Introduction to Griddhakuta according to Buddhaphumi Philosophy
คำสำคัญ เมืองราชคฤห์, ภูเขาคิชฌกูฏ, มูลคันธกุฏของพระพุทธเจ้า
๑. บทนำ
๒. เมืองราชคฤห์
๓. ภูเขาคิชฌกูฏ
๔. มูลคันธกุฎี
๑.บทนำ
เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเรื่อง"ภูเขาคิชฌกูฏ" จากหลักฐานเอกสารในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่า พระนครราชคฤห์เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมคธในสมัยพุทธกาล พระนครราชคฤห์ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ๕ ลูก ภูเขาทั้ง ๕ ลูกนี้ก่อตัวเป็นกำแพงธรรมชาติสูงตระหง่านเหนือท้องฟ้า ป้องกันไม่ให้ชาติมหาอำนาจอื่น ๆ ในอนุทวีปอินเดีย ส่งกองทัพข้ามภูเขามาโจมตีและ ยึดครองอำนาจอธิปไตยของอาณาจักรมคธในฐานะอาณานิคมพระนครราชคฤห์จึงเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ เสถียรภาพทางการเมือง การค้าขายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ มีเศรษฐีมากมายประกอบอาชีพ และค้าขายสินค้ามูลค่าหลายพันล้านโกฏต่อปี พระราชวังโบราณของพระเจ้าพิมพิสารตั้งอยู่กลางหุบเขาอันเงียบสงบ ทุกปีพ่อค้าจากทั่วอนุทวีปอินเดียที่เดินทางมายังเมืองราชคฤห์ พวกเขานิยมเรียกดินแดนแห่งนี้ "พระนครราชคฤห์"เป็น "พระนครคีรี" เมื่อภูเขาคิชฌกูฏเป็น ๑ ในภูเขา ๕ ลูก ที่ล้อมรอบพระนครราชคฤห์ จึงมีนักเดินทางทั่วทุกสารทิศ จึงได้ขนานนาม "พระนครราชคฤห์ว่า "เบญจคีรีนคร" ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวถึงเมืองราชคฤห์ ว่า "คีรีพชนคร" เพราะเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ๕ ลูก คือ ภูเขาปัณฑวะ ภูเขาอิสิคิลิ ภูเขาเวภาระ ภูเขาเวปุลละ และภูเขาคิชฌกูฏ (สาตกงฎีกา ๓/๖๓/๒๘๑)
๓. ภูเขาคิชฌกูฏ
๔. มูลคันธกุฎี
๑.บทนำ
เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเรื่อง"ภูเขาคิชฌกูฏ" จากหลักฐานเอกสารในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่า พระนครราชคฤห์เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมคธในสมัยพุทธกาล พระนครราชคฤห์ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ๕ ลูก ภูเขาทั้ง ๕ ลูกนี้ก่อตัวเป็นกำแพงธรรมชาติสูงตระหง่านเหนือท้องฟ้า ป้องกันไม่ให้ชาติมหาอำนาจอื่น ๆ ในอนุทวีปอินเดีย ส่งกองทัพข้ามภูเขามาโจมตีและ ยึดครองอำนาจอธิปไตยของอาณาจักรมคธในฐานะอาณานิคมพระนครราชคฤห์จึงเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ เสถียรภาพทางการเมือง การค้าขายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ มีเศรษฐีมากมายประกอบอาชีพ และค้าขายสินค้ามูลค่าหลายพันล้านโกฏต่อปี พระราชวังโบราณของพระเจ้าพิมพิสารตั้งอยู่กลางหุบเขาอันเงียบสงบ ทุกปีพ่อค้าจากทั่วอนุทวีปอินเดียที่เดินทางมายังเมืองราชคฤห์ พวกเขานิยมเรียกดินแดนแห่งนี้ "พระนครราชคฤห์"เป็น "พระนครคีรี" เมื่อภูเขาคิชฌกูฏเป็น ๑ ในภูเขา ๕ ลูก ที่ล้อมรอบพระนครราชคฤห์ จึงมีนักเดินทางทั่วทุกสารทิศ จึงได้ขนานนาม "พระนครราชคฤห์ว่า "เบญจคีรีนคร" ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวถึงเมืองราชคฤห์ ว่า "คีรีพชนคร" เพราะเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ๕ ลูก คือ ภูเขาปัณฑวะ ภูเขาอิสิคิลิ ภูเขาเวภาระ ภูเขาเวปุลละ และภูเขาคิชฌกูฏ (สาตกงฎีกา ๓/๖๓/๒๘๑)
เมื่อว่าผู้เขียนจะถือว่าเขตพระราชวังโบราณของพระเจ้าพิมพิสารเป็นศูนย์กลางของพระนครราชคฤห์ ภูเขาคิชฌกูฏตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระนครราชคฤห์ ท่ามกลางภูเขาทั้ง ๕ ลูกที่ล้อมรอบพระนครราชคฤห์ มีหุบเขาอยู่ระหว่างภูเขารัตนคีรีกับภูเขาคิชฌกูฏ ซึ่งเป็นเส้นทางพระพุทธเจ้าและพระอัครสาวกใช้เสด็จออกบิณฑบาตรเป็นประจำ ผู้เขียนถือว่าหุบเขาเป็นหุบเหวสำหรับทิ้งโจรที่ถูกประหารชีวิต จากแท่นสีเหลี่ยมขนาดใหญ่บนยอดเขารัตนคีรี ที่มีลักษณะเป็นพื้นที่จตุรัสขนาดใหญ่ พระเจ้าพิมพิสารทรงใช้สถานที่แห่งนี้ เป็นลานประหารนักโทษ หลังจากประหารชีวิตนักโทษแล้ว ร่างของนักโทษจะถูกโยนลงไปในหุบเขานี้
ในสมัยพุทธกาลนั้น นกแร้งจำนวนมากบินไปอาศัยอยู่บนภูเขาคิชฌกูฏ พวกมันจะลงมากินร่างของนักโทษ ที่ถูกโยนลงมาจากยอดเขารัตนคีรี พระพุทธเจ้าทรงใช้ร่างเหล่านี้สั่งสอนพระสารีบุตรเกี่ยวกับความไม่เที่ยงของชีวิต จนกระทั่งพระสารีบุตรได้บรรลุอภิญญา ๖ เป็นพระอรหันต์ คลองระหว่างภูเขารัตนคีรีกับภูเขาคิชฌกูฏใช้เป็นเส้นทางเล็กๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ในการบิณฑบาตร และพระเจ้าพิมพิสารเสด็จขึ้นภูเขาคิชฌกูฏ เพื่อทรงสนทนาธรรมกับพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นที่ตั้งพระคันธกุฏีของพระพุทธเจ้า เมื่อประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้วายชนม์ ได้พัฒนาไปตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ภายหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานพระเจ้ามัลละจึงทรงจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้า ต่อมาประเพณีจัดงานศพของผู้วายชนม์ ได้เปลี่ยนไปจากการโยนศพไปทิ้งในป่าช้า มาเป็นพิธีฌาปนกิจศพตามความเข้าใจของชาวบ้าน ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากคำสอนของพระพุทธศาสนาในแคว้นมัลละ เมื่อไม่มีซากศพมนุษย์เหลืออยู่ในเหวทิ้งโจร ที่จะถูกปล่อยให้แร้งกิน แร้งจึงอพยพไปยังดินแดนอื่น ๆ เพื่อแสวงหาซากสัตว์และซากมนุษย์ ส่วนในดินแดนอื่น ๆ เช่น เขตปกครองพิเศษทิเบต ประเพณีการโยนซากศพให้แร้งก็ยังคงดำรงอยู่
เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงเรื่อง "ภูเขาคิชฌกูฏ" ในฐานะภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบันแม้จะมีหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยยืนยันข้อเท็จจริงนี้ หากผู้เขียนแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับความจริงในเรื่องนี้ โดยอาศัยเหตุผลอธิบาย หรือคาดคะเนความจริงจากสิ่งที่ได้ยินมาในลักษณะนี้ โดยใช้เหตุผลอธิบายความจริง บางครั้งผู้เขียนอาจอธิบายความจริงได้อย่างถูกต้อง บางครั้งผู้เขียนอาจใช้เหตุผลอธิบายความจริงที่ผิดไปบ้าง บางครั้งผู้เขียนอาจใช้เหตุผลอธิบายความจริงในลักษณะนี้ บางครั้งผู้เขียนอาจใช้เหตุผลอธิบายความจริงในลักษณะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องนั้นไม่ชัดเจนว่าภูเขาคิชฌกูฏมีความเป็นมาอย่างไรแล้ว วิญญูชนได้ยินความคิดเห็นเรื่องนี้โดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงเรื่องนี้อย่างคลุมเครือ และไม่ชัดเจนแล้ว วิญญูชนถือว่าขาดความน่าเชื่อถือและไม่สามารถยืนยันความจริงได้ ไม่ถือว่าเป็นความรู้ที่จริงในเรื่องนั้น
เพื่อแก้ปัญหาความไม่น่าเชื่อถือในความเป็นมาของความรู้เหล่านั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าเมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตำราหรือคัมภีร์แล้ว อย่าเชื่อข้อเท็จจริงนั้นทันที เราควรสงสัยเสียก่อน จนกว่าจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน เมื่อมีหลักฐานเพียงพอก็จะใช้หลักฐานเป็นข้อมูล มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้เพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องภูเขาคิชฌกูฏนั้นโดยผู้เขียนจะใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของเรื่องนี้ ได้อย่างสมเหตุสมผล
แม้ว่าผู้เขียนไปแสวงบุญบนยอดเขาคิชฌกูฏ ราชคฤห์ รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดียหลายครั้ง แต่ประวัติพระพุทธเจ้าบนยอดเขาแห่งนี้ ปรากฏว่าข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน ผู้เขียนสงสัยว่าภูเขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธทั่วโลก ที่ตั้งใจจะสวดมนต์ภาวนา บนภูเขาคิชฌกูฏตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงปีใหม่ในเดือนมีนาคมของทุกปี
เมื่อผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้เรื่องภูเขาคิชฌกูฏเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในพระไตรปิฎก (Griddhakuta Hill In Tripitika)ต่อไป ผู้เขียนจึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานได้แก่พระไตรปิฎก อรรถกถา บันทึกของพระภิกษุจีน และพยานวัตถุได้แก่ภูเขาคิชฌกูฏ และหลักฐานดิจิทัล ได้แก่ แผนที่โลกกิเกิล เมื่อหลักฐานเพียงพอ ผู้เขียนจะใช้หลักฐานนั้น เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนี้ โดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของเรื่องนี้ได้อย่างสมเหตุสมผล
บทความนี้จะเป็นข้อมูลให้พระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยได้ศึกษา เพื่อใช้บรรยายให้ผู้แสวงบุญชาวไทยพุทธ ที่เดินทางไปแสวงบุญในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เแห่งเพื่อให้เนื้อหาทางพระพุทธศาสนาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนกระบวนวิธีพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้าจากหลักฐานต่าง ๆ นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาระดับปริญญาเอก เพื่อใช้เป็นแนวทางการวิจัยให้กับนิสิตปริญญาเอกสาขาปรัชญาและพระพุทธศาสนา เพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบในหัวข้อวิจัยได้ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการวิจัยโดยผ่านเกณฑ์การตัดสินที่สมเหตุสมผลไม่มีข้อสงสัยในข้อเท็จจริงอีกต่อไป เป็นต้น
.

7 ความคิดเห็น:
เพื่อพระพุทธศาสนา ครับผม
สวยมากเหมือนที่อินเดียไหมครับ ผมยังไมเคยไปเลยครับ
คิชฌกูฏที่เขียนอยู่ในประเทศอินเดีย ส่วนประเทศไทยเคยไปครั้งเดียวนานแล้ว ความสวยมาจากเงียบสงบอิ่มใจเกิดขึ้นได้ด้วยการปฏิบัติบูชาตครับ
อาจารย์ได้สัมผัสสถานที่จริง และได้ปฏิบัติบูชา
สาธุครับ
แสดงความคิดเห็น