The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2565

๖.การแสดงออกของ "ตัวตน" ในปรัชญาของผู้เขียน

 

self-expression in the author's philosophy

ประการที่ ๖.การแสดงตัวตนที่แสดงออกมาในรูปการปรัชญาของผู้เขียน

        โดยทั่วไปแล้ว    มนุษย์มักมีเหตุผลในการ กระทำของตนเสมอไม่ว่าจะดีหรือชั่ว    ทำไม่เราถึงพูดแบบนั้น? เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้นเห็นแก่ตัวกันทุกคน มักมีอคติต่อผู้อื่นจึงมีแนวโน้มความชอบและอุปนิสัยที่แตกต่างกัน  ไม่มีใครคิดเหมือนเราหรือเราเองก็ไม่ได้คิดเหมือนเขาเช่นกัน  มนุษย์ทุกคนจึงสร้างตัวตนขึ้นจากความรู้ทางประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมไว้ในจิตใจด้วยกันทั้งนั้น ตามหลักวิชาการทางปรัชญา  เมื่อรักแสวงหาความรู้ทางปรัชญาในเรื่องใด นักปรัชญามักจะสืบเสาะข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานให้เพียงพอก่อน เป็นข้อมูลวิเคราะห์หลักฐานทางอารมณ์ที่มีอยู่ในจิตใจ  เพื่อหาเหตุผลที่จะอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น ๆ และความรู้จากคำตอบในเรื่องนั้น  จะใช้เป็นแนวทางตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินของตนเองไปสู่ความก้าวหน้าของชีวิตได้ เมื่อมนุษย์มีตัณหาที่แตกต่างกัน และซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจของแต่ละคนโดยไม่มีใครจะรู้ได้  จนกว่าเขาจะแสดงเจตนาของการกระทำของตนออกมา  เพื่อแสวงหาสิ่งต่าง ๆ มาตอบสนองความต้องการของตนเอง  ส่วนเหตุผลและปัจจัยในการเขียนปรัชญาในแผ่นดินของพระพุทธเจ้า เพราะผู้เขียนต้องแสดงอัตลักษณ์ทางปรัชญาของผู้เขียนเองที่มีทัศนคติในการมองโลก  มนุษย์ และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทัศนะต่อเทพเจ้าตามหลักฐานที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกมหาจุฬาฯ  เป็นเพียงการเสนอปัญหาความจริงในเรื่องต่าง ๆ  ทางสังคมที่เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนทางสังคมทั่วโลกได้ศึกษาแล้วแล้วจะไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือไม่เป็นปัญหาผู้นั่นที่นั้นจะตัดสินใจเลือกเองเพราะมนุษย์มีเหตุผลในการกระทำของตนเองอยู่เสมอ 

     โดยธรรมชาติของผู้เขียนเช่นเดียวกับมนุษย์ทุกคนมีจิตอาศัยร่างกายและใช้ร่างกายรับรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทางสังคมของมนุษย์ที่เกิดขึ้นแล้ว   เมื่อรับรู้แล้วก็จะสั่งสมอารมณ์เหล่านี้ไว้ในจิตใจของตนเอง และใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์หาเหตุผลพิสูจน์ความจริงเพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้นๆเมื่อปรัชญาคือความรู้ของนักปรัชญา และที่มาของความรู้เกิดขึ้น  เมื่อ"อวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖" ของนักปรัชญาเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ทางสังคมและธรรมชาติ จิตของนักปรัชญาเก็บอารมณ์นั้นไ้ว้เป็นหลักฐานในจิตใจของเขา  เมื่อนักปรัชญาวิเคราะห์หลักฐานแต่ข้อเท็จจริงปรากฏไม่ชัดเจนว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?นักปรัชญาสงสัยข้อเท็จจริงนั้นและต้องการค้นคว้าเรื่องนี้ต่อไปโดยสืบเสาะหาข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมจากนั้น วิเคราะห์หลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในประเด็นนั้นเมื่อผลการวิเคราะห์ข้อมูลพร้อมแล้ว นักปรัชญาสามารถอธิบายคำตอบด้วยเหตุผลของพวกเขาและ นักปรัชญาก็จะนำเสนอปัญหาความจริงต่อสังคมต่อไป เมื่อความจริงถูกเปิดเผยต่อสังคม คำตอบมีทั้งข้อโต้แย้งที่เห็นด้วย และที่ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของนักปรัชญาเป็นเรื่องผู้นั้นต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อหักล้างความจริงของคำตอบของนักปรัชญาคนนั้นต่อไปทุกวันนี้วิถีชีวิตของมนุษย์โลกเปลี่ยนแปลงไปตามความรู้ของนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นองค์ความรู้ต่าง ๆ ขึ้น เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาศักยภาพของชีวิตจนชำนาญการใช้พลังความคิดวิเคราะห์ข้อมูลวิชาการต่างๆ จนนักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเทคโนโลยี่ด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้   

ดังนั้นนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตจึงถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่ สำหรับนักเขียนอิสระในการแบ่งปันความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัส และเผยแผ่เป็นเอกสารดิจิทัลทางอินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือส่วนบุคคลเกี่ยวกับความรู้ทางวิชาการ ข่าวสารทางสังคมและใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการส่งข้อมูลไปยังผู้อ่านทั่วโลกอย่างรวดเร็วดังนั้นนักเขียนด้านปรัชญาและพระพุทธศาสนาจึงเกิดขึ้นมากมายในหลายเว็ปไซต์ ปัญหาที่ว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาหรือปรัชญาหรือเป็นทั้งศาสนาและปรัชญา ก็ยังเป็นปัญหาถกเถียงกันในนิสิตและนักวิชาการทุกระดับ ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงให้คำตอบไว้ชัดเจนแล้วตั้งแต่พระองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พระองค์ทรงประกาศอริยสัจจ์๔ให้มนุษย์ชาติได้ศึกษาและพัฒนาศักยภาพของตนเองผลของการปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ของมนุษย์ทุกคนได้ผลการปฏิบัติก็คืออภิญญา ๖ เหมือนกันทุกคน   เมื่อจิตวิญญาณของมนุษย์ตั้งอดีตจนถึงปัจจุบันยังคงเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาติผ่านวัฏจักรแห่งความตาย และการกลับชาติมาเกิดใหม่ในโลกมนุษย์พร้อมกับอวิชชา ยังต้องการนักปรัชญาวิจัยปัญหาอภิปรัชญาเกี่ยวกับความจริงของมนุษย์อย่างไม่รู้จบเช่นกัน เพราะมนุษย์เกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ ผู้เขียนเห็นว่าคำสอนของพระพุทธเจ้ามีความสมบูรณ์โดยเนื้อแท้เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ แม้จะถูกทดสอบด้วยเหตุผลของนักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการศาสนาอธิบายคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยมโนทัศน์อย่างไร แต่กฎธรรมชาติตามคำสอนของพระพุทธเจ้ายังคงอยู่และดำเนินไปเอง เป็นกฎธรรมชาติที่ทนทานต่อการพิสูจน์ความจริงของมนุษย์ได้และเป็นหลักสากลคืออริยมรรคมีองค์ ๘ ที่มนุษย์ทุกสมัยได้ปฏิบัติแล้วก็เกิดผลอย่างเดียวกันทุกคน

       ดังนั้นคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงสมบูรณ์ด้วยเนื้อหาของความจริงของชีวิตไม่ว่า นักวิชาการจะมองโครงสร้างของพระพุทธศาสนามุมมุมมองของเทวนิยมหรือไม่ก็ตาม ด้วยมุมมองทางปรัชญา หรือกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ก็ผลของคำตอบอย่างเดียวกัน คือชีวิตประกอบด้วยและจิตและเกิดมาพร้อมอวิชชา มนุษย์สามารถพัฒนาศักยภาพในการดำรงของชีวิตได้ ทำให้เรามองเห็นโครงสร้างของความรู้ในด้านศาสนาเทวนิยม พระพุทธศาสนา ปรัชญาและวิทยาศาสตร์เป็นความรู้ของมนุษย์ แต่มีรอยแยกอยู่ที่ความรู้จากประสบการณ์ของชีวิตผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดเหตุผลของข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น ๆ เมื่อพระพุทธศาสนาได้พัฒนาความรู้ในศาสนาพราหมณ์มีหลักคำสอนเกี่ยวกับเทพเจ้าที่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลจากความคิดของมนุษย์ได้แต่มีจุดบอดของความรู้ที่อยู่เหนือขอบเขตประสาทสัมผัสของมนุษย์ เพราะพวกพราหมณ์ไม่รู้ว่าจะพัฒนาศักยภาพชีวิตของพวกเขามีญาณทิพย์มองเห็นเทพเจ้าได้ แม้พราหมณ์จะอ้างว่าเคยเทพเจ้าในแคว้นสักกะมาก่อนแต่ก็ยังข้อสงสัยการมีอยู่ของพรหมและอิศวรหรือวิญญาณออกจากร่างไปเกิดใหม่ในโลกอื่น ๆ แต่เมื่อข้อเท็จจริงในพระพุทธศาสนายืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า มนุษย์มีดวงจิตวิญญาณเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาที่ผ่านวัฏจักรแห่งความตายและการกลับชาติมาเกิดใหม่ ผู้เขียนเชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าว่าชีวิตมนุษย์ไปตามกฎธรรมชาติแห่งชีวิตของตนเอง นี่คือตัวตนทางปรัชญาของผู้เขียนในด้านปรัชญาจิตนิยมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นต้น  

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ