The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บทนำ: วัชชี, รัฐประชาธิปไตยแห่งแรกของโลกตามหลักปรัชญาแดนพุทธภูมิ

Introduction: Vajji, The world's first democratic state in Buddhaphumi's Philosophy 

คำสำคัญ รัฐประชาธิปไตย, พระไตรปิฎก, แคว้นวัชชี

๑.บทนำ

     เมื่อได้ศึกษาประวัติศาสตร์ในสมัยพระพุทธเจ้าจากหลักฐานในพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๔๕ เล่ม (ปกสีฟ้า)  ในเบื้องต้นเราได้ยินข้อเท็จจริงว่าแคว้นวัชชี (Vajji country) เป็นรัฐเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาอันอุดมสมบูรณ์   พรมแดนด้านเหนือของแคว้นวัชชีติดกับเทือกเขาหิมาลัยซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางอากาศเป็นเทือกเขาที่ปกคลุม ๕ ประเทศคือ  ปากีสถาน เนปาล อินเดีย ภูฐาน และจีน เป็นต้น  พรมแดนด้านใต้ของแคว้นวัชชีติดกับแคว้นมคธ แคว้นกาสีและแคว้นอังคะ พรมแดนด้านทิศตะวันตกติดกับแคว้นมัลละ พรมแดนด้านตะวันออกติดกับเมืองฮารัปปา     

    แคว้นวัชชีได้สถาปนาประเทศของตนเป็นรัฐอิสระที่มีอำนาจอธิปไตยของตนเอง ไม่ขึ้นอยู่กับแคว้นใด ก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะทรงละทิ้งวรรณะกษัตริย์ของพระองค์ เพื่อผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อค้นหาความจริงของชีวิตมนุษย์ที่ว่า พระพรหมและพระอิศวรทรงสร้างมนุษย์จากร่างกายของพระองค์ และทรงสร้างวรรณะให้มนุษย์ทำงานตามวรรณะที่ตนเกิดมา  เป็นต้น  แคว้นวัชชีถือเป็นรัฐประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และมีชื่อเสียงด้านปรัชญาการเมือง  เป็นรัฐศาสนาของพราหมณ์ มีระบบการปกครอง "แบบสามัคคีธรรม"   แบ่งหน้าที่การทำงาน โดยแบ่งประชาชนออกเป็น ๔ วรรณะ โดยวรรณะกษัตริย์แห่งแคว้นวัชชี มีส่วนร่วมในการใช้อำนาจอธิปไตยในการปกครองประเทศ 

       รัฐสภาแห่งราชอาณาจักรวัชชีใช้อำนาจนิติบัญญัติในการตรากฎหมาย  อำนาจบริหารในปกครองประเทศ  และอำนาจตุลาการในการตัดสินตัดสินอรรถคดีทั้งหมด  เป็นต้น   สมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรวัชชี มาจากวรรณะกษัตริย์ทั้งหมดมีจำนวน ๗,๗๐๗ พระองค์  เจ้าชายลิจฉวีทรงทำหน้าที่ประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรวัชชีในการตรากฎหมาย เจ้าชายลัจฉวีและสมาชิกรัฐสภาทำหน้าที่เป็นคณะรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ และสมาชิกรัฐสภาเป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการในการตัดสินคดีทั้งหมด มีรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีสูงสุดของราชอาณาจักรวัชชี เรียกว่าราชอปริหานิยธรรม หรือ"ธรรมของกษัตริย์" ซึ่งประกาศใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการปกครองประเทศ ชาวแคว้นวัชชีส่วนใหญ่นับถือในศาสนาพราหมณ์ และแบ่งประชาชนออกเป็น ๔ วรรณะ ตามคำสอนของศาสนาพราหมณ์ ประชาชนเชื่อกันว่าพระพรหมสร้างมนุษย์และวรรณะให้ผู้คนทำงานตามวรรณะที่ตนเกิดมา ได้แก่ วรรณะพราหมณ์ วรรณะกษัตริย์, วรรณะแพศย์ และวรรณะศูทร เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม    เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานเรื่องความเป็นรัฐของแคว้นวัชชีในพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณ ๔๕ เล่ม(ปกสีฟ้า)  และอรรถกถาแล้ว   ในเบื้องต้น เราได้ยินข้อเท็จจริงว่า การมีอยู่ของแคว้นวัชชี  แม้จะมีหลักฐานเอกสาร   ที่กล่าวถึงไว้ในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ์   และเราจะยอมรับความจริงโดยปริยาย   แต่ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้       ก็กระจัดกระจายอยู่ในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ์ และอรรถกถาหลายเล่ม   เมื่อวิเคราะห์หลักฐานโดยการอนุมานความรู้เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้     โดยการใช้เหตุผล  ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงเกี่ยวกับการมีอยู่ของแคว้นวัชชีแล้ว  ก็ยังขาดความสมเหตุสมผล    เพราะองค์ประกอบของความเป็นแคว้นวัชชียังไม่ชัดเจน เพราะมีหลักฐานเอกสารเท่านั้นคือพระไตรปิฎกส่วนหลักฐานทางวัตถุ      ซึ่งเป็นอาณาเขตที่ตั้งของแคว้นวัชชียังไม่มีหลักฐานมายืนยันในเรื่องนี้      ทำให้เรื่องราวก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของผู้เขียนนั้น    องค์ประกอบความรู้เกี่ยวกับความจริงของแคว้นวัชชียังไม่ชัดเจน เกี่ยวกับการมีอยู่ของแคว้นวัชชีในฐานะชุมชนทางการเมืองที่มีอาณาเขต  และ ประชาชน  ที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง ในการปกครองประเทศในสามอำนาจคือ อำนาจนิตบัญญัติ    อำนาจบริหาร  และอำนาจตุลาการ  เป็นต้น     
    
         เมื่อแคว้นวัชชีเป็นรัฐประชาธิปไตยแห่งแรกของโลกที่มีอยู่ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล  สมาชิกรัฐสภาของแคว้นวัชชีมาจากการเลือกตั้งกันเองของวรรณะกษัตริย์จากหลายราชวงศ์ ปกครองด้วยระบอบสามัคคีธรรม  โดยวรรณะกษัตริย์ทุกพระองค์มีส่วนรวมในการบริหารปกครองประเทศ  และผลัดกันเปลี่ยนกันปกครองของแคว้นวัชชีที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "สหพันธรัฐ"   ประธานรัฐสภาได้รับเลือกตั้งโดยสมาชิกรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาทำหน้าที่ในการบัญญัติกฎหมายจารีตประเพณี ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารประเทศ   และทำหน้าที่เป็นตุลาการในการพิจารณาตัดสินคดี ด้วยสมาชิก ๗,๗๐๗ พระองค์  รัฐสภาแห่งรัฐวัชชี จึงเป็นรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดในโลกและสถานที่ประชุมของรัฐสภานั้นเรียกว่า"สันฐาคาร" สมาชิกรัฐสภา     คือเจ้าลิจฉวีที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภานี้ เรื่องการประชุมของเจ้าลิจฉวีมีเป็นหลักฐานข้อความที่กล่าวถึงในพระไตรปิฎกออนไลน์หลายฉบับด้วยกัน    

              อาณาจักรวัชชีแห่งนี้มีความแข็งแกร่งมากในการปกครองประเทศเพราะมีกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศเรียกว่า  "หลักอปริหานิยธรรม"    เป็นธรรมะของกษัตริย์ที่ใช้ในการปกครองรัฐ   มีศักดิ์เทียบเท่ากับกฎหมายรัฐธรรมนูญในการปกครองประเทศในยุคปัจจุบัน  ประชาชนมีศักยภาพในการใช้ชีวิตและทักษะในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมีวินัยและความสามัคคีในการประชุมรัฐสภาพร้อม ๆ กันและเลิกพร้อมกันในการบัญญัติกฎหมาย ในการบริหารงานร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา พิจารณาและตัดสินปัญหาสำคัญของประเทศ      การใช้อำนาจตุลาการสมาชิกรัฐสภาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  ที่ทำให้รัฐวัชชีมีความเจริญรุ่งเรืองเพียงฝ่ายเดียว แต่สุดท้ายแล้ว รัฐเอกราชนี้สูญเสียอำนาจอธิปไตยไป          เพราะสมาชิกรัฐสภาแห่งอาณาจักรวัชชีแตกความสามัคคีกันเอง ในสมัยปัจจุบันแคว้นวัชชีเป็นเพียงอำเภอเวสาลีเป็น ๑ ใน ๑๔ อำเภอขึ้นตรงกับเขตปกครองของรัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย  ผู้เขียนเดินทางมาเยี่ยมชมภูมิภาคแห่งอาณาจักรวัชชีโบราณแห่งนี้หลายครั้ง    เพราะอยู่ตรงข้ามกับเมืองปัฏตาลีบุตรโบราณแห่งแคว้นมคธในยุคปัจจุบันเรียกว่า "เมืองปัตนะเมืองหลวงของรัฐพิหารในยุคปัจจุบัน"  

        เมื่อผู้เขียนฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาณาจักรวัชชี รัฐประชาธิปไตยแห่งแรกในพระไตรปิฎกข้างต้น พระพุทธองค์ทรงสอนว่าไม่ให้เชื่อข้อเท็จจริงที่ได้ยินจากการเล่าสู่กันฟังสืบต่อกันมา ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนและผู้เขียนชอบที่จะศึกษาค้นหาความรู้ในเรื่องนี้ต่อไปและรวบรวมหลักฐานทั้งพยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานบุคคล ให้เพียงพอเพื่อพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับอาณาจักรวัชชี, รัฐประชาธิปไตยแห่งแรกในพระไตรปิฎก ต่อไป     เมื่อผู้เขียนตัดสินใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Vajji, The world's first democratic state in the Tripitaka (แคว้นวัชชี, รัฐประชาธิปไตยแห่งแรกของโลกในพระไตรปิฎก) โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากหลักฐานในพระไตรปิฎก อรรถกถา บันทึกจดหมายเหตุต่าง ๆ  พยานวัตถุได้แก่โบราณสถานๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตเวสาลี รัฐพิหาร และแผนที่โลกของGoogle Maps  เป็นต้นบทความที่ได้จากการวิเคราะห์หลักฐาน จะเป็นข้อมูลต่อพระธรรมวิทยากรใช้บรรยายกับผู้แสวงบุญชาวไทยในแดนพุทธภูมิ ให้มีเนื้อหาสาระของพระพุทธศาสนาเป็นไปในทางเดียวกันได้รับความรู้ความเข้าใจในพุทธประวัติ วิธีคิดวิเคราะห์จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตระดับปริญญาเอกเป็นการอนุมานความรู้ที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินที่สมเหตุสมผลปราศจากข้อสงสัยในความจริงอีกต่อไป 


  

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

บรรยายได้ดี เห็นภาพเลยครับ

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ