self-expression in the author's philosophy
ประการที่ ๖.การแสดงตัวตนที่แสดงออกมาในรูปการปรัชญาของผู้เขียน
โดยทั่วไปแล้ว มนุษย์มักมีเหตุผลในการ กระทำของตนเสมอไม่ว่าจะดีหรือชั่ว ทำไม่เราถึงพูดแบบนั้น? เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้นเห็นแก่ตัวกันทุกคน มักมีอคติต่อผู้อื่นจึงมีแนวโน้มความชอบและอุปนิสัยที่แตกต่างกัน ไม่มีใครคิดเหมือนเราหรือเราเองก็ไม่ได้คิดเหมือนเขาเช่นกัน มนุษย์ทุกคนจึงสร้างตัวตนขึ้นจากความรู้ทางประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมไว้ในจิตใจด้วยกันทั้งนั้น ตามหลักวิชาการทางปรัชญา เมื่อรักแสวงหาความรู้ทางปรัชญาในเรื่องใด นักปรัชญามักจะสืบเสาะข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานให้เพียงพอก่อน เป็นข้อมูลวิเคราะห์หลักฐานทางอารมณ์ที่มีอยู่ในจิตใจ เพื่อหาเหตุผลที่จะอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น ๆ และความรู้จากคำตอบในเรื่องนั้น จะใช้เป็นแนวทางตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินของตนเองไปสู่ความก้าวหน้าของชีวิตได้ เมื่อมนุษย์มีตัณหาที่แตกต่างกัน และซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจของแต่ละคนโดยไม่มีใครจะรู้ได้ จนกว่าเขาจะแสดงเจตนาของการกระทำของตนออกมา เพื่อแสวงหาสิ่งต่าง ๆ มาตอบสนองความต้องการของตนเอง ส่วนเหตุผลและปัจจัยในการเขียนปรัชญาในแผ่นดินของพระพุทธเจ้า เพราะผู้เขียนต้องแสดงอัตลักษณ์ทางปรัชญาของผู้เขียนเองที่มีทัศนคติในการมองโลก มนุษย์ และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทัศนะต่อเทพเจ้าตามหลักฐานที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกมหาจุฬาฯ เป็นเพียงการเสนอปัญหาความจริงในเรื่องต่าง ๆ ทางสังคมที่เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนทางสังคมทั่วโลกได้ศึกษาแล้วแล้วจะไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือไม่เป็นปัญหาผู้นั่นที่นั้นจะตัดสินใจเลือกเองเพราะมนุษย์มีเหตุผลในการกระทำของตนเองอยู่เสมอ
โดยธรรมชาติของผู้เขียนเช่นเดียวกับมนุษย์ทุกคนมีจิตอาศัยร่างกายและใช้ร่างกายรับรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทางสังคมของมนุษย์ที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อรับรู้แล้วก็จะสั่งสมอารมณ์เหล่านี้ไว้ในจิตใจของตนเอง และใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์หาเหตุผลพิสูจน์ความจริงเพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้นๆเมื่อปรัชญาคือความรู้ของนักปรัชญา และที่มาของความรู้เกิดขึ้น เมื่อ"อวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖" ของนักปรัชญาเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ทางสังคมและธรรมชาติ จิตของนักปรัชญาเก็บอารมณ์นั้นไ้ว้เป็นหลักฐานในจิตใจของเขา เมื่อนักปรัชญาวิเคราะห์หลักฐานแต่ข้อเท็จจริงปรากฏไม่ชัดเจนว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?นักปรัชญาสงสัยข้อเท็จจริงนั้นและต้องการค้นคว้าเรื่องนี้ต่อไปโดยสืบเสาะหาข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมจากนั้น วิเคราะห์หลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในประเด็นนั้นเมื่อผลการวิเคราะห์ข้อมูลพร้อมแล้ว นักปรัชญาสามารถอธิบายคำตอบด้วยเหตุผลของพวกเขาและ นักปรัชญาก็จะนำเสนอปัญหาความจริงต่อสังคมต่อไป เมื่อความจริงถูกเปิดเผยต่อสังคม คำตอบมีทั้งข้อโต้แย้งที่เห็นด้วย และที่ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของนักปรัชญาเป็นเรื่องผู้นั้นต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อหักล้างความจริงของคำตอบของนักปรัชญาคนนั้นต่อไปทุกวันนี้วิถีชีวิตของมนุษย์โลกเปลี่ยนแปลงไปตามความรู้ของนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นองค์ความรู้ต่าง ๆ ขึ้น เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาศักยภาพของชีวิตจนชำนาญการใช้พลังความคิดวิเคราะห์ข้อมูลวิชาการต่างๆ จนนักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเทคโนโลยี่ด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น