The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บทนำ สถูปเกสเรีย (Kesariya Stupa)ตามหลักปรัชญาแดนพุทธภูมิ



ภาพโดยก้าวตามธรรมFollow the Dharma
๑. บทนำ 
๒. ปัญหาเกี่ยวกับความจริงของสถูปเกสเรีย  
๓. บ่อเกิดความรู้ของสถูปเกสเรีย
๔. สถูปเกสเรียเป็นสถานที่แสดงกาลามสูตรของพระพุทธหรือไม่   เพียงใด

๑. บทนำ 

                เมื่อผู้เขียนได้ไปแสวงบุญตามสังเวชนียสถานทั้ง  ๔   เมือง (The four holy places of Buddhism)        ในสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลเป็นเวลาหลายปี ตามโครงการการแสวงบุญของชาวไทยพุทธ     เป็นระยะทาง ๑,๒๐๐ กิโลเมตร  ใช้เวลา ๘ วัน ในเส้นทางแสวงบุญจากอำเภอกุสินารา  รัฐอุตตรประเทศไปยังอำเภอเวสาลี  รัฐพิหาร      หรือหากผู้แสวงบุญเดินทางจากเมืองปัฏนาซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐพิหารนั้น  ผ่านอำเภอเวสาลีไปยังอำเภอกุสินารานั้น ผู้แสวงบุญจะเห็นเจดีย์อีกองค์หนึ่ง   ที่มีฐานกลมกลายเป็นกองดินเหนียวขนาดใหญ่ เสริมด้วยอิฐดินเผาด้วยไม้  เจดีย์ลักษณะนี้พบเห็นได้ทั่วไปในรัฐต่าง ๆ ของอินเดีย   เจดีย์แห่งนี้ตั้งอยู่กลางนาข้าวในเขตชนบทของรัฐพิหาร        ในฤดูร้อนที่อากาศแห้ง      พายุฤดูร้อนจะนำฝุ่นมาสะสมบนเจดีย์    จนกลายเป็นกองดินกองใหญ่โผล่ออกมาอยู่กลางนาข้าว       ในการวิจัยของนักโบราณคดีชาวอังกฤษในสมัยอังกฤษปกครองอินเดียนั้น    ข้อมูลที่ได้รับจากการบันทึกของพระภิกษุฟาเหียนได้พบเจดีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำคันดักซึ่งเป็นแม่น้ำแยกเขตอาณาจักรวัชชีกับอาณาจักรมัลละออกจากกัน   ในยุคต่อมา    กรมโบราณคดีแห่งสาธารณรัฐอินเดียเรียกสถูปแห่งนี้ว่า"สถูปเกสรียา" ตั้งอยู่ในแคว้นวัชชี 
   
            เมื่อผู้เขียนศึกษาเรื่องสถูปเกสเรียจากหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ และพระไตรปิฎกฉบับหลวง  ได้ฟังข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับสถูปเกสเรียแห่งนี้บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกฉบับใดฉบับหนึ่ง   นักปราชญ์ชาวพุทธหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นว่า        เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องกาลามสูตร พระพุทธองค์ตรัสสอนชาวเกสปุตตะว่า เมื่อได้ยินความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น      หนังสือเรียนหรือคัมภีร์ศาสนา   ฯลฯ  เราไม่เชื่อทันที เราควรสงสัยตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน         จนกว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานให้เพียงพอเพื่อวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ   เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงในเรื่องนี้        

          ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังเป็นที่น่าสงสัยว่าสถูปเกสเรียมีความเป็นมาอย่างไร  ?      แต่ผู้เขียนชอบศึกษาและแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้ต่อไป   จะสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้และรวบรวมหลักฐานจากที่มาของความรู้ในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ  และพระไตรปิฎกฉบับหลวง อรรถกถา บันทึกการขุดค้นโบราณคดีสมัยอังกฤษปกครองอินเดีย  และบันทึกการแสวงบุญของนักบวชชาวจีน       แผนที่โลกกูเกิลและแผนที่อินเดียโบราณ ๑๖ แคว้น   เป็นต้น       เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลโดยอนุมานความรู้จากหลักฐานในพระไตรปิฎก,    อรรถกถา, บันทึกของสมณะจีน เป็นต้น   เพื่อหาเหตุผล มาอธิบายความจริงของคำตอบในเรืองนี้อย่างสมเหตุสมผล          โดยเขียนคำตอบในรูปแบบของบทความวิเคราะห์เชิงปรัชญาคำตอบที่ได้รับ        จะเป็นประโยชน์แก่พระวิทยากรในการบรรยายธรรมแก่ผู้แสวงบุญในแดนพุทธภูมิเพื่อให้เนื้อหาความจริงของพระพุทธศาสนาเป็นไปในแนวทางเดียวกัน    ส่วนกระบวนการพิจารณาความจริงของพระพุทธศาสนาและปรัชญา   ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ   เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงนั้น        จะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยของนิสิตปริญญาเอกทางพระพุทธศาสนาและปรัชญา     เพื่อให้นิสิตได้รับผลการวิจัยที่มีความสมเหตุสมผล   ไม่มีข้อสงสัยในข้อเท็จจริงของเรื่องนั้นอีกต่อไป   

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ดีครับอยากไปบ้างจังเลย

Unknown กล่าวว่า...

สาธุครับผม

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ