Introduction to the dharma puzzle in Black Buddha Nalanda according to Buddhaphumi philosophy
๑.บทนำ
การแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งในสาธารณรัฐอินเดีย และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล (ferderal Democratic Republic of Nepal) เริ่มต้นในฤดูหนาวเดือนตุลาคมทุกปีและสิ้นสุดในวันที่ ๓๑ มีนาคมของปีถัดไปฤดูหนาวในอินเดียและเนปาล เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับชาวพุทธทั่วโลกในการปฏิบัติบูชา (worship practice) ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง ๔ แห่งนี้ อากาศเย็นสบายในฤดูหนาวเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำสมาธิ ปราศจากยุงและแมลงอื่น ๆ รบกวน ทำให้สามารถปฏิบัติธรรมได้นานขึ้น อย่างไรก็ตาม ฤดูร้อน และฤดูฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อแสวงบุญของเราได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนโชคดีที่ได้แสวงบุญในทุกฤดูกาล และเห็นว่าการปฏิบัติธรรมไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่ฤดูหนาว ทุกปีในฤดูร้อน ผู้แสวงบุญชาวพุทธอินเดียจากทั่วสาธารณรัฐอินเดียก็จะมาสักการะพระพุทธเจ้าที่วัดมหาโพธิ ซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าอย่างต่อเนื่อง ข้อดีของฤดูหนาว ก็คืออากาศเย็นสบายทำให้สามารถปฏิบัติธรรมได้นานขึ้น อย่างไรก็ตาม ท้องฟ้าในรัฐพิหารจะมืดเร็วกว่าในฤดูหนาวเมื่อเทียบกับฤดูร้อนและฤดูฝน เนื่องจากลมหนาวพัดพาหมอกควันจากเทือกเขาหิมาลัย ลงสู่ที่ราบอันกว้างใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่หลายล้านตารางไมล์ ในเขตนาลันทา รัฐพิหารและเขตกุสินารา รัฐอุตรประเทศด้วย เนื่องจากวงโคจรของโลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าในฤดูร้อนและฤดูฝน ในยามพลบค่ำ ลมหนาวจะพัดเอาความหนาวเย็นและหมอกควัน ลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วรอบมหาวิทยาลัยนาลันทาโบราณ บริเวณโดยรอบปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบ ทำให้แทบจะมองไม่เห็นผู้คนเดินอยู่บนท้องถนนในเมืองโบราณนี้

หลังจากนำแสวงบุญชาวไทยไปปฏิบัติบูชาที่สถูปพระสารีบุตร ณ มหาวิทยาลัยนาลันทาโบราณ เพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของผู้แสวงบุญ ด้วยการปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ผู้เขียนและผู้แสวงบุญชาวไทย จึงต้องรีบเร่งออกจากมหาวิทยาลัยนาลันทาโบราณ ไปยังพระวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ดำ ก่อนที่พระวิหารจะปิด และไม่อนุญาตให้ผู้แสวงบุญเข้าไป กลุ่มของเราต้องรีบเร่ง ด้วยการนั่งบนรถม้าบ้าง รถยนต์บ้างเข้าไปยังพระวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ดำก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
เนื่องจากการสักการะพระพุทธรูปองค์ดำ เป็นหนึ่งในกิจกรรมมากมายที่ผู้แสวงบุญปรารถนาการปฏิบัติบูชาพระพุทธรูปองค์ดำ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต สิ่งนี้จึงก่อให้เกิดศรัทธาที่หลั่งไหลออกมาจากจิตใจมนุษย์ ซึ่งยังคงไม่แน่นอนและอ่อนไหวต่อความไม่แน่นอนของชีวิตด้วยธรรมชาติเช่นนี้ ผู้แสวงบุญทุกคนจึงต้องมาสักการะพระพุทธรูปองค์ดำ เป็นพระพุทธรูปองค์นี้เป็นหนึ่งในพระพุทธรูป ที่ผู้เขียนนำกลุ่มแสวงบุญไปสักการะอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับศาสนสถานอื่น ๆเนื่องจากชีวิตของผู้เขียน ผูกพันกับพระพุทธรูปองค์ดำอย่างลึกซึ้ง เนื่องจาก ผู้เขียนทำหน้าที่บรรยายประวัติศาสตร์พระพุทธรูปองค์ดำอยู่เป็นประจำ ผู้เขียนจึงต้องรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อใช้ในการบรรยายให้ผู้แสวงบุญฟังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เมื่อผู้เขียนรับรู้การมีอยู่ของพระพุทธรูปสีดำซึ่งเป็นศิลปะทางพระพุทธศาสนารูปที่สร้างสรรค์ขึ้นในช่วงรเรืองของมหาวิทยาลัยนาลันทาโบราณ หลังจากผู้เขียนได้สัมผัสพระพุทธรูปองค์ดำผ่านอายตนะภายในของตนเอง และสั่งสมหลักฐานทางอารมณ์นี้เป็นข้อมูลไว้ในจิตใจ ผู้เขียนจึงใช้หลักฐานทางอารมณ์นี้ เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ โดยอนุมานความรู้ เพื่อพิสูจน์ความจริงของเรื่องพระพุทธรูปองค์นี้ ผู้เขียนใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้เพื่ออธิบายความจริงอย่างไรก็ตาม เนื่องจากอายตนะภายในของผู้เขียนที่จำกัดการรับรู้ และมีความคิดที่อคติไปข้างใดข้างหนึ่งเนื่องจากความไม่รู้ของตนเอง ชีวิตของผู้เขียนซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่งจึงตกอยู่ในความมืดมน ส่งผลให้ผู้เขียนขาดปัญญาที่จะเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ เมื่อการใช้เหตุผลของผู้เขียนเช่นเดียวกับนักตรรกศาสตร์ และนักปรัชญาในการอธิบายความจริงเกี่ยวกับพระพุทธองค์ดำแล้ว บางครั้งอาจใช้เหตุผลได้อย่างถูกต้อง บางครั้งอาจใช้เหตุผลไม่ถูกต้อง บางครั้งอาจใช้เหตุผลก็เป็นไปในลักษณะนี้หรือในลักษณะนั้น เมื่อเหตุผลของผู้เขียนในการตอบคำถามยังคงคลุมเครือและไม่ชัดเจน วิญญูชนได้ยินความคิดเห็นของผู้เขียน จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นความจริง เป็นต้น
แต่เมื่อวิเคราะห์หลักฐานจากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสเกี่ยวกับการมีอยู่ของพระพุทธรูปสีดำแล้ว แต่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพุทธรูปองค์ดำยังไม่ชัดเจน ที่จะทำให้เกิดเข้าใจในความจริงในเรื่องนี้ได้ เมื่อข้อเท็จจริงยังน่าสงสัย อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้ต่อไป จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เช่น พยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุ และพยานเอกสารดิจิทัลต่อไป เมื่อมีหลักฐานเกี่ยวกับ The dharma puzzle in Black Buddha (ปริศนาธรรมในหลวงพ่อพุทธองค์ดำ)เพียงพอแล้ว ก็จะใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงอย่างสมเหตุสมผล โดยเขียนคำตอบในรูปแบบบบวิเคราะห์เชิงปรัชญา บทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพระธรรมวิทยากร ใช้บรรยายในแดนพุทธภูมิให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และกระบวนการวิเคราะห์น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยของนักศึกษาระดับปริญญาเอกหลักสูตรพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตสาขาพระพุทธศาสนาใช้เป็นแนวทางวิเคราะห์ข้อมูล จนเกิดความรู้ผ่านเกณฑ์การตัดสินที่สมเหตุสมผลและไม่มีข้อสงสัยในความเป็นจริงอีกต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น