The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ปัญหาความจริงของการสร้างอาณาจักรโมริยะเป็นมหาอำนาจของโลก

The real problem of establishing the Mauryan Empire as a world superpower

คำสำคัญ  ปัญหาความจริง       อาณาจักรโมริย มหาอำนาจของโลก

บทนำ   ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 

                โดยทั่วไป   ความรู้ในสาขาวิชาต่าง  ๆ ที่สอนในโรงเรียน        และมหาวิทยาลัยทั่วโลก ล้วนเป็นความรู้ของมนุษย์         แม้ว่ามนุษย์จะมีอายตนะภายในการรับรู้สิ่งต่าง  ๆ    และเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้          เป็นหลักฐานทางอารมณ์ที่สั่งสมไว้ในจิตใจ     แต่ธรรมชาติของมนุษย์มิได้เพียงการรับรู้      และสั่งสมเรื่องราวทางอารมณ์เท่านั้น         จิตใจของมนุษย์ยังมีธรรมชาติของการเป็นนักคิดอีกด้วย       เมื่อรู้สิ่งใด มักจะคิดจากสิ่งนั้น และมักมีความคิดที่ลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอันเนื่องจากความไม่รู้   ความกลัว  ความเกลียดชังและความรัก เป็นต้น         ส่งผลให้จิตใจของมนุษย์เต็มไปด้วยความมืดมน            จึงขาดปัญญาหยั่งรู้ความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนเอง

           ตัวอย่างเช่นในสมัยพุทธกาล  พราหมณ์บางกลุ่มเป็นนักตรรกศาสตร์      นักปรัชญา พวกเขาสอนความรู้เกี่ยวกับศิลปศาสตร์จำนวน ๑๘ สาขา ที่เจ้าชายแห่งวรรณะกษัตริย์ในแคว้นต่าง ๆ ทั่วอนุทวีปอินเดียทรงได้ศึกษาและค้นคว้า  เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับครองราชย์สมบัติในอนาคต  แต่ความรู้เกี่ยวกับศิลปศาสตร์นั้น ส่วนเป็นความจริงในระดับประสาทสัมผัสเท่านั้น ส่วนวิชาศาสนาพราหมณ์นั้น  เจ้าชายแห่งวรรณะกษัตริย์ในแคว้นต่าง ๆ เป็นการศึกษาหาความรู้เท่านั้น   แต่พวกเขาไม่สามารถประกอบพิธีบูชายัญได้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายวรรณะที่ห้ามไม่ให้คนวรรณะอื่นประกอบพิธีบูชายัญ 

            ผู้คนในประเทศต่าง ๆ  ของโลกจะก่อตั้งประเทศของตนเอง โดยมีมหาราชาเป็นผู้นำชุมชนทางการเมือง          ที่จะทำการรบกับผู้ปกครองดั้งเดิมของดินแดนของประเทศ เพื่อยึดอำนาจอธิปไตยในการปกครองเป็นของตนเอง โดยอาศัยปัจจัยหลายประการเริ่มตั้งแต่ประชาชนรวมตัวกัน เป็นชุมชนทางการเมืองในดินแดนเป็นที่มีอาณาเขตที่ชัดเจนของประเทศ   มีอำนาจอธิปไตยในการปกครองตามรัฐธรรมนูญของประเทศ ซึ่งผู้แทนของประชาชนเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาและได้รับการรับรองเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้้งสมาชิกรัฐสภาเพื่อ หน้าที่บัญญัติกฎหมายบังคับใช้กับประชาชนในประเทศ       เพื่อให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ด้วยกัน อย่างสงบสุขบนพื้นฐานของศีลธรรมอันดีของประชาชนและกฎหมายของประเทศ  ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งรัฐบาลให้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารของประเทศ ใช้อำนาจอธิปไตยในการปกครองประชาชน และปกป้องดินแดนของประเทศส่งเสริมให้ประชาชนศึกษาค้นคว้าหาความรู้  เพื่อให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกผ่านอินเตอร์เน็ต และประชาชนสามารถศึกษาค้นคว้าความรู้ โดยเฉพาะเนื้อหาวิชาต่าง ๆ  ของมหาวิทยาลัยทั่วโลกจากอินเตอร์เน็ตได้ฟรี ๒๔  ชั่วโมง

             อย่างไรก็ตาม การจะเป็นมหาอำนาจของโลกได้นั้น ประเทศใดประเทศหนึ่ง   จำเป็นต้องมีคณะรัฐมนตรีที่เชื่อมั่นในประเทศของตน  คณะรัฐมนตรีต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างขยันขันแข็ง โดยศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในประเทศของตน และทำงานเพื่อรับใช้ชาติ     รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตในหมู่ประชาชน เพื่อให้มั่นใจให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิและหน้าที่ของตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด    รัฐมนตรีต้องมีสติระลึกรู้ถึงความรู้ที่ได้จากการศึกษา และประสบการณ์ของการทำงานผ่านอายตนะภายในที่สั่งสมไว้ในจิตใจ ความรู้เหล่านี้ต้องนำมาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติ   ตามนโยบายที่วางไว้และประกาศต่อรัฐสภาของประชาชนแล้ว และแก้ไขข้อกังวลของสาธารณชนที่สะท้อนออกมาทางออนไลน์ การมีสมาธิหมายถึงการทำงานอย่างขยันขันแข็ง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยน แปลงทางสังคม   ท้ายที่สุดท้าย คณะรัฐมนตรีต้องมีปัญญาที่จะเข้าใจบทบาท และความรับผิดชอบของตนเอง  และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและยุติธรรม สอดคล้องกับความคาดหวังของประชาชน  โดยคงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติเป็นรากฐาน  เป็นต้น 

            โดยทั่วไปแล้ว   ปรัชญาคือ ความรู้ของมนุษย์  ในสมัยพุทธกาล     มีบางคนเป็นนักตรรกศาสตร์และนักปรัชญา   บุคคลเหล่านี้ได้ยินข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พวกเขามักจะแสดงทัศนะของตนเองตามโดยอาศัยเหตุผลอธิบาย และคาดคะเนความจริงในลักษณะนี้หรือลักษณะนั้น   โดยใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือในการอธิบายความจริงของเรื่องนั้น อย่างไรก็ตาม การใช้เหตุผลของบุคคลเหล่านั้น บางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลอย่างถูกต้อง บางครั้งอาจใช้เหตุผลไม่ถูกต้อง  บางครั้งอาจใช้เหตุผลในลักษณะนี้หรือลักษณะนั้น   เมื่อเหตุผลคำตอบของนักตรรกศาสตร์และนักปรัชญา ยังคงคลุมเครือและไม่ชัดเจนว่าความจริงของเรื่องนั้นคืออะไร ?      นั่นเป็นเพราะนักตรรกศาสตร์และนักปรัชญาเป็นมนุษย์มีอาตนะภายใน ที่จำกัดความสามารถในการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต และมีความลำเอียงเข้าข้างผู้อื่น ดังนั้น ชีวิตของมนุษย์ทุกคนจึงเต็มไปด้วยความมืดมน    พวกเขาจึงขาดปัญญาที่จะเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต

        ในการศึกษาปัญหาเกี่ยวกับความจริงของการสถาปนาจักรพรรดิโมริยะเป็นมหาอำนาจของโลกนั้น  ถือเป็นปัญหานี้เป็นปัญหาเชิงอภิปรัชญาหรือไม่   หลังจากพิจารณาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว    ผู้เขียนเห็นว่า     นักปรัชญาสนใจในการสำรวจประเด็นความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์เกี่ยวกับมนุษย์   โลก  ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ  และข้อพิสูจน์การมีอยู่ของเทพเจ้า เป็นต้น  ในการศึกษาประเด็นเรื่องความจริงของมนุษย์   โลกและปรากฎการณ์ทางธรรมชาตินั้น    มนุษย์สามารถรับรู้ผ่านอายตนะภายในร่างกายและสั่งสมเรื่องราวเหล่านี้เป็นหลักฐานทางอารมณ์ภายในจิตใจ   ความรู้อีกประเภทหนึ่งหนึ่งคือความจริงขั้นปรมัตถ์    มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้โดยตรง  เว้นแต่จะพัฒนาศักยภาพของชีวิตตนเองตามหลักปฏิบัติของมรรคมีองค์ ๘  เป็นต้น 


   

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ