
ที่มาของความรู้ในวัดทุ่งพนมวัง
ความรู้ที่เป็นความจริงของมนุษย์ตามแนวคิดทางปรัชญานั้น ต้องมีที่มาของความรู้เช่นเดียวกันธรรมชาติของมนุษย์ตามหลักคำสอนของปรัชญาแดนพุทธภูมิเรื่องขันธ์ ๕ นั้น มนุษย์มีจิตวิญญาณเป็นแก่นแท้ของชีวิต มีธรรมชาติชอบคิดหาเหตุผลของคำตอบ จากการผัสสะสิ่งที่สงสัยจนมั่นใจว่า เป็นความจริง จนกลายเป็นความของตน ปราศจากข้อสงสัยในความจริงอีกต่อไปและนำความรู้นั้นมานึกคิดหาเหตุผลหรือจินตนาการสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาสนองอารมณ์ความต้องการของตัวเอง เป็นต้น
๑. ทฤษฎีความรู้ประจักษ์นิยม เป็นทฤษฎีบ่อเกิดของความรู้ของมนุษย์มีแนวคิดว่ามนุษย์คนใดคนหนึ่งรับรู้จากประสาทสัมผัสเพียงเดียวเท่านั้น จากแนวคิดของทฤษฎีประจักษ์นิยมนั้นเราวิเคราะห์ได้ว่า บ่อเกิดความรู้ของมนุษย์ ต้องรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์เพียงเดียวเท่านั้นแล้วมนุษย์นำเรื่องราวของผัสสะนั้น มาคิดวิเคราะห์หา เหตุผลจนมีคำตอบที่เป็นความรู้ที่มีความสมเหตุสมผลของความรู้ และ ปราศจากข้อสงสัยในความเป็นจริงอีกต่อไป เมื่อฉันรับรู้ในความมีอยู่ของบ้านทุ่งพนมวังทางประสาทสัมผัสของฉัน เพียงอย่างเดียวเท่านั้น กล่าวคือผู้เขียนรับรู้ว่ามีวัดทุ่งพนมวัน เมื่อได้เดินทางมาสู่หมู่บ้านแห่งนี้ครั้งแรก เพื่อมาร่วมงานฉลองตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทุ่งพนมวัง เมื่อพระอธิการเปรม โชติปญฺโญกัลยาณมิตรรุ่นน้องได้รับนิมนต์มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทุ่งพนมวัง ทำให้ผู้เขียนได้รับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของผู้เขียนเองว่าบ้านทุ่งพนมวังเป็นหมู่เล็ก ๆ แห่งหนึ่งหันหน้าไปสู่ถนนมิตรภาพมีอาณาเขตตั้งอยู่ริมอ่างซับประดู่ทางด้านทิศใต้ตัวหมู่บ้านทุ่งพนมวันนั้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนมิตรภาพมากนักเป็นหมู่บ้านอันสวยงามมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ชาวบ้านส่วนใหญ่พักผ่อนนอนก็หลับสนิท อยู่เย็นเป็นสุข อากาศสดชื่นเย็นสบายดีผู้คนส่วนใหญ่ยังศรัทธาในพระพุทธศาสนา พวกเขามีความรู้และความเชื่อที่สั่งสอนกันมาในเรื่องการทำความดีทำดีย่อมได้ดี และเชื่อว่าชีวิตมนุษย์มิได้สิ้นสุดแค่ความตายเท่านั้น แต่จิตวิญญาณออกจากร่างเก่าไปจุติจิตในภพภูมิอื่น ๆ ทำให้จิตวิญญาณเกิดการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด จิตวิญญาณออกจากร่างกายของมนุษย์ไปสู่ภพภูมิไหนขึ้นอยู่กับกรรมของตนเอง เป็นต้น

๒. แผนที่โลกกูเกิล (Google Map) เมื่อผู้เขียนแสวงหาความรู้ในแผนที่โลกกูเกิลแล้วเห็นว่า อาณาเขตของหมู่บ้านทุ่งพนมวังทิศเหนือจดบ้านหนองจอก อ่างทรัพย์ประดู่และถนนมิตรภาพ ทิศตะวันตกจดบ้านหนองจอก ทิศตะวันออกจดบ้านคลองนอก ทิศใต้ติดกับบ้านคลองนอกเป็นต้น วัดทุ่งพนมแห่งนี้เป็นวัดราษฎร์ขนาดเล็กตั้งอยู่ในบ้านทุ่งพนมวัน ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีระยะทางห่างจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา ๖๑.๘ กิโลเมตรใช้เวลาในการเดินทาง๑ ชั่วโมง ๘ นาที่ผู้เดินทางเป็นประจำ จะรู้สึกว่าเป็นเส้นทางไม่ไกลมากนัก จากตัวอำเภอเมืองนครราชสีมาพื้นที่ตำบลมิตรภาพแห่งนี้ มีชาวบ้านประมาณ ๗,๐๐๐ คน อากาศที่นี้เย็นสบายมากในเวลากลางคืน เหมาะแก่การจำพรรษาเพราะมีภูเขาสูงอากาศเย็นมากในเวลากลางคืน
๓. น้ำตกหินเพิง เป็นน้ำตกตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านทุ่งพนมวังมากนัก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบไปนั่งสงบอารมณ์ปล่อยวางการยึดติดในถิ่นที่อยู่อาศัย หน้าที่การงานของผู้เขียนที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน ห่างจากหมู่บ้านทุ่งพนมวังประมาณ ๔.๕ กิโลเมตร จะมีน้ำตกธารขนาดเล็ก ๆ ๑ แห่งเรียกว่า น้ำตกหินเพิง เงียบสงบมาก สีน้ำตกขุ่นด้วยสีโคลนตมเหลืองแสดมากชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาท้ายหมู่บ้านทางด้านทิศใต้ ส่วนสองข้างทางเข้าหมู่บ้านทุ่งพนมวังเป็นที่ราบสูงปานกลางปลูกข้าวโพดและทำไร่มันสำปะหลังเป็นส่วนใหญ่ ผู้เขียนเดินทางมาพักผ่อนให้หายเครียดจากการทำงานบ่อยทุกครั้ง การปลีกวิเวกคนเดียวไม่ได้บอกว่าเราไม่มีเพื่อน ญาติมิตร แต่เราต้องมีหน้าที่ทำงานรับใช้พระพุทธศาสนานึกญาติโยมที่ต้องการแรงบุญหนุนชีวิตให้มีความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณมากขึ้น หมู่บ้านแห่งนี้มีอินเตอร์เน็ตใช้แล้ว ความรู้ที่มนุษย์แบ่งปันกันทั่วโลกจะหลั่งไหลมาพร้อมกับคลื่นอินเตอร์เน็ตเข้าสู่หมู่บ้านแห่งนี้ มากมายต่อหลายเรื่องราวเกี่ยวกับโลก ส่วนจะรู้มากหรือรู้น้อยขึ้นอยู่กับความสนใจของการใช้ชีวิต แต่ละคนเพราะทุกคนมีจริตที่เป็นความชอบไม่เหมือนกันใครชอบสิ่งไหน ย่อมหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้นเป็นประจำย่อมไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากสิ่งที่ตน เองชื่นชอบเมื่อความรู้ลอยผ่านอากาศมาสู่โทรศัพท์มือถือ ย่อมทำให้ชาวบ้านทุ่งพนมวันเป็นผู้มีความรู้เท่าทันโลกออนไลน์ ความเปลื่ยนแปลงของโลกมาจากความรู้ของมนุษย์เพราะนำความรู้ที่นำมาแบ่งปันนั้นมาเลียนแบบและใช้ประโยชน์แก่ตัวเอง และสังคมเพราะมนุษย์ทุกคนมีอินทรีย์ ๖ เป็นบ่อเกิดของความรู้ จิตของชาวบ้านทุ่งพนมวัน ก็เช่นเดียวเมื่อพวกเขารู้แล้วย่อมนำมาคิดนำความรู้นั้น มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น ในอนาคตข้างหน้าพวกเขาอาจการพัฒนาสถานที่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงก็ได้ กลายเป็นสินและการบริการ ที่ผู้ใช้ต้องจ่ายกันนำมาซึ่งความเจริญสู่ท้องถิ่นได้

๓. น้ำตกหินเพิง เป็นน้ำตกตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านทุ่งพนมวังมากนัก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบไปนั่งสงบอารมณ์ปล่อยวางการยึดติดในถิ่นที่อยู่อาศัย หน้าที่การงานของผู้เขียนที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน ห่างจากหมู่บ้านทุ่งพนมวังประมาณ ๔.๕ กิโลเมตร จะมีน้ำตกธารขนาดเล็ก ๆ ๑ แห่งเรียกว่า น้ำตกหินเพิง เงียบสงบมาก สีน้ำตกขุ่นด้วยสีโคลนตมเหลืองแสดมากชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาท้ายหมู่บ้านทางด้านทิศใต้ ส่วนสองข้างทางเข้าหมู่บ้านทุ่งพนมวังเป็นที่ราบสูงปานกลางปลูกข้าวโพดและทำไร่มันสำปะหลังเป็นส่วนใหญ่ ผู้เขียนเดินทางมาพักผ่อนให้หายเครียดจากการทำงานบ่อยทุกครั้ง การปลีกวิเวกคนเดียวไม่ได้บอกว่าเราไม่มีเพื่อน ญาติมิตร แต่เราต้องมีหน้าที่ทำงานรับใช้พระพุทธศาสนานึกญาติโยมที่ต้องการแรงบุญหนุนชีวิตให้มีความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณมากขึ้น หมู่บ้านแห่งนี้มีอินเตอร์เน็ตใช้แล้ว ความรู้ที่มนุษย์แบ่งปันกันทั่วโลกจะหลั่งไหลมาพร้อมกับคลื่นอินเตอร์เน็ตเข้าสู่หมู่บ้านแห่งนี้ มากมายต่อหลายเรื่องราวเกี่ยวกับโลก ส่วนจะรู้มากหรือรู้น้อยขึ้นอยู่กับความสนใจของการใช้ชีวิต แต่ละคนเพราะทุกคนมีจริตที่เป็นความชอบไม่เหมือนกันใครชอบสิ่งไหน ย่อมหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้นเป็นประจำย่อมไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากสิ่งที่ตน เองชื่นชอบเมื่อความรู้ลอยผ่านอากาศมาสู่โทรศัพท์มือถือ ย่อมทำให้ชาวบ้านทุ่งพนมวันเป็นผู้มีความรู้เท่าทันโลกออนไลน์ ความเปลื่ยนแปลงของโลกมาจากความรู้ของมนุษย์เพราะนำความรู้ที่นำมาแบ่งปันนั้นมาเลียนแบบและใช้ประโยชน์แก่ตัวเอง และสังคมเพราะมนุษย์ทุกคนมีอินทรีย์ ๖ เป็นบ่อเกิดของความรู้ จิตของชาวบ้านทุ่งพนมวัน ก็เช่นเดียวเมื่อพวกเขารู้แล้วย่อมนำมาคิดนำความรู้นั้น มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น ในอนาคตข้างหน้าพวกเขาอาจการพัฒนาสถานที่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงก็ได้ กลายเป็นสินและการบริการ ที่ผู้ใช้ต้องจ่ายกันนำมาซึ่งความเจริญสู่ท้องถิ่นได้
ผู้เขียนมาจำพรรษาที่หมู่บ้านทุ่งพนมวันเพราะกัลยาณมิตรนิมนต์มาจำพรรษาด้วยเพราะขาดแคลนพระภิกษุมาจำพรรษาไม่ครบองค์กฐิน ก่อนมาจำพรรษาฉันมาพำนักที่วัดแห่งนี้หลายครั้งได้รับการต้อนดุจญาติมิตรเป็นอย่างดี ในวันนี้ตรงกับวันสารทไทยที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๐ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ เดือน ๑๐ ตรงกับวันสารทไทย ญาติโยมชาววัดทุ่งพนมวันได้ พากันเข้าวัดเพื่อบุญด้วยการให้ทานและปฏิบัติบูชา พวกเขาเตรียมอาหารวานคาวไปร่วมกันทำกันทำบุญมีการสมาทานศีล ๘ สำหรับผู้ต้องการรักษาศีล สวดมนต์ทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็นหลังจากพระภิกษุผู้จำพรรษาประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ฉันภัตตาการเช้าและแสดงพระธรรมเทศนาแล้วชาวบ้านทุ่งพนมวันรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อแสดงออกถึงความสามัคคีในชุมชนบ้านทุ่งพนมวัน พบปะพูดคุยกันแสดงออกถึงความสามัคคีในหมู่คณะเมื่อผู้เขียนมาอยู่นี้อยากบันทึกประวัติศาสตร์ความทรงจำของสถานที่แห่งนี้ไว้ ทุกวินาทีของชีวิตย่อมมีความหมายสำหรับคนที่รู้จักค่าของชีวิต ทำให้ผู้เขียนสนใจเขียนเรื่องสารทไทยในพระไตรปิฎกเพื่อเรารู้ประเพณีวัฒนธรรมดีงามให้เข้าใจยิ่งๆขึ้น
๓.ความหมายของคำว่า "วันสารท"
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้คำนิยามคำว่า "วันสารท" แปลว่าเทศกาลทำบุญในวันสิ้นเดือน ๑๐ โดยนำพืชพรรณธัญญาหาร แรกเก็บเกี่ยวมาปรุงเป็นข้าวทิพย์และข้าวมธุปายาสถวายพระสงฆ์ในเดือน ๑๐ ของทุก ๆ ปี ในเส้นทางวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ที่เกิดจากพลังดึงดูดซึ่งกันและกันระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ การดึงดูดซึ่งกันและกันจึงเกิดมีแรงเหวี่ยงขึ้นมา ทำให้เส้นทางโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ลักษณะเป็นวงรี ทำให้โลกอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์ในระยะทางไม่เท่ากันตลอดทั้งปี เป็นเหตุให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ ในช่วงเดือนกันยายนของทุก ๆ ปีอากาศเริ่มเปลื่ยนจากฤดูฝนไปสู่ฤดูหนาว พืชธัญหารที่ปลูกไว้ในฤดูฝนพอเริ่มย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ต้นข้าวและเปลือกเมล็ดข้าวในท้องนาของหมู่บ้านทุ่งพนมวังเริ่มแก่เต็มที่แล้ว หัวมันสำปะหลังที่ปลูกไว้ไร่เริ่มให้ผลแล้ว ชาวบ้านทุ่งพนมวันเริ่มเก็บเกี่ยวเป็นอาหาร และส่งโรงงานผลิตแป้งมันในราคา ๑.๙๐ บาท ชาวนาเริ่มมีจิตใจรื่นเริง เพราะผลิตข้าวได้ตามฤดูกาลมันสำปะหลังได้ผลอุดมสมบูรณ์แล้ว และเก็บเกี่ยวส่งโรงงานได้แล้ว
เมื่อชาวบ้านทุ่งพนมวัง มีรายได้จากเกษตรกรรม เพื่อมีชีวิตที่พอเพียง พึงพาตนเองตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา อัตตาหิอัตโณนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตนเอง มีเวลาพักผ่อนบ้างหลังจากตรากตำทำงานมาหลายเดือน เริ่มระลึกถึงบุพพการีผู้ล่วงลับ ขณะยังมีชีวิต อาจทำบุญให้ทานสะสมกำลังไว้ในกระแสจิตน้อย เพราะจิตใจฝักใฝ่ในการทำงานหนักจะได้สบายในยามแก่ เมื่อพักผ่อนพอสมควร จิตก็ระลึกถึงบุพกาลีผู้ล่วงลับไปอาจ จะมีชีวิตที่ลำบากทุกคนเชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีอยู่จริงกล่าวคือ มนุษย์ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่วันสิ้นสุด เพราะความฝันของมนุษย์กล่าวถึงญาติที่ล่วงลับมาเยี่ยม คำสอนเรื่องนรกและสวรรค์ที่บรรพบุรุษ สอนเอาไว้ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ยังเป็นความทรงจำที่เรียกว่า "สัญญา" ที่จดจำได้ตั้งแต่เยาว์วัยยังดังกึกก้องในหัวใจอยู่เสมอ เมื่อมีความเชื่อว่าจริงชาวทุ่งพนมวังคิดอยากทำบุญอุทิศส่งไปให้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ถ้าไม่มีบรรพบุรุษเหล่านั้นจับจองที่ดินทำไร่ ทำสวน ได้สร้างบ้าน สร้างมรดกที่ไร่ ที่ทำงานที่ทำสวนไว้ให้พวกเราก่อนมาปฏิสนธิจิตวิญญาณในโลกมนุษย์เมื่อเกิดเติบใหญ่ต้องทำมาหากิน จึงมีที่ทางใช้ประกอบมาหากินเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึงอาศัยคนอื่นด้วยความทุกข์ยากของตนเองไม่ต้องทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำ เริ่มต้นชีวิตใหม่จนกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทเพื่อสะสมให้ได้เป็นร้อยหรือพันบาท ชีวิตต้องเริ่มต้นเลขศูนย์เงินบาทใหม่ แต่นี้เป็น เพราะพ่อแม่ปู่ย่าตายายได้จับจองที่ดิน ซื้อที่ไร่ที่นาไว้ให้เราทำมาหากิน เพาะปลูกเพื่อหาเลี้ยงชีพไว้กับตัวเราอยู่อย่างมีเกียรติ สมศรีของความเป็นมนุษย์เพราะทำให้พวกเราพึงพาอาศัยตนเองได้ ท่านเหล่านั้นจึงเป็นคนเก่งมีความรู้และความสามารถจากประสบการณ์ของประสาทสัมผัสของตัวเองที่สั่งสมความรู้อันยาวนาน สามารถปลูกพืชให้เจริญงอกงามและอุดมสมบูรณ์ได้ผลผลิตมาก ความสอดคล้องของแนวคิดของชาวบ้านทุ่งพนมวังกับพระไตรปิฎกเมื่อชาวบ้านมีแนวคิดว่าชีวิตหลังความตายมีอยู่จริงปัญหาว่าสอดคล้องกับพระไตรปิฎกหรือไม่ เมื่อเราวิเคราะห์จากพระไตรปิฎก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น