป็นเขตพระราชวังโบราณ ที่พระเจ้าสุทโธทนะทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของเจ้าชายสิทธัตถะ
แต่ข้อเท็จจริงได้ยินจากหลักฐานซึ่งเป็นพระวิทยากรเพียงคนเดียว และนักปรัชญาก็ยอมรับไม่ได้ว่าเป็นความจริงได้ เพราะมนุษย์มีอวัยวะอินทรีย์ในร่างกายถึง ๖ อวัยวะในร่างกาย มีข้อจำกัดในการรับรู้เหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นย้อนหลังไปกว่า ๒,๖๐๐ ปี และมนุษย์ก็เห็นแก่ตัว มักมีอคติต่อกันเพราะเหตุแห่งความไม่รู้, ความกลัว, ความเกลียดชัง และความรักใคร่ชอบพอ เป็นต้น เมื่อพยานเพียงคนเดียวไม่น่าเชื่อถือ ก็เหมือนกับไม่มีหลักฐานมายืนยันข้อเท็จจริงของเรื่องได้ เมื่อเรื่องราวของโบราณสถานปรากฏขึ้นในจิตใจของผู้เขียนจึงไม่ชัดเจนว่ามีความเป็นมาอย่างไร? ใครเป็นผู้ค้นพบหลักฐานนี้ และใช้ยืนยันความจริงคำตอบว่าคือ พระราชวังกบิลพัสดุ์โบราณจริง แต่พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าเมื่อได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดแล้ว อย่าเชื่อข้อเท็จจริงทันที่ว่าเป็นจริง เพราะได้เล่าสืบทอดตามกันมาจากรุ่นสู่รุ่น, เพราะเป็นครู, เพราะเป็นตำรา เป็นต้น ควรตั้งข้อสงสัยก่อน จนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เช่น พระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ อรรถกถา และตำราทางพุทธศาสนา พยานวัตถุ เช่น ซากเมืองโบราณมีระยะห่างจากสวนลุมพินี ๒๘ กิโลเมตร พยานบุคคลได้แก่ นักโบราณคดีผู้ขุดค้นโบราณสถานและเอกสารดิจิทัลเช่น แผนที่โลกกูเกิล เป็นต้น เมื่อรวบรวมหลักฐานได้เพียงพอแล้ว ผู้เขียนจึงตัดสินใจวิเคราะห์ข้อมูลโดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เช่น พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ แผนโลกกูเกิล บันทึกจดหมายของสมณะชาวจีน ๒ ท่านและพยานวัตถุจากพุทธสถานโบราณในพระนครกบิลพัสดุ์ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบ เกี่ยวกับพระนครกบิลพัสดุ์โบราณที่ประสูติของพระพุทธเจ้า (Phra Nakhon Kapilavastu, the birthplace of Lord Buddha) เป็นต้นบทความนี้ จะเป็นเป็นประโยชน์ต่องานเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วโลก โดยเป็นข้อมูลให้กับพระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย ในรุ่นหลังได้ศึกษาและใช้เนื้อหาความรู้ซึ่งได้วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและได้บรรยายให้กับผู้แสวงบุญในแดนพุทธภูมิฟังในขณะปฏิบัติบูชา เพื่อให้เนื้อหาของพระพุทธศาสนาได้อธิบายในลักษณะเดียวกัน เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพชีวิตให้ผู้แสวงบุญมีความเข้าใจในพระพุทธศาสนาและกระบวนการวิเคราะห์ จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตปริญญาเอกสาขาพระพุทธศาสนาและปรัชญาซึ่งจะใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไปเพื่อหาเหตุผลยืนยันความจริงของคำตอบเพื่อการวิจัยระดับปริญญาเอกต่อไป
3 ความคิดเห็น:
อธิบายได้ละเอียดจนเห็นภาพเลยนะ๊ครับ
ดีคับ
"ถ้าคิดได้....... ให้ช่วยคิด
ถ้าคิดไม่ได้...... ให้ช่วยทำ"
แสดงความคิดเห็น