๓. การพัฒนาศักยภาพจากผู้แสวงบุญสู่พระวิทยากร (Developing one's potential from pilgrims to lecturers)
โดยทั่วไปแล้ว ชีวิตมนุษย์ทั่วโลกเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้หมายถึงความไม่รู้ความเป็นไปของชีวิตตนเอง เพราะมนุษย์ไม่ได้ศึกษาพระพุทธศาสนาและ ไม่ได้ลงมือปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงไม่รู้ว่าจะพัฒนาศักยภาพชีวิตของตนอยางไร ? ให้รู้แจ้งกระบวนการเวียนว่ายเกิดในสังสารวัฏไม่รู้จบสิ้น เมื่อมนุษย์มีความพร้อมปัจจัย ๔ เป็นเครื่องอยู่อาศัยในการดำรงชีวิตแล้ว พวกเขาจึงมัวเมาในการแสวงหาความสุขให้วันและคืนล่วงเลยผ่านไปอย่างไรประโยชน์ต่อชีวิตของตนเอง แม้พวกเขาจะยอมแลกสุขภาพของตนเองก็ตาม ชีวิตของตนเองมีดวงวิญญาณอาศัยในร่างกาย เมื่อตายลงดวงวิญญาณจะออกจากร่างไปเกิดในภพภูมิอื่น ๆ ต่อไป ชีวิตประกอบด้วยปัจจัยทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งมารวมกันเกิดในครรภ์มารดาโดยมารดาตั้งครรภ์ได้ ๙ เดือน และคลอดบุตรเพื่อเติบโตเป็นมนุษย์คนใหม่ ในช่วงชีวิตของพวกเขานั้นมนุษย์มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นในชีวิตตลอดเวลาและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมนุษย์ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านั้น พวกเขาก็จะก็จะสั่งสมเรื่องราวเหล่านั้น เป็นข้อมูลทางอารมณ์ไว้ในใจแล้ว จิตใจก็จะติดวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากข้อมูลทางอารมณ์นั้น ๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความเป็นจริงในเรื่องนั้น เป็นต้นแต่่เรื่่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั้น มนุษย์ไม่สามารถแยกแยะได้ว่ากรรมใดเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่ว คนไหนเป็นคนดีหรือคนไหนชั่ว คนไหนรวยหรือคนไหนจน ใครซื่อสัตย์หรือใครไม่ซื่อสัตย์ ใครกตัญญูหรือเนรคุณต่อพ่อแม่ของตนเอง นี่เป็นเพราะมนุษย์เกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ มีอวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖ มีข้อจำกัดในการรับรู้ความจริงที่สมมติขึ้นหรือความจริงขั้นปรมัตถ์ นอกจากนี้มนุษย์ชอบมีอคติต่อผู้อื่น ทำให้ความคิดเห็นของมนุษย์ขาดความน่าเชื่อ และไม่อาจยอมรับความคิดเห็นนั้นเป็นความจริงได้ เป็นต้น
การจาริกแสวงบุญเป็นประจำทุกปี ได้ผู้เขียนได้รับความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เมืองจากพระวิทยากรแล้ว จิตใจของผู้เขียนจึงเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ของพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เมืองนั้นไว้ เป็นหลักฐานทางอารมณ์ไว้ในจิตใจ นำหลักฐานทางอารมณ์มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องพระพุทธศาสนา และผู้เขียนใช้ความรู้ที่ติดตัวเหล่านี้ไปใช้เป็นประโยชน์ต่อไป เมื่อผู้ได้รับโอกาสเป็นพระวิทยากรในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ได้ใช้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านเข้าในชีวิตนี้ อธิบายให้กับผู้แสวงหาบุญได้ฟังและสอนให้ผู้แสวงบุญปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ เป็นสั่งสมอารมณ์บุญที่กุศลไว้ในจิตใจของพวกเขา มีกำลังสมาธิในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และเกิดปัญญาที่แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไดด้วยตนเอง มาตอบสนองอารมณ์ของตนเองและอารมณ์เย้ายวนที่ยังคงอยู่ในใจของมนุษย์ เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างชีวิตมนุษย์ใหม่ทุกวัน พวกเขาใช้ชีวิตตามเจตนาของการกระทำของตนเอง แม้แต่วิญญาณของมนุษย์ทุกคนจะผ่านวัฏจักรแห่งความตายและการกลับชาติมาเกิดในสังสารวัฏ มีบทเรียนมากจากเกี่ยวกับความพลัดพรากจากสิ่งที่รักและทุกข์ในจิตใจ การกำเนิดขึ้นมาใหม่มนุษย์ก็ลืมสัญญาเก่านั้นไปและมัวเมากับความสุขใหม่ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอีก เพราะพวกเขาไม่รู้มีความรู้แจ้งแทงตลอดในวัฏจักรแห่งความตายและการกลับชาติมาเกิดในสังสารวัฏ นอกจากนี้เมื่อมนุษย์มัวเมาแต่อารมณ์ที่ตนชอบใจ จึงมีศักยภาพชีวิตที่มีความเข้มแข็งและอ่อนแอต่างกันเพราะขาดพัฒนาศักยภาพของตนเอง
ดังนั้น เมื่อธรรมชาติของมนุษย์มีจิตใจที่อาศัยอวัยวะอินทรีย์ ๖ อย่าง ก็จะเชื่อมโยงกับข้อเท็จจริงของความรู้และสั่งสมอารมณ์ของความรู้ต่างๆ ไว้ในจิตใจของตนเองแลัว นำข้อมูลทางอารมณ์นั้น มาวิเคราะห์หาเหตุผลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องนั้นๆ เมื่อได้คำตอบแล้ว จึงนำมาถ่ายทอดเป็นตำรา บทความทางวิชาการ ใช้เป็นความรู้บรรยายให้คนอื่น ๆ ฟังหรือนำปัญหาไปสู่การวิจัยเพื่อความรู้แจ้งในเรื่องนั้น เป็นต้น ข้อเท็จจริงในชีวิตของผู้เขียน เคยไปแสวงบุญในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งในเมืองต่างๆของสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลเป็นเวลา ๘ วัน ระยะทางกว่า ๑,๒๐๐ กิโลเมตรตลอดการโครงการแสวงบุญ ต้องฟังพระวิทยากรบรรยายบนรถแสวงบุญเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน
เมื่อผู้เขียนจาริกไปถึงพุทธสถานแต่ละแห่งต้องปฏิบัติบูชาเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองให้มีชีวิตที่เข็มแข็งด้วยการทำสมาธิ ให้จิตใจบริสุทธิปราศจากอคติและไม่มีอารมณ์ขุ่นมัว มีบุคลิกภาพอ่อนโยนเหมาะกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมมีความมั่นคงในอุดมคติของชีวิต และไม่อ่อนไหวต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม สามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้ ด้วยจิตสำนึกถึงความรู้จากประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมอยู่ในจิตใจและใช้ทักษะจากความรู้นั้นมาแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้ การปฏิบัติบูชาถือเป็นการปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสของพระองค์เอง ในช่วงเวลา ๖ ปีแห่งการบำเพ็ญเพียรภาวนา พระองค์ทรงค้นพบหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ พัฒนาศักยภาพชีวิตของพระองค์จนบรรลุถึงความรู้ในระดับอภิญญา ๖ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้กฎธรรมชาติแห่งชีวิตมนุษย์ พระองค์ทรงเผยแผ่ธรรมะ ๔๕ ปีเพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของผู้อื่นด้วยการปฏิบัติธรรมตามอริยมรรคมีองค์ ๘ เพื่อบรรลุถึงความรู้ระดับอภิญญา๖ เช่นเดียวกับพระองค์
เมื่อความรู้ทางพระพุทธศาสนาเป็นความรู้ของบัณฑิตหรือนักปราชญ์ แม้จะเป็นการยากที่จะเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าให้เป็นความรู้สั่งสมอยู่ในจิตใจของผู้แสวงบุญทุกคนได้ เพราะผู้แสวงบุญแต่ละคนมีภูมิหลังทางการศึกษาพระพุทธศาสนาที่แตกต่างกัน บางคนจึงสนใจศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าและฝึกสมาธิมาตั้งแต่เด็ก จึงมีความรู้ความเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ไม่ยาก การพัฒนาศักยภาพของผู้เขียนจากผู้แสวงบุญสู่พระวิทยากร เมื่อผู้เดินทางไปแสวงบุญเป็นประจำ จึงมีความรู้สั่งสมความรู้จากพระวิทยากรทั้งพุทธประวัติและการปฏิบัติบูชา เมื่อสงสัยก็จะศึกษาเพิ่มเติมจากตำราในพระพุทธศาสนาตลอดเวา เมื่อผู้เขียนมีโอกาสทำหน้าทีเป็นพระวิทยากรบรรยายความรู้ด้านพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ หลักธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปะแและวัฒนธรรมของชาวอินเดียนั้น ความรู้ที่ผู้เขียนอธิบายไว้ ก็จะไม่สูญหายไปไหนแต่ยังคงสั่งสมเป็นความรู้อยู่ในจิตใจของผู้เขียนตลอดไป ยิ่งออกมาบรรยายความรู้ทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะสามารถท่องจำเนื้อหาของพระพุทธศาสนาได้แม่นยำยิ่งขึ้น และมีทักษะในการเล่าเรืองโดยไม่ต้องทบทวนหนังสืออีก บรรเทาความกังวลว่าตนเองอาจทำงานไม่ดีพอ เมื่อเนื้อหาของความรู้นั้นยังสั่งสมอยู่ในจิตของผู้เขียน และยังคงติดตามผู้เขียนกลับคืนสู่ราชอาณาจักรไทยดังนั้น การเป็นพระวิทยากรบรรยายธรรมแก่ผู้แสวงบุญในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เป็นความทรงจำที่งดงามและน่าภาคภูมิใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของผู้เขียนที่ได้มีโอกาสทำงานเพื่อพระพุทธเจ้าและเป็นที่พึ่งของผู้อื่น เป็นต้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น