The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2565

บทนำ จัณฑาลผู้ถูกลิดรอนสิทธิมนุษย์ชนในพระไตรปิฎก

บทนำจัณฑาลที่ถูกริดรอนสิทธิมนุษยชนในพระไตรปิฎก 

(Outcaste as evidenced in the Tripitaka) 

คำสำคัญ จัณฑาล สิทธิมนุษยชน พระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ  

บทนำ  จัณฑาลเป็นใคร 

        โดยทั่วไปแล้ว มนุษย์ทุกคนต้องการอิสรภาพในชีวิต   พวกเขาไม่อยากให้ใครมาลิดรอนสิทธิมนุษยชนในการมีชีวิตของพวกเขา โดยเลือกปฏิบัติต่อกันในชีวิตของตัวเอง โดยการถูกเลือกปฏิบัติในสังคม ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมโดยพฤตินัยและการตรากฎหมาย เพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ การศึกษาเพื่อการพัฒนาตนเอง การมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศและการนับถือศาสนา โดยกำหนดข้อห้ามไว้ตามกฎหมายของประเทศ เช่นการแต่งงานข้ามวรรณะ เป็นต้น  สาเหตุเกิดจากผู้นำที่กำหนดโชคชะตากำหนดชีวิตของคนเหล่านั้น แม้ว่าผู้คนจะยินยอมปฏิบัติตามเพราะความอ่อนแอของพวกเขา เพื่อเอาผู้นั้นเป็นทึ่พึ่งของตนตลอดไป แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจะพึ่งพาได้เพราะความตายมักจะพรากชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล  เมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ เราจะเห็นวิวัฒนาการความรู้เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์จากความรู้ในระดับประสาทสัมผัสและสั่งสมในจิตใจมนุษย์ สู่ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อในศาสนาพราหมณ์เป็นระดับความรู้ที่เกินขอบเขตของประสาทสัมผัสของมนุษย์ตั้งแต่ยุคอินเดียโบราณ เช่น พระพรหม พระอิศวรและเทพเจ้าอื่น ๆ เป็นต้น  การดำรงอยู่ของเทพเจ้าเหล่านี้ได้รับการอธิบายโดยนิกายพราหมณ์ต่าง ๆ โดยผ่านพิธีกรรมบูชายัญเท่านั้น เมื่อมนุษย์เกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ของตนเอง เนื่องจากขาดการศึกษาและความรู้จากประสบการณ์ชีวิต พวกเขาจึงไม่มีที่พึ่งของอันประเสริฐ แต่เชื่อในคำสอนของคนที่เป็นใหญ่ในประเทศ ที่มีความรู้จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่สามารถชี้นำผู้คนในสังคมให้ปฏิบัติตามได้ 

   ผู้เขียนค้นพบหลักฐานของต้นกำเนิดความรู้ของมนุษย์ ลักษณะความรู้ของมนุษย์  วิธีของมนุษย์ในการแสวงหาความรู้ ความสมเหตุสมผลความรู้ของมนุษย์ ปรัชญาต้องตอบโจทย์นั้นว่า "เราจะรู้ได้อย่างไรเป็นความจริง?" เมื่อได้ยินความคิดเห็นในเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมนุษย์ ก็มีทั้งความคิดเห็นที่จริงและเท็จ แต่มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความไม่รู้(อวิชชา) มนุษย์ไม่สามารถแยกแยะระหว่างสิ่งจริงหรือสิ่งเท็จได้ จึงสร้างวิธีพิจารณาความจริงที่เป็นสากลที่ทุกคนสามารถใช้ได้ และมีผลในทางปฏิบัติเช่นเดียวกัน ช่วยให้มนุษย์แยกแยะได้ว่าความรู้ใดเป็นจริงหรือความรู้ใดเป็นเท็จ

     ในยุครุ่งเรืองของลัทธิพราหมณ์มีการสอนคนในอนุทวีปอินเดียว่า พรหมสร้างมนุษย์จากร่างของพรหม เมื่อผู้คนทั่วทั้งอนุทวีปเชื่อเรื่องการมีอยู่ของพรหมและเทพเจ้าอื่น ๆ อีกมากมาย ก็เป็นไปได้ที่จะช่วยเหลือวรรณะกษัตริย์ และผู้คนทุกระดับในสังคมจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แต่การบูชายัญสร้างความมั่งคั่งนั้นมีค่ามหาศาลทุกปีให้กับพราหมณ์อารยันและพราหมณ์ดราวิเดียน แต่พราหมณ์อารยันต้องการที่จะผูกขาดการบุชายัญ เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับกลุ่มพราหมณ์อารยันเพียงฝ่ายเดียว เมื่อมหาราชทรงแต่งตั้งพราหมณ์อารยันให้ดำรงตำแหน่งปุโรหิต (priesthood)พวกเขามีอิทธิพลต่อแนวคิดทางการเมืองและให้คำแนะนำแก่สมาชิกรัฐสภาแห่งราชวงศ์ศากยะ ให้นำหลักคำสอนของพราหมณ์อารยันเป็นคำสอนในศาสนาพราหมณ์และตราเป็นกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีเพื่อจำกัดสิทธิและหน้าที่ของพราหมณ์ดราวิเดียนในการทำพิธีบูชายัญ และแต่งตั้งพวกเขาให้เป็นปุโรหิตการตรากฎหมายวรรณะจารีตประเพณีนั้นมีบทบัญญัติห้ามการแต่งงานระหว่างวรรณะหากใครฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน กฎหมายให้อำนาจประชาชนในสังคมสอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิพากษาลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยถูกลงโทษตลอดชีวิตให้ขับออกจากถิ่นที่อยู่อาศัย ต้องอาศัยอยู่ตามถนนในพระนครใหญ่ แม้พวกเขาจะแก่ชรา ป่วย และเสียชีวิตอยู่ข้างถนน  เป็นต้น 

       ในสมัยของพราหมณ์เป็นยุคความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ สมัยพุทธกาลเป็นยุคของนักปรัชญา   และยุคปัจจุบันเรียกว่า "ยุควิทยาศาสตร์"ซึ่งมีการพัฒนาเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ทำให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงความรู้ในด้านต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในชนบทหรือในเมือง  ผู้คนสามารถใช้ความรู้ของผู้อื่นบนอินเตอร์เน็ตเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เร็วขึ้น    ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม  การเมืองและการศึกษาเป็นต้น ในด้านเศรษฐกิจ ผู้คนเริ่มใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อขายสินค้าออนไลน์และให้บริการจัดส่งสินค้า การทำธุรกรรมทางธนาคาร  ในด้านการเมืองอินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทที่ชัดเจนและขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม  และประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลได้ง่ายกว่าที่เคย    และสามารถติดตามงานราชการได้อย่างแม่นยำ   เครือข่ายทางสังคมออนไลน์เป็นชุมชนการเมืองขนาดใหญ่ที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของตน มีหลักฐานแสดงสิทธิ เสรีภาพ  และหน้าที่ของตนต่อชาติบนอินเตอร์เน็ต  และสะท้อนปัญหาสังคมในประเทศที่หน่วยงานของรัฐไม่ต้องรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจนเช่นเดิม   เมื่อนักวิทยาศาสตร์พัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐาน เพื่อหาเหตุผลในการพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องที่น่าสงสัยได้  


     ดังนั้นการสร้างเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต จะเป็นพื้นที่สำหรับคลังข้อมูลขนาดใหญ่ ที่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐานพฤติกรรมของคนในสังคมได้ เพื่อประโยชน์ในการทำงานสาขาต่าง ๆ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตผู้คน มากกว่าสาขาวิชาอื่น ๆ  ส่งผลทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในที่ทำงาน การติดต่อหน่วยงานภาครัฐและธนาคาร ทำให้เราอุ่นใจและลดเวลาอยู่นอกบ้านเป็นต้นการใช้แพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายทั่วโลก ผู้คนสามารถเรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปรัชญาและพุทธศาสนาได้ตลอด๒๔ ชั่วโมง จากเนื้อหา YouTube และเว็บไซต์เกี่ยวกับความจริงของชีวิตมนุษย์ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯและหนังสือพิมพ์ออนไลน์ที่รายงานปัญหาจัณฑาลในสังคมอินเดีย มีการแต่งงานระหว่างวรรณะของหญิงพราหมณ์กับชายจัณฑาล แม้ว่าบิดามารดาของฝ่ายหญิงจะห้ามลูกสาวของเขาก็ตามอย่าคบหากับชายจัณฑาลแต่เธอก็ไม่เชื่อฟัง พ่อจึงตัดสินใจฆ่าลูกสาวในวันแต่งงาน หรือข่าวที่พ่อชาวอินเดียตัดสินใจฆ่าเจ้าสาวและตัดศรีษะเจ้าบ่าว เพื่อรักษาเกียรติยศของครอบครัว มีหลักฐานที่ปรากฏบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในปัจจุบันสาธารณรัฐอินเดียมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งทำหน้าที่เป็นบรรทัดฐานในการปกครองประเทศ พลเมืองมีสิทธิเสรีภาพและหน้าที่เท่าเทียมกันสำหรับชาวอินเดียในการทำงาน การศึกษา การอาชีพ และบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อในศาสนาฮินดู การแบ่งวรรณะตามคำสอนของพราหมณ์ฮินดูและกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี ก็ไม่มีบทบัญญัติไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรอีกต่อไป   แต่ความเชื่อในเทพเจ้าหลายองค์ ก็ยังคงหยั่งรากลึกอยู่ในจิตใจผู้คนต่อไป     

          เมื่อผู้เขียนได้ยินความคิดเห็นเกี่ยวกับจัณฑาลจากหลักฐานในโซเซียลเน็ตเวิร์กแล้ว   แม้ผู้เขียนจะยอมรับโดยปริยายว่าเป็นความจริง โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานเพื่อวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ    เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงในเรื่องจัณฑาลว่าจริงหรือเท็จ    แต่พระพุทธองค์ทรงสอนว่าเมื่อได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดที่เล่่าสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นแล้ว อย่าเชื่อทันทีควรสงสัยไว้ก่อนจนกว่า สืบเสาะข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานให้เพียงพอสำหรับการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง  ๆ   เพื่อหาเหตุผลมาพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น ดังนั้นเมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจัณฑาล แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจัณฑาลมีประวัติในสังคมอินเดียอย่างไร     ผู้เขียนสงสัยและชอบที่จะศึกษาหาความรู้ในเรื่องจัณฑาลนี้ต่อไป   จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารหลักฐาน  พยานวัตถุ พยานบุคคล และพยานเอกสารดิจิทัล  เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐาน เพื่อหาเหตุผลมาพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องจัณฑาลนั้น    บทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย   เพื่อใช้เนื้อหาบรรยายแก่ผู้แสวงบุญในดินแดนที่พระพุทธศาสนากำเนิดในอินเดียและเนปาล    เพื่อให้เนื้อหาของพระพุทธศาสนาเป็นไปในทิศทางอย่างเดียวกัน     กระบวนการพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้าจะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาปริญญาเอกสาขาปรัชญาและพุทธศาสนา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเขียนวิทยานิพนธ์     และวิเคราะห์ข้อมูลในพระไตรปิฎกและเอกสารอื่น ๆ   เพื่อให้ได้ความรู้ที่ตรงตามเกณฑ์ในการตัดสินความรู้ที่สมเหตุสมผล  และไม่มีข้อสงสัยในข้อเท็จจริงของเรื่องนั้นอีกต่อไป  


ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ