Introduction Ratanakiri Mountain Place of execution of prisoners in the ancient city of Rajgir in the Tripitaka
บทนำ
เมื่อเดินทางไปเมืองเก่าราชคฤห์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธ ผู้แสวงบุญชาวไทยพุทธ มักจะได้ยินพระธรรมเทศนาของพระธรรมทูตสายต่างประเทศในสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลเกี่ยวกับความจริงบนภูเขารัตนคีรี ซึ่งเป็น สถานที่ประหารนักโทษในเมืองเก่าราชคฤห์ ซึ่งสืบทอดกันต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยทั่วไป ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราไม่ควรเชื่อทันทีว่าเป็นความจริง เราควรสงสัยเสียก่อน จนกว่าเราจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว เราก็จะใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผล มาพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้นอย่างสมเหตุสมผล หากไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น ก็ถือว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น ขาดความน่าเชื่อถือว่าจะเป็นความจริง การฟังข้อเท็จจริงจากพยานเพียงคนเดียวที่ให้การเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น ถือว่ามีน้ำหนักน้อย และไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นได้ เพราะประพยานเป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว มีอคติต่อผู้อื่นเกิดจากความรัก ความชัง ความกลัว และความโง่เขลา เป็นต้น และจึงไม่สามารถยอมรับในทางปรัชญาได้ว่าเป็นมีความจริงในเรื่องนั้น ๆ เป็นต้น
ภูเขารัตนคีรีเป็นภูเขาหนึ่งใน ๕ ลูก ที่ล้อมรอบเมืองเก่าราชคฤห์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธ ในสมัยนั้นพระเจ้าพิมพิสาร ทรงเป็นกษัตริย์ของแคว้นมคธ เมื่อประชาชนก่ออาชญากรรมอย่างร้ายแรงต่อกฎหมายอาญาของประเทศ เช่น การฆ่าผู้อื่นเมื่อถูกจับได้ มักจะถูกตัดสินประหารชีวิต โดยประหารชีวิตโจรบนภูเขาสูง แล้วโยนศพลงในเหวลึก เมื่ออีแรงได้กลิ่นซากศพมนุษย์ก็จะบินมากินซากศพนั้นเป็นอาหารต่อไป เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ พบว่าในสมัยพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสารทรงประหารนักโทษในเมืองเก่าราชคฤห์จำนวนมาก สถานที่ที่ใช้เป็นที่ประหารนักโทษ น่าจะอยู่บนยอดเขารัตนคีรี มีลักษณะเป็นพื้นที่โล่งกว้างบนภูเขาสูงซึ่งห่างไกลจากผู้คนที่สัญจรไปมา ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเก่าราชคฤห์นั้น เป็นภูเขารัตนคีรีมีหน้าผาสูง เป็นเหวทิ้งซากศพของพวกโจรที่ถูกประหารชีวิตได้ และตั้งอยู่ทางท้ายเมืองเก่าราชคฤห์ ที่สำคัญบรรยายกาศรอบภูเขาคิชฌกูฏนั้น เงียบสงบ ห่างไกลจากผู้คนหลังจากประหารชีวิตโจรแล้ว ศพโจรจะถูกโยนลงหน้าผาของภูเขารัตนคีรีทางด้านทิศตะวันออกเฉียงทิศใต้ของลานยอดเขารัตนคีรี หน้าผาของยอดเขานั้นเป็นเหวลึก จึงไม่มีใครพบเห็นภาพน่าสะอิดสะเอียดของตับ ไต ไส้พุงของซากศพได้ เมื่อบริเวณของยอดเขารัตนคีรีทางตะวันออกเฉียงใต้ มีหน้าผาสูงชัน แม้จะลาดเอียงบ้างเล็กน้อย ก็สามารถโยนซากศพทิ้งลงมาได้ นอกจากนี้ภูเขาคิชฌกูฎ ยังเป็นเนินเขาที่ไม่สูงมากนัก พอที่จะใช้เป็นที่จำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ได้.
เมื่อศพนักโทษประหารถูกโยนทิ้งลงมาในทางใต้ติดกับเขาคิชฌกูฏ ซากศพโจรกว่าจะเน่าเปื่อยก็ต้องใช้เวลาหลายวัน อีแร้งจำนวนมาก เกาะบนยอดเขาคิชฌกูฎก็จะมาบินมากินซากศพเห่านี้ และพระพุทธเจ้าทรงใช้ซากศพเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการสอนเรื่องอสุภะกรรมฐานแก่พระภิกษุที่บวชใหม่หรือบวชมานานแล้ว แต่ยังไม่บรรลุธรรม เพราะภิกษุจำนวนมากมาจากวรรณะสูง มีอคติมากเพราะถือว่าตนเกิดในวรรณะพรหมณ์ จึงเกิดความหลงผิดทำให้จิตใจเข้าถึงธรรมระดับอรหันตผลได้ยาก ยอดเขาคิชฌกูฏนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังของพระเจ้าพิมพิสาร และเรือนรมควันนักโทษ ซึ่งใช้เป็นที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร เขตเมืองเก่าราชคฤห์ เป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธ มีประชากรจำนวน ๘๐,๐๐๐ หมู่บ้านรวมประชากรประมาณ ๑๖,๐๐๐,๐๐๐ คน การปกครองของพระเจ้าพิมพิสาร เป็นพระราชอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดแคว้นหนึ่งในชมพูทวีป แคว้นมคธ จึงเป็นมหาอำนาจทางการทหาร การคมนาคมขนส่ง ทางเศรษฐกิจ มีเศรษฐีจำนวน ๙ คน ที่นำสินค้ามาค้าขายระหว่างเมืองและเสียภาษีทำนุบำรุงพระราชอาณาจักรมคธ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น