The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันอังคารที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ปัญหาญาณวิทยาเกี่ยวกับการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา (ตอน๒)

   Epistemology problems regarding the first patronage of Buddhism in Pritika(pat1) 


    
บทนำ การอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา

     โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์มีความเห็นแก่ตัว และมักสร้างความคิดเห็นอันเป็นเท็จ เพื่อหลอกลวงผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ด้วยเจตนาทุจริต เพราะไม่มีความละอายหรือกลัวบาป ที่เรียกว่า "หิริโอตตัปปะ"โดยอาศัยความโง่เขลาของผู้อื่น พวกที่ไม่ชอบแสวงหาความรู้ เกี่ยวกับความจริงของกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงไม่รู้ข้อเท็จจริงที่ได้ยินมานั้นหรือส่งผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังโทรศัพท์มือถือของตนนั้น จริงหรือเท็จ?  เมื่อคนโง่เขลา เพราะความโลภ ความกลัว คนจึงเชื่อในคำโกหกนั้น  ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้นั้น เป็นต้น  เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาของพระเจ้าพิมพิสาร พระองค์ทรงเป็นมหาราชาองค์แรกที่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง จนกระทั่งได้รับการยอมรับจากสาธรณชนและมหาราชาแห่งอาณาจักรต่าง ๆ ทั่วอนุทวีปอินเดีย  เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า ๒,๕๐๐ ปีที่แล้ว  พระเจ้าพิมพิสารทรงเป็นมหาราชาผู้ปกครองอาณาจักรมคธ  พระองค์ทรงมีศรัทธาต่อพระสิทธัตถะโพธิสัตว์ตั้งแต่ทอดพระเนตรเห็น เพราะปุริลักษณะของพระองค์นั้น  ไม่ได้เป็นนักบวชจากชนวรรณะต่ำ เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงมีโอกาสสนทนากับพระสิทธัตถะโพธิสัตว์  พระองค์ทรงได้ยินข้อเท็จจริงว่า พระสิทธัตถะโพธิสัตว์ประสูติในวรรณะกษัตริย์แห่งราชวงศ์ศากยะ และพระเจ้าพิมพิสารทรงคิดว่าพระโพธิสัตว์สิทธัตถะเสด็จออกผนวชเพราะปัญหาภายในพระราชวงศ์ พระเจ้าพิมพิสารทรงวางแผนจะถวายดินแดนแห่งแคว้นกลิงคะให้พระสิทธัตถะเป็นผู้ปกครองแต่พระองค์ทรงปฏิเสขที่จะยอมรับไว้เพราะพระองค์ต้องการแสวงหาสัจธรรมแห่งชีวิตเมื่อพระโพธิสัตว์ตรัสรู้กฎธรรมชาติเกี่ยวกับความจริงของชีวิตมนุษย์ทุกคน ด้วยปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ด้วยพระองค์เอง ชาวพุทธทั่วโลกเรียกว่า "พระพุทธเจ้า" พระองค์ได้เสด็จมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาพร้อมกับชฏิลสามพี่น้อง พร้อมบริวารอีก ๑,๐๐๐ คน ที่เมืองราชคฤห์  พระเจ้าพิมพิสารพร้อมประชาชนจำนวน ๑๒๐,๐๐๐ คนทรงถวายการต้อนรับ ที่รัฐลัฐิวันสวนตาลหนุ่มตั้งอยู่เขตเมืองราชคฤห์  แคว้นมคธ  พระองค์ทรงสดับพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า   พระองค์ทรงเกิดดวงตาเห็นธรรมพร้อมกับชาวราชคฤห์ พระองค์เป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนาองค์แรกในพระพุทธศาสนา ผู้คนในยุคนั้นจึงพากันละทิ้งความเชื่อความเชื่อเรื่องเทพเจ้า  และหันไปปฏิบัติธรรมตามหลักมรรคมีองค ๘ จนบรรลุปัญญาอันแท้จริงที่เรียกว่า"อภิญญา ๖ กันเป็นจำนวนมาก 
 
      ผู้เขียนศึกษาประวัติพุทธศาสนาเกี่ยวกับการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาที่สำนักเรียนนักธรรมวัดแห่งหนึ่งและมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เขตขอนแก่น เป็นความรู้ที่มาการอ่าน การเขียน  การฟังและการพูด    ผู้เขียนได้ฟังข้อเท็จจริงที่ได้ยินจากอาจารย์ในห้องเรียนและสั่งสมเป็นหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจของผู้เขียน เมื่อวิเคราะห์หลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจของผู้เขียนแล้ว โครงสร้างความรู้เรื่องการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนานี้ยังไม่ชัดเจน  เพราะผู้เขียนยังไม่รู้กระบวนพิจารณาความจริงของคำตอบในเรื่องนี้     มีหลักฐานเพียงพอสำหรับการให้เหตุผลโดยการอนุมานความรู้เพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบนั้น  ความรู้ที่ได้รับนั้นมีความสมเหตุสมผลหรือไม่  เราจะรู้ได้อย่างไรความรู้นั้นมีจริง เป็นต้น 

ปัญหาคือเราจะรู้ความจริงเรื่องการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาของพระเจ้าพิมพิสารได้อย่างไร? 

              เมื่อผู้เขียนศึกษาประวัติพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าพิมพิสาร      ที่สำนักเรียนนักธรรมแห่งหนึ่ง และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น      แหล่งที่มาความรู้ของผู้เขียนได้มาจากการอ่าน การเขียน การฟังและการพูดผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงจากการสอนของครูในห้องเรียน   และสั่งสมเป็นหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจของผู้เขียน     เมื่อวิเคราะห์หลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจของตนเอง  ปรากฏว่าโครงสร้างความรู้เรื่องการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาไม่ชัดเจนเพราะผู้เขียนยังไม่ทราบขั้นตอนกการพิจารณาความจริงเรื่องนีี้  มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงครบถ้วน  และรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอต่อการวิเคราะห์โดยการอนุมานความรู้จากพยานหลักฐานต่าง ๆ      เพื่อใช้เหตุผลออธิบายความจริงของคำตอบและมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ ปัญหาญาณวิทยาว่า เราจะรู้ได้อย่างไร? ความรู้ในเรื่องนี้้เป็นความจริง เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาที่สืบทอดกันมากว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้ว  เราก็ยอมรับโดยปริยายว่าพระเจ้าพิมพิสารทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเป็นความจริงที่เกิดขึ้น      ดำรงอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งและสิ้นสุดลงเมื่อพระเจ้าพิมพิสารสวรรคต ส่วนประจักษ์พยานซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์นั้นก็เสียชีวิตกันหมดแล้ว ส่วนชาวพุทธที่เกิดในรุ่นต่อมา  จึงไม่มีความรู้ผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมโดยตรงอยู่ในจิตใจ แต่พวกเขาก็ได้ยินข้อเท็จจริงเรื่องนี้ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้น พวกเขาจึงสงสัยในข้อเท็จจริงในเรื่องนี้   

       ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงเรื่องใดเรื่องหนึ่งเราควรสงสัยก่อนจนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริง  และรวบรวมพยานหลักฐานอย่างเพียงพอมาวิเคราะห์โดยการอนุมานความรู้จากพยานหลักฐานต่าง ๆ     เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงเรื่องนี้   ดังนั้นเมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงเรื่องการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาของพระเจ้าพิมพิสารแล้วจึงควรสงสัยก่อนและผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้เรื่องนี้ต่อไป   จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ และพระไตรปิฎกฉบับหลวง ผู้เขียนพบว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กระจัดกระจายอยู่ในพระไตรปิฎกหลายเล่ม  เมื่อโครงสร้างของความรู้เกี่ยวกับการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาของพระเจ้าพิมพิสาร ยังมีข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจนว่า พระองค์ทรงอุปถัมภ์ทรงอุปถัมภ์ในเรื่องใดบ้าง?  เราจะมีวิธีแสวงหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?  เมื่อพยานบุคคลคือพระเจ้าพิมพิสารทรงสิ้นพระชนม์ไปก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปเพียง ๒ ปี  ส่วนชาวราชคฤห์ที่เกิดในสมัยเดียวกับพระองค์นั้นสิ้นชีวิตไปหมดสิ้นแล้วเหลือเพียงเอกสารน่าเชื่อถือของชาวพุทธทั่วโลก  คือพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาและพระไตรปิฎกฉบับหลวง พยานวัตถุที่เป็นอนุสรณสถานที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช        และเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชที่ปักหมุดไว้ทั่วสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล  บันทึกจารีกแสวงบุญของพระภิกษุชาวจีนสองรูปที่เดินทางสืบพระพุทธศาสนาและคัดลอกพระไตรปิฎกกลับไปสู่ประเทศจีน   เป็นต้น 

       เมื่อญาณวิทยา ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของปรัชญา  นักญาณวิทยามีความสนใจในการศึกษาปัญหาบ่อเกิดความรู้ของมนุษย์ โครงสร้างความรู้ของมนุษย์  วิธีการของมนุษย์ในการแสวงหาความรู้  ความสมเหตุสมผลความรู้ที่มนุษย์สร้างขึ้น   ญาณวิทยาจึงมีหน้าที่ศึกษาค้นคว้าหาคำตอบให้มนุษย์รู้ว่า   เรารู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เราได้ยินมานั้นข้อเท็จจริงใดจริงหรือเท็จ   อะไรคือมาตรฐานวัดความรู้เราเรื่องไหนจริงหรือเรื่องไหนเท็จ? ความรู้ของมนุษย์คิดวิเคราะห์ขึ้นมานั้นคืออะไร? ความรู้ของมนุษย์เป็นรูปธรรมหรือนามธรรม เป็นต้น ในปัญหาเหล่านี้นักปรัชญาได้องค์ความรู้ขึ้นมาเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาความจริงไว้หลายวิธีด้วยกันคือ

       วิธีการแสวงหาความรู้ เมื่ออวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖   อวัยวะที่เชื่อมโยงกับความรู้ (ยังมีต่อ)ตอนที่ ๒    


ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ