๔.แรงบันดาลใจในการเขียนปรัชญาพุทธภูมิ
Inspiration for writeฺ Buddhaphumi Philosophy
๑.บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
โดยทั่วไปผู้เขียนไม่เคยตั้งใจที่จะเขียนบทความวิชาการเกี่ยวกับปรัชญาแดนพุทธภูมิมาก่อน แต่ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในฐานะพระธรรมทูตบรรยายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พุทธศาสนา และนำชาวพุทธไทยไปแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง และสั่งสมความรู้จากการทำงานนี้ไว้เป็นหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจของตน บทความนี้จึงกลายเป็นความทรงจำอันล้ำค่าสำหรับผู้เขียน การรับใช้พระพุทธเจ้า ณ บ้านเกิดของพระพุทธศาสนานั้นหาได้ยากและความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเท่านั้น ความสำเร็จในการทำงานแต่ละครั้งนั้น ต้องอาศัยความรักในการเรียนรู้และความเพียรพยายามของตนเอง แม้ว่าความสำเร็จนี้ จะต้องแลกมาด้วยสุขภาพที่แข็งแรง แต่ความสำเร็จนี้กลับหล่อมหลอมองค์ความรู้ที่สั่งสมมาจากการเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ผู้เขียนได้นำความรู้ไปเทศน์แก่ผู้แสวงบุญในเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง ๔ แห่ง ผู้เขียนมุ่งมั่นเผยแผ่พระพุทธศาสนาตลอดการเดินทางแสวงบุญ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เขียนยังได้พัฒนาปัญญาของตนเองที่จะเข้าใจความจริงที่สมมติและความจริงขั้นปรมัตถ์ในชีวิต เมื่อพระพุทธองค์ทรงเปิดโอกาสให้ผู้เขียนเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับชีวิตตนเอง ผู้เขียนจึงเริ่มสนใจศึกษาพระพุทธศาสนาและแสวงหาคำตอบของชีวิตตนเองได้
กว่า ๒,๕๐๐ปีก่อน พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์และการปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ เพื่อพัฒนาศักยภาพของชาวเมืองพาราณสี เพื่อให้บรรลุอันสูงสุดแห่งชีวิตหรือเรียกว่า "ความจริงขั้นปรมัตถ์" ในสมัยพุทธกาลนั้นพระพุทธเจ้าทรงยกย่องเมืองพารณาสีซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสี ให้เป็น ๑ ใน ๔ เมืองศักดิ์สิทธิ์ ชาวพุทธทั่วโลกควรไปแสวงบุญ พระองค์ส่งเสริมให้ชาวพุทธพัฒนาศักภาพชีวิตของตนเองในชีวิต เชื่อมั่นในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่วแน่ หมั่นปฏิบัติธรรมมรรคมีองค์แปดอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรลุความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ ให้มีสติในระลึกถึงความรู้ที่สั่งสมมาจากการศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียน มหาวิทยาลัยและประสบการณ์ชีวิต มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของตนเองและมีปัญญาที่จะเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ของชีวิตพวกเขาสามารถใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้เพื่ออธิบายความจริงของเรื่องนั้นและแก้ไขปัญหาชีวิตด้วยตนเองได้
ในปี ๒๐๐๒ผู้เขียนตั้งใจจะศึกษาต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยบาณารัสฮินดู ในเมืองพาราณสี
รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ผู้เขียนไม่เคยรู้จักมหาวิทยาลัยบาณารัสฮินดูมาก่อนเลย ด้วยความที่ตั้งอยู่ในเมืองพาราณสี รัฐอุตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบาณารัสฮินดู และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอินเดีย ผู้เขียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ประเพณีและขนบธรรมเนียมของแหล่งกำเนิดภูมิปัญญาโลก ซึ่งสิ่งนี้ได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้เขียนที่มีต่อพระพุทธศาสนาไปอย่างสิ้นเชิง ผู้เขียนมีศรัทธาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในการศึกษาพระพุทธศาสนาที่มหาวิทยาลัยและมุ่งมั่นศึกษาอย่างจริงจัง ผู้เขียนตระหนักถึงความรู้ที่ได้รับจากประสบการณ์ชีวิต และมีสมาธิหรือความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ และรับใช้พระพุทธเจ้าใน ๔ เมืองศักดิ์สิทธิ์ ผู้เขียนพัฒนาปัญญาที่จะเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้นและความขั้นปรมัตถ์ของชีวิต โดยอุทิศตนให้กับการเป็นนักเทศน์ แม้ต้องทนทุกข์ทรมานกับปัญหาสุขภาพไม่ดีมานานหลายปีก็ตาม
หลังจากได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบาณารัสฮินดู ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ผู้เขียนได้เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรพุทธศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาปรัชญา ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา แต่ว่าผู้เขียนจะเป็นอาจารย์เมื่ออายุ ๕๒ ปีแต่ความรู้ ที่ผู้เขียนได้รับจากการศึกษาที่มหาวิทยาลัยบาณารัสฮินดู (Banaras Hindu university) ซึ่งอยู่ในอันดับที่ ๖๐๑ - ๘๐๐ ของโลกและความรู้เกี่ยวกับสถานที่แสวงบุญทั้ง ๔ แห่ง ที่ผู้เขียนสั่งสมจากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยเลือนหายไปและยังคงสั่งสมมาจนถึงปัจจุบัน ความรู้ทางอารมณ์นี้ ยังคงติดตามตัวผู้เขียนไปทุกหนทุกแห่ง แม้แต่ในประเทศไทย
๒.แรงบันดาลใจในการเขียนปรัชญาพุทธภูมิ
เมื่อผู้เขียนมีโอกาสเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้เขียนได้นำความรู้ที่สั่งสมมาจากประเทศอินเดียและเนปาล ซึ่งได้สั่งสมมาจากประสบการณ์ชีวิตการแสวงบุญ ณ ๔ เมืองศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาและการเทศนาตามสถานที่ต่าง ๆ ของพุทธศาสนา มาประยุกต์ใช้ในการสอนนิสิตนักศึกษา ของคณะพุทธศาสตร์ ภาควิชาพระพุทธศาสนาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา
ความรู้นี้สร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาชาวพุทธ (Buddhist student) หลายองค์ เป็นพระธรรมทูตแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ในสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ในภาคเรียนที่ ๒ ของปีการศึกษา ๒๕๕๘ ขณะที่สอนนักศึกษาชั้นปีที่ ๓ ในภาควิชาพระพุทธศาสนาของคณะพุทธศาสตร์ พระนิสิตรูปหนึ่งได้เสนอผให้เขียนบล็อคเกี่ยวกับบทความทางพระพุทธศาสนาใน ๔ เมืองศักดิ์สิทธิ์ เพื่อแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทางออนไลน์ พระนักศึกษาอธิบายว่าหลังจากฟังการบรรยายของผู้เขียนในชั้นเรียนแล้ว พระนักศึกษามีความเข้าใจในหัวข้อทางพุทธศาสนาที่ผู้เขียนพูดได้ชัดเจนขึ้น และไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความจริงของพระพุทธศาสนาอีกต่อไป นอกจากนี้ พระนักศึกษาหลายรูป ยังปรารถนาที่จะไปแสวงบุญที่อินเดียและเนปาลด้วย
ดังนั้น หลังจากรับฟังข้อคิดเห็นของนักศึกษาแล้ว ผู้เขียนจึงเกิดแรงบันดาลใจในการเขียนบล็อคเกี่ยวกับปรัชญาพุทธภูมิ เพื่อเผยแผ่ความรู้เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าถึงนักศึกษา นักวิชาการ และผู้สนใจทางออนไลน์ได้ตลอดเวลา ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชาวพุทธทั่วโลกจะได้รับประโยชน์จากคำสอนของพระพุทธเจ้าสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ของพระองค์ในชีวิตประจำวัน มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนา พัฒนาสติในการระลึกรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายใน และสั่งสมความรู้เหล่านี้เป็นทางหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจ และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้นี้ในการแก้ไขปัญหาตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น