The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

บทนำ ความสงสัยของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก

 Introduction what did the Lord  Buddha suspect   based on the evidence  from the   Tripitaka 

บทนำ        

    โดยทั่วไปแล้ว ปรัชญาคือความรู้ของมนุษย์ที่เรียกว่า "นักปรัชญา" สนใจศึกษาปัญหาต้นกำเนิดความรู้ของมนุษย์ ความรู้เชิงปรัชญามาจากจากปัจจัยทางร่างกายและจิตใจของมนุษย์  โดยการใช้อวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖ (organic 6) ของร่างกายเป็นสะพานเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของโลก มนุษย์ จักรวาล  และข้อพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับเทพเจ้า ฯลฯ เมื่อมนุษย์รับรู้แล้วและเอาเรื่องราวต่าง ๆ เก็บเป็นอารมณ์ไว้ในจิตใจ    หลังจากได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดแล้ว จิตใจของมนุษย์ก็จะเก็บข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นเป็นหลักฐานทางอารมณ์ไว้เป็นข้อมูลในจิตใจ แต่ธรรมชาติของจิตใจมนุษย์คือการเป็นนักคิด เมื่อรู้สิ่งใด ก็คิดจากข้อมูลที่มีอยูในจิตใจตนเอง เมื่อเขาคิดวิเคราะห์ข้อความคิดเห็นจริงแล้ว หลายคนก็เชื่อทันทีว่าเป็นเรื่องจริง บางคนไม่เชื่อว่ามีจริง  พระพุทธเจ้าทรงเป็นนักปรัชญาตรัสสอนว่าอย่าเชื่อในทันทีว่าข้อความคิดเห็นเป็นความจริง เราควรสงสัยว่าสิ่งนี้ยังไม่เป็นความจริง จนกว่าเราจะสืบสวนข้อความคิดเห็นและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อให้เหตุผลมาพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น  หรืออธิบายข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องนั้น   ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงของคำตอบถือว่าข้อความคิดเห็นที่ได้รับฟังจากพยานเพียงคนเดียว มีน้ำหนักน้อย ขาดความน่าเชื่อถือ และนักปรัชญาไม่ยอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริง หากผลการวิเคราะห์ข้อมูลนั้น ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ?   นักปรัชญาชอบที่จะแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้เพิ่มเติม ก็จะตรวจสอบข้อความเห็นนั้น และรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และพิสูจน์ข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน และไม่มีเหตุให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป  ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ และอรรถกถา  ก็ได้ฟังข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า ในยุครุ่งเรืองของศาสนาพราหมณ์ ชาวอารยันเชื่อในคำสอนพราหมณ์เรื่องการมีอยู่ของเทพเจ้า ที่สามารถช่วยมนุษย์ให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและถวายเครื่องบูชาอันทรงคุณค่าต่าง ๆ ตามคำแนะนำของพราหมณ์  เมื่อพิธีบูชาเสร็จสิ้นแล้ว ๆเครื่องบูชาจะตกเป็นของพราหมณ์ที่ทำพิธี พิธีบูชายัญสร้างความมั่งคั่งมหาศาลให้กับพราหมณ์นิกายต่าง ๆ  รวมทั้งพราหมณ์ดราวิเดียนด้วย   ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเจริญรุ่งเรือง   เมื่อการบูชาเทพเจ้าของพราหมณ์อารยัน  กลายเป็นที่ศรัทธาของมหาราชาที่ปกครองดินแดนนั้น พระองค์ทรงแต่งตั้งพราหมณ์อารยันเป็นปุโรหิต มีหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่มหาราชาในเรื่องกฎหมาย ขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณี ถือว่าเป็นพยานที่น่าเชื่อถือได้ สามารถยืนยันการมีอยู่ของเทพเจ้าและเทวดาได้ เพราะพวกเขาอ้างว่ามีความรู้ที่อยู่เหนือประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสของตนเอง และพวกเขาอ้างว่าเคยเห็นเทพเจ้าหรือเทวดาในแคว้นนี้มาก่อน เมื่อพราหมณ์อารยันต้องการรักษาความมั่งคั่งจากการบูชายัญเทพเจ้าและกลัวว่าในอนาคต พราหมณ์ดราวิเดียน จะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  การบูชาและอิทธิพลทางการเมืองเช่นเดียวกับของพวกตน คงเป็นเรื่องยากที่ชาวอารยันที่จะมีความเจริญรุ่งเรืองเพียงฝ่ายเดียว   

          เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้    พราหมณ์ปุโรหิตจึงเสนอให้สมาชิกรัฐสภาแห่งอาณาจักรสักกะทราบ นำหลักคำสอนของพราหมณ์ที่ว่าพรหมสร้างมนุษย์และวรรรณะ กำหนดสิทธิและหน้าที่ให้มนุษย์ทำงานตามวรรณะที่เกิดมา เพื่อตราเป็นกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยวรรณะโดยแบ่งคนออกเป็น ๔ วรรณะคือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์และศูทร เป็นต้น หากผู้ใดฝ่าฝืนกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยวรรณะให้คนในสังคมลงโทษโดยการขับไล่ออกจากสังคมซึ่งเป็นถิ่นพำนักอาศัยได้ แต่มนุษย์มีตัณหาจึงขาดสติและควบคุมจิตของตนเองไม่ได้  พวกเขาจึงสมัครใจอยู่ร่วมกันเป็นสามีภริยากันโดยไม่รู้ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยวรรณะ มีบทลงโทษผู้กระทำความผิดโดยคนในสังคมจึงลงโทษด้วยการขับไล่ออกจากสังคม หากยังดื้อรั้นจะถูกเฆี่ยนตีตายหรือถูกแขวนคอในที่สาธารณะ และเสียสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยวรรณะโดยปริยาย ต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนไปตามถนนในเมืองใหญ่ ๆ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นปัญหาจัณฑาลต้องถูกลงโทษจากสังคมตลอดชีวิต ต้องออกมาใช้ชีวิตเร่ร่อน แม้จะอยู่ในวัยชรา เจ็บป่วยไข้ และนอนตายข้างถนน เป็นต้น เจ้าชายสิทธัตถะทรงสืบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานจากบุคคลที่น่าเชื่อเช่นปุโรหิต เพื่อหาข้อเท็จจริงถึงประวัติของพระพรหมและพระอิศวร แต่ไม่มีพราหมณ์ปุโรหิตคนไหนตอบปัญหาถึงความเป็นมาของพระพรหมและพระอิศวรให้พระองค์เข้าใจได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เช่นนี้ พระองค์ทรงสงสัยในการมีอยู่ของเทพเจ้า และทรงตัดสินพระทัยปฏิรูปสังคมในอาณาจักรสักกะ โดยเสนอยกเลิกกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยวรรณะเพื่อปฏิรูปสังคม แต่ไม่สามารถยกเลิกระบบวรรณะได้ เพราะขัดกฎหมายจารีตประเพณีสูงสุดในการบริหารปกครองประเทศ ที่เรียกว่า"หลักอปริหานิยธรรม"

               เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงข้างต้นแล้ว  เมื่อวิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากหลักฐานซึ่งเป็นพยานเพียงปากเดียว เหตุผลในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของคำตอบมีน้อย ยังไม่ชัดเจนพอที่จะยืนยันความจริงของคำตอบในเรื่องข้อสงสัยของพระพุทธเจ้าได้ว่าเป็นอย่างไร  ผู้เขียนชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนี้ต่อไป  จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ    อรรถกถา   และเอกสารทางวิชาการทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น    เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ต่อไป   บทความเรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ในแดนพุทธภูมิในการสั่งสอนพุทธศาสนิกชนให้เนื้อหาของพระพุทธศาสนาเป็นไปในแนวทางเดียวกัน  ส่วนกระบวนการวิเคราะห์หลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบในประเด็นที่น่าสงสัยนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในระดับปริญญาเอกสาขาพระพุทธศาสนา ปรัชญา และสาขานิติศาสตร์ ในงานวิจัยในระดับปริญญาเอก   สามารถอธิบายเหตุผลของคำตอบ ที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินความรู้อย่างสมเหตุสมผล  ปราศจากข้อสงสัยในข้อเท็จจริงอีกต่อไป  


ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ