The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ครูของพระโพธิสัตว์สิทธัตถะในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ

The teacher of Bodhisattva Siddhartha in the Mahachula edition of the Tripitaka.

คำสำคัญ ครู  พระโพธิสัตว์ พระไตรปิฎก


บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

               โดยทั่วไป  พระพุทธศาสนาและปรัชญาพุทธภูมิเป็นความรู้ของมนุษย์ เน้นการศึกษาและการปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ เพื่อให้เข้าถึงความจริงของชีวิต    เนื่องจากพระโพธิสัตว์สิทธัตถะทรงมีครูบาอาจารย์หลายท่านที่สอนวิชาศิลปศาสตร์ให้พระองค์ เช่น ครูวิศวามิตร อาฬารดาบส  และอุทกดาบส เป็นต้น ก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้กฎธรรมชาติของชีวิตมนุษย์  การศึกษาทั้งทางภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จึงเป็นประเด็นสำคัญ ที่สะท้อนถึงกระบวนการพัฒนาสติปัญญาและจิตวิญญาณของพระองค์     การศึกษาเรื่องราวของครูบาอาจารย์ของพระโพธิสัตว์สิทธัตถะ จึงมิใช่เป็นการรวบรวมรายชื่อของครูของพระโพธิสัตว์สิทธัตถะในพระไตรปิฎกเท่านั้น  แต่เป็นการค้นหาความหมายที่อยู่เบื้องหลังของครูบาอาจารย์  ซึ่งชี้เส้นทางสู่การตรัสรู้และแนวคิดสำคัญในพระพุทธศาสาอีกด้วย 

               ความเป็นมาของครูของพระโพธิสัตว์  โดยทั่วไปแล้ว  พระโพธิสัตว์เป็นมนุษย์    ที่เกิดมาพร้อมกับอายตนะภายในมีความสามารถในการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ และมีคติต่อผู้อื่นเนื่องมาจากความไม่รู้ มีความกลัว  ความเกลียดชัง และความรักของตนเอง  ซึ่งทำให้ชีวิตมนุษย์เต็มไปด้วยมืดมน ดังนั้น  พวกเขาจึงขาดปัญญาในการเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัติ  จึงไม่สามารถใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงเหล่านี้ได้อย่างสมเหตุสมผล  เป็นต้น

           ตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น  เมื่อพราหมณ์บางคนในโลกซึ่งเป็นนักปรัชญา นักตรรกะ     เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตเกี่ยวกับมนุษย์  โลก จักรวาล ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และการพิสูจน์การมีอยู่ของเทพเจ้า   พวกเขามักจะแสดงความคิดเห็นตามปฏิภาณของตนเองตามหลักเหตุผลและคาดคะเนความจริงของสิ่งที่ได้ยินมา  แต่การใช้เหตุผลอธิบายความจริงของเรื่องเหล่านี้ นักตรรกะและนักปรัชญาบางครั้งใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงได้อย่างถูกต้อง      บางครั้งใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงอย่างผิด  ๆ  บางครั้งใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงในลักษณะนี้หรือลักษณะนั้น  เมื่อความคิดเห็นของนักตรรกะและนักปรัชญานั้นไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความจริงของมนุษย์  โลก จักรวาล และหลักฐานการมีอยู่ของเทพเจ้านั้น    เมื่อวิญญูชนได้ยินความคิดเห็นของนักตรรกะและนักปรัชญาเกี่ยวกับคำตอบของเรื่องนั้น  เขาจะไม่ยอมรับความคิดเห็นเรื่องนั้นว่าเป็นความจริง   

              เมื่อแก้ปัญหาความไม่น่าเชื่อของความคิดเห็นของนักปรัชญา นักตรรกะนั้น  พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เมื่อได้ยินความคิดเห็นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ก่อนสมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน    เราไม่ควรเชื่อทันทีว่าเป็นความจริง และเราควรสงสัยไว้ก่อน จนกว่าจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ   เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว ก็ใช้หลักฐานต่าง ๆนั้น เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น    โดยใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงในเรื่องนั้น   ๆ  เป็นต้น

          ชีวิตเรามีสิ่งเหล่านี้มากพอแล้ว  แต่มนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม จึงชอบแสวงหาความรู้โดยการแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดนโยบายทางการเมือง    แต่จิตใจมักดำเนินชีวิตอย่างไม่ระวังเพราะขาดการศึกษา  และแสวงหาความรู้มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน จึงใช้ชีวิตโดยยึดถืออารมณ์และความพอใจเป็นหลัก โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น   จึงแยกแยะไม่ออกอะไรจริงอะไรเท็จในชีวิต ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกถูกหลอกลวงจากคนในสังคมเป็นประจำ ส่งผลให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมูลค่านับแสนล้านบาทต่อปี มนุษย์ต้องหาที่พึ่งอันประเสริฐเพื่อดำรงชีวิตด้วยความหวัง  จนกว่าจะพัฒนาชีวิตให้มีสติและปัญญาในการแสวงความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัส เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาความจริง เพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตได้ 

           ครูบาอาจารย์   เมื่อมนุษย์ทุกคนมีข้อจำกัดของอายคนะภายในในการรับรู้ และมีความลำเอียงในการยืนความจริงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้ชีวิตมืดมน ขาดปัญญาในการเข้าใจความจริงของชีวิตได้  เมื่อชีวิตของมนุษย์มืดมน เมื่อมีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นในชีวิตเพราะไม่มีศรัทธาในตัวเองที่มีความสามารถศึกษาและแสวงหาความรู้ได้เช่นคนอื่น จึงไม่มีความพากเพียร ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยตนเอง  ทุกประเทศทั่วโลกจึงสร้างสถาบันการศึกษา โรงเรียนและมหาวิทยาลัยขึ้นมา เพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของประชาชนให้มีศรัทธาในตนเอง  มีความพากเพียรในการศึกษาและการใช้ชีวิต  มีสติจดจำสิ่งต่าง ๆ  ให้เกิดความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ   มีสมาธิอย่างแน่วแน่ในการศึกษาและปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้สำเร็จลุล่วงได้  เพื่อใช้ในการ ต้องช่วยเหลืออยู่จึงต้องมีแบบอย่างของชีวิตในเรียนรู้ และปฏิบัติตามได้ เพื่อให้เกิดศรัทธาในการใช้ชีวิตของตนเอง  มีความเพียรในการศึกษาค้นหาความรู้เพื่อใช้ในชีวิตประจำ   

             ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ให้คำนิยามบุคคลที่เรียกว่า "ครู" คือผู้ที่สอนนักเรียน,  ผู้ที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียน กล่าวอีกนัยหนึ่งชีวิตมนุษย์เกิดมาจากปัจจัยทางร่างกายและจิตใจ รวมตัวกันในครรภ์มารดาเป็นเวลา ๙ เดือน ก็คลอดออกมาเป็นมนุษย์ใหม่ มีสิทธิและหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย  มีความสงบสุขในชีวิตบนพื้นฐานของศีลธรรมและกฎหมาย เมื่อร่างกายและจิตใจเป็นปัจจัยที่ขึ้นอยู่ซึ่งกันและกัน  จิตใจของมนุษย์ใช้อายตนะภายในร่างกาย รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ทั้งดีและร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตตลอดเวลา   เราต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตัดสินใจผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในชีวิต แม้ว่าบาดแผลในใจจะเกิดจากความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากความประมาทในชีวิต แต่คนเรามักไม่อยากเรียนรู้ เพราะความไม่รู้  ความท้อแท้ หรือความอ่อนแอในชีวิตจึงไม่กล้าเผชิญกับความจริงของชีวิต 

            ดังนั้น พวกเขาจึงมีชีวิตมืดมน ตกเป็นทาสของกิเลสของตนเองหรืออคติของตนเอง มักกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะพวกเขาคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต      ความเกลียดชังที่ฝังรากลึกในจิตใจ  เนื่องจากความผิดพลาดในอดีตที่เกิดขึ้น และหยั่งรากลึกในจิตใจของตนเอง และความรักส่วนตัวที่มองไม่เห็นความผิดพลาดได้ พวกเขามักจะปล่อยให้เรื่องต่าง ๆ ผ่านไปโดยปริยาย   

             ในยุครุ่งเรืองของศาสนาพราหมณ์   เจ้าชายสิทธัตถะทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตร์ ๑๘ วิชาจากสถาบันการศึกษาครูวิศวามิตร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับหน้าที่ในการปกครองประเทศสักกะตามวรรณะกษัตริย์ที่พระองค์ประสูติมา แต่เมื่อพระองค์ทรงเห็นปัญหาจัณฑาลที่ถูกสังคมลงโทษอย่างรุนแรง เพราะละเมิดคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายวรรณะ จัณฑาลก็ถูกตัดสินว่ามีความผิด โดยถููลงพรหมทัณฑ์จากคนในสังคมไปตลอดชีวิต เจ้าชายสิทธัตถะทรงมีเมตตาต่อมนุษย์    เมื่อพระองค์ทรงตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ  เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว  พระองค์ทรงใช้หลักฐานเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์หลักฐานโดยอนุมานความรู้    เพื่อพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้  โดยใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงและตัดสินว่าเทพเจ้าไม่มีอยู่จริง พระพรหมจึงไม่ใช่ผู้สร้างมนุษย์และสร้างวรรณะให้มนุษย์ตามคำสอนของพราหมณ์    เมื่อข้อเท็จจริงจากการคำให้การของพราหมณ์ปุโรหิตในเกี่ยวกับการมีอยู่เทพเจ้าก็ยังน่าสงสัย เพราะไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพระพรหม   และพระอิศวรได้ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงพิจารณาข้อเท็จจริงจากคำให้การของพราหมณ์ปุโรหิตซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการประกอบพิธีบูชายัญเป็นประจำ  เมื่อพราหมณ์ปุโรหิตไม่สามารถตอบคำถามในเรื่องนี้ได้ เจ้าชายสิทธ้ตถะทรงเห็นว่าเทพเจ้าไม่อยู่จริงตามคำสอนของพราหมณ์ 

              ดังนั้น พระองค์ทรงตัดสินพระทัยปฏิรูปสังคม แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะการยกเลิกกฎหมายวรรณะตามจารีตประเพณีนั้น ถูกห้ามตามรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีของประเทศ หรือหากพระองค์เอง  ได้ทรงทำพิธีบูชายัญด้วยพระองค์เอง เพื่อขอพรพระพรหมให้ยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี ก็ถือว่าฝ่าฝืนข้อห้ามของคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายวรรณะที่ห้ามมิให้ผู้มิใช่พราหมณ์ทำพิธีบูชายัญ  พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยผนวชเพื่อแสวงหาความจริงของชีวิตว่า พระพรหมได้สร้างมนุษย์ตามคำสอนของพราหมณ์อารยัน หากเป็นความจริง พระองค์ก็ทรงประกอบพิธีบูชายัญ เพื่อพรพระพรหมให้ยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีต่อไป 

           อย่างไรก็ตาม  ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า   เมื่อได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว  เราอย่าเชื่อทันที เราควรสงสัยเสียก่อน  จนกว่าจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ มาพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้  เป็นต้น ดังนั้น เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่อง "ครูของพระโพธิสัตว์สิทธัตถะ" เราก็ยอมรับความจริงโดยปริยายก็ตาม แต่เมื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เราสงสัยเสียก่อนว่า "ใครเป็นครูของพระโพธิสัตว์ในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา" และเราก็ชอบแสวงหาความรู้ในเรืองนี้ต่อไป   จึงตัดสินใจสืบหาข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐานค่าง ๆ  ได้แก่ พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ  อรรถกถา  ฎีกาและอนุฎกา  บทความทางวิชาการอื่น ๆ  หลักฐานวัตถุที่สร้างเป็นอนุสรณ์สถานในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช   พยานเอกสารดิจิทัลได้แก่ แผนที่โลกกูเกิล  เป็นต้น  เมื่อพยานหลักฐานเพียงแล้ว ผู้เขียนจะนำไปใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์   โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่างๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงในเรื่องนี้  วิธีพิจารณาความจริงของพระพุทธศาสนานี้ จะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาปริญญาเอกด้านพระพุทธศาสนาและปรัชญา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบค้นข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ   เพื่อพิสูจน์ที่มาของความรู้  องค์ประกอบความรู้ และความสมเหตุสมผลของความรู้ของมนุษย์  เพื่อไปทำวิทยานิพนธ์ ต่อไป         

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ