The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ปัญหาอภิปรัชญาในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ (ตอน๑)

 Metaphysical problems in the Mahachula edition of the Tripitaka 

ปัญหาอภิปรัชญาในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ

บทนำ 

        โดยทั่วไปแล้ว  เมื่อเราศึกษาและค้นคว้าอภิปรัชญาบนเว็บไซต์ต่างๆ     ตามแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ต  ได้ยินข้อเท็จจริงว่า สถานบันการศึกษาทั่วโลก เปิดสอนหลักสูตรปรัชญาและพระพุทธศาสนา     เพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของนักศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจในความจริงของชีวิตของตนเอง จะมีอาจารย์ที่จะถ่ายทอดความรู้ด้านปรัชญาให้กับนิสิตรุ่นต่อไป ที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมความรู้นั้นไว้ในจิตใจของตน สามารถนำความรู้ที่อยู่ในใจของตนประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อแก้ปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้    แต่เมื่อวิชาเหล่านี้คือความรู้ของมนุษย์ ก็เกิดปัญหาที่ผู้เขียนสงสัยว่ามนุษยคือบ่อเกิดความรู้เชิงปรัชญา  พระพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร ?เป็นเรื่องที่เราควรศึกษาค้นคว้าให้มาก  เมื่อเราศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ เราจะเห็นการพัฒนาความรู้ของมนุษย์  ตั้งแต่สมัยรุ่งเรืองของศาสนาพราหมณ์ผู้คนเชื่อกันว่ามีเทพเจ้าหลายองค์พวกพราหมณ์อารยันได้แสดงหลักปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความมีอยู่ของเทพเจ้าด้วยการบูชายัญจนเป็นที่นิยมมากจนผู้คนในอนุทวีปอินเดีย ตกลงที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพราหมณ์ด้วยการบูชาเทพเจ้าด้วยของมีค่าต่าง   ๆ  และของบูชาเหล่านี้สร้างรายได้มหาศาลให้กับพราหมณ์นิกายต่าง ๆ    ในสมัยนั้น คำสอนของพราหมณ์เป็นทั้งหลักคำสอนในศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีได้กำหนดข้อห้ามการแต่งงานระหว่างวรรณะ  และห้ามปฏิบัติหน้าที่ของวรรณะอื่น    และมีการลงโทษอย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะด้วยการไล่ออกจากสังคมที่พวกเขาอาศัยไปตลอดชีวิต แต่ชาวอนุทวีปอินเดียส่วนใหญ่มีชีวิตที่อ่อนแอและมักขาดสติปัญญา ดังนั้นพวกเขาจึงดำเนินชีวิตตามตัณหาของตนจนไม่สามารถควบคุมจิตใจของตนได้ พวกเขาจึงฝ่าฝืนคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายจารีตวรรณะประเพณี   โดยมีเพศสัมพันธ์กับผู้คนวรรณะต่าง ๆ หรือปฏิบัติหน้าที่ของวรรณะอื่น พวกเขาจึงถูกคนในสังคมลงโทษด้วยการถูกไล่ออกจากสังคมที่ตนอยู่อาศัยไปตลอดชีวิตและเรียกคนเหล่านี้ว่า "จัณฑาล" 

         เจ้าชายสิทธัตถทรงเห็นว่าปัญหาจัณฑาลเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ   สิ่งนี้ ทำให้    พระองค์ทรงสงสัยในการมีอยู่ของเทพเจ้า แม้ว่าพระองค์จะทรงสำเร็จการศึกษาไปแล้ว ๑๘ สาขาแต่พระองค์ทรงไม่รู้เรื่องถึงการมีอยู่ของเทพเจ้า เพราะมันเป็นความรู้ที่อยู่นอกเหนือขอบเขตประสาทสัมผัสของพระองค์ที่จะรับรู้ได้  ยกเว้นการบูชายัญของพราหมณ์ผู้ทำพิธีเท่านั้น  ส่วนพระองค์นั้นทรงไม่สามารถทำการบูชายัญ   เพื่อขอพรพระพรหมเพื่อช่วยยกเลิกวรรณะในแคว้นสักกะ เพราะเป็นความผิดอย่างร้ายแรงต่อคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะ     เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงสงสัยในความมีอยู่ของเทพเจ้า  พระองค์ทรงชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องต่อไปพระองค์จึงทรงตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานจากคำให้การของปุโรหิตซึ่งเป็นผู้เป็นใหญ่ในประเทศสักกะ   และที่ปรึกษาของกษัตริย์ในเรื่องกฎหมาย ขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณี พระองค์ทรงได้ยินข้อเท็จจริง    จากคำให้การของพราหมณ์ปุโรหิตว่าหลักคำสอนเรื่องเทพเจ้า  เป็นคำสอนของอาจารย์ที่มีความเป็นมายาวนานแล้ว พวกเขาจึงตั้งทฤษฎีกำเนิดโลกและมนุษย์ว่า พระพรหมและพระอิศวรเป็นผู้สร้างมนุษย์   แต่เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสถามว่าพระพรหมและพระอิศวรนั้นมีความเป็นมาอย่างไร?  ไม่มีปุโรหิตคนใดตอบพระองค์ได้  เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่น่าสงสัยเช่นนี้ พระองค์ทรงไม่เชื่อเรื่องการมีอยู่ของเทพเจ้าตามคำสอนของพราหมณ์อารยันพระองค์ทรงตัดสินพระทัยปฏิรูปสังคมในแคว้นสักกะ    ด้วยการเสนอยกเลิกกฎหมายในแคว้นสักกะต่อรัฐสภาราชวงศ์ศากยะแห่งแคว้นสักกะ เมื่อสมาชิกรัฐสภาราชวงศ์ศากยะ      ร่วมการพิจารณาในข้อกฎหมายตามกฎหมายรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีสูงสุดแห่งแคว้นสักกะ ซึ่งเป็นหลักบริหารประเทศสักกะนั้นสมาชิกรัฐสภาเห็นว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีแห่งแคว้นสักกะมาตรา ๓ ที่ห้ามมิให้ยกเลิกกฎหมายที่บัญญัติไว้แล้ว   

     ดังนั้นเมื่อกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะได้บัญญัติไว้ ต่อมาภายหลังสมาชิกรัฐสภาไม่สามารถยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ได้เพราะห้ามกฎหมายรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีในการปกครองประเทศสักกะ  การที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยปฏิรูปสังคมในแคว้นสักกะโดยเสนอยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีจึงเป็นการต้องห้ามตามกฎหมายรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีของประเทศ สมาชิกรัฐสภาราชวงศ์ศากยะ จึงมีมติเป็นเอกฉัน์ไม่เห็นชอบร่างกฎหมายยกเลิกวรรณะจารีตประเพณี ตามที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสนอมา จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีสูงสุดของประเทศ เป็นต้น เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงปฏิรูปสังคมไม่สำเร็จ    เพราะหลักคำสอนของพราหมณ์เรื่องการมีอยู่ของเทพเจ้าเป็นทั้งคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะ   เมื่อพระองค์ไม่สามารถยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีได้  มนุษย์ทุกคนต้องมีชีวิตที่มืดมิดต่อไป    พระองค์ทรงตัดสินพระทัยสละวรรณะกษัตริย์ แม้จะเสียสิทธิและหน้าที่ปกครองแคว้นสักกะไปตลอดชีวิต  เพื่อเสด็จออกบวชเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์ทรงสามารถประกอบพิธีบูชายัญต่อพระพรหมได้  เพื่อขอพรพระพรหมช่วยยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีได้โดยไม่ผิดกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี     ที่ห้ามคนมิใช่พราหมณ์ประกอบพิธีบูชายัญและสวดพระเวท  เพื่อพิสูจน์ว่าพระพรหมและพระอิศวรสร้างมนุษย์และวรรณะให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่เกิดซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตมนุษย์ตามคำสอนของพราหมณ์หรือไม่ มีเหตุผลอธิบายว่าเรารู้ความจริงในเรื่องนี้ได้อย่างไร ? เป็นต้น

         ดังนั้นการมีอยู่จริงของพระพรหมและพระอิศวร  ปัญหาอภิปรัชญาข้อแรกในพระพุทธศาสนาหรือปรัชญาพุทธภูมิ ก็คือสาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์   เพื่อศึกษาและค้นคว้าการมีอยู่ของพระพรหมและพระอิศวร   ญาณวิทยามีหน้าที่ให้คำตอบว่าเราจะรู้ความจริงเรื่องการมีอยู่ของพระพรหมและพระอิศวรได้อย่างไร ?    เมื่อปัญหาเกี่ยวกับความจริงของการมีอยู่ของเทพเจ้า พระพรหมสร้างมนุษย์และวรรณะให้กับมนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่เกิดยังเป็นที่น่าสงสัยว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นความจริง?แต่ผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้อีกต่อไป     แต่ธรรมชาติของผู้เขียนมีอวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖ ที่มีข้อจำกัดในการรับรู้ความจริงจากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัส  และเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแคว้นสักกะมาเป็นเวลากว่า ๒,๕๐๐ ปี ผู้เขียนจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน  มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ  เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงในเรื่องการมีอยู่ของพระพรหมและพระอิศวร พระองค์ทรงสร้างมนุษย์และสร้างวรรณะให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่เกิดมาตามคำสอนของพราหมณ์และมีความสมเหตุสมเหตุผลของความรู้หรือไม่     

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ