คำสำคัญ พระโพธิสัตว์ ปราสาทบายน
๑.บทนำ
๒.พระโพธิสัตว์ในพระไตรปิฎก.
๓.ปราสาทบายน
๑.บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของพระโพธิสัตว์
๒.พระโพธิสัตว์ในพระไตรปิฎก.
๓.ปราสาทบายน
๑.บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของพระโพธิสัตว์
เมื่อผู้เขียนได้ยินเรื่องราวของ "พระโพธิสัตว์" ในพระพุทธศาสนามานานแล้ว จากการบรรยายของครูบาอาจารย์ที่สอนปรัชญาและพระพุทธศาสนาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในราชอาณาจักรไทย จากพระธรรมเทศนาของพระภิกษุในวันหยุดสำคัญทางพระพุทธศาสนาและ พระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยที่ปฏิบัติศาสนกิจในเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง ๔ แห่งในสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าเจ้าชายสิทธัตถะแห่งราชวงศ์ศากยะ เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ ผู้ปกครองราชอาณาจักรสักกะ ระบอบการปกครองของอาณาจักรแห่งนี้แบบสามัคคีธรรม ตามกฎหมายวรรณะและจารีตประเพณี ประชาชนในอาณาจักรแบ่งออกเป็น ๔ วรรณะ ได้แก่วรรณะกษัตริย วรรณะพราหมณ์ วรรณะแพศย์ และวรรณะศูทร เป็นต้น
กฎหมายฉบับนี้กำหนดสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่ของประชาชน ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะของตน กฎหมายวรรณะจารีตปะเพณีนี้มีสภาพบังคับใช้ที่ประชาชนตามปฏิบัติตาม กฎหมายห้ามประชาชนแต่งงานข้ามวรรณะและการปฏิบัติหน้าที่ของวรรณะอื่น ผู้ใดฝ่าฝืนคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายวรรณะอย่างร้ายแรงโดยการมีเพศสัมพันธ์กับคนวรรณะอื่น หรือปฏิบัติหน้าที่ของวรรณะอื่นจะถูกพระพรหมลงโทษ ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยชึ่งเป็นคัมภีร์เก่าแก่ที่สุด บันทึกเหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าไปยังอาณาจักรต่าง ๆ ในอนุทวีปอินเดีย เผยให้เห็นพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของความคิดมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละยุค คำสอนของพระพุทธเจ้าถูกพิสูจน์ความจริงโดยนักตรรกศาสตร์ นักปรัชญา และนักวิทยาศาสตร์ต่างตั้งคำถามมานานกว่า ๒,๕๐๐ ปี และทุกคนได้รับคำตอบเดียวกันคือ"อภิญญา" ๖ ประการ
เมื่อผู้เขียนศึกษาเรื่องราวของ "พระโพธิสัตว์" จากหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ ผู้เขียนได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อใน"เทพเจ้า"ในอนุทวีปอินเดีย ซึ่งเป็นความรู้อยู่นอกเหนือการรับรู้ของมนุษย์ แต่นักตรรกศาสตร์ นักปรัชญาได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ของตนเองโดยอาศัยเหตุผลอธิบายและคาดคะเนความจริงในลักษณะนี้จากสิ่งที่ได้ยินมานั้น เพื่อพิสูจน์การมีอยู่ของเทพเจ้าองค์นี้ พวกเขาใช้เหตุผล เป็นเครื่องมือในการอธิบายความจริงอย่างสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม เมื่อนักตรรกะนักปรัชญามีอายตนะภายในที่จำกัดความสามารถในการรับรู้เรื่องราวของเทพเจ้าองค์นี้ ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน และมีความคิดที่อคติเพื่อยืนยันความจริงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้ชีวิตของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความมืดมน พวกเขาขาดปัญญาที่จะเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ ดังนั้น เมื่อพวกเขาใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงของเรื่องนั้น บางครั้งพวกเขาใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงอย่างถูกต้อง บางครั้งพวกเขาใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงอย่างไม่ถูกต้อง บางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงในลักษณะนี้บ้่าง หรือ บ้างครั้งพวกเขาให้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงในลักษณะนั้นบ้าง เมื่อนักตรรกศาสตร์และนักปรัชญาใช้เหตุผล เพื่ออธิบายความจริงอย่างคลุมเครือและไม่ชัดเจน วิญญูชนเช่นเจ้าชายสิทธัตถะได้ยินความคิดเห็นของนักตรรกศาสตร์และนักปรัชญญาแล้ว ย่อมไม่เชื่อถือความคิดเห็นและไม่ยอมรับว่าเป็นความจริงในเรื่องนั้น
พระโพธิสัตว์ เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาคำว่า "พระโพธิสัตว์" ตามหลักฐานในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. ๒๕๕๔ พบคำว่า "โพธิสัตว์" ได้ถูกนิยามไว้ว่า "ผู้จะบรรลุธรรมเป็นพุทธเจ้า" เป็นต้น ปราสาทบายนสร้างขึ้นโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ผู้ทรงเป็นพุทธศาสนิกชนนิกายมหายาน พระองค์ทรงมีความศรัทธาและบำเพ็ญเพียรที่จะบรรลุธรรมเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าด้วยพระองค์เอง ตามหลักฐานที่ปรากฏในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ และพระสูตรต่าง ๆ และมีคฤหัสถ์จำนวนมากที่บรรลุธรรมจากการฟังธรรม เช่น ยสกุลบุตรที่บรรลุธรรมโดยการยกระดับจิตใจเป็นพระอรหันต์ในขณะเป็นคฤหัสถ์ หลังจากฟังพระธรรมเทศนา ณ "ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน" พระเจ้าพิมพิสารทรงบรรลุโสดาบัน ที่ สวนตาลในเมืองราชคฤห์ เป็นต้น เหตุการณ์นี้เองเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เขียนศึกษาเกี่ยวกับ"ปราสาทบายน" เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโดยตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับปราสาทบายน เมื่อมีหลักฐานเพียงพอ ผู้เขียนก็จะใช้หลักฐานเป็นข้อมูลมาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้เพื่อพิสูจน์ความจริงของเรื่องนี้ โดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญา ในการอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่อง "พระโพธิสัตว์ในปราสาทบายน" นั้น
แม้ว่าเรื่องราวของ"พระโพธิสัตว์แห่งปราสาทบายน" จะเป็นเรื่องจริงในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ และนักโบราณคดียอมรับว่าปราสาทบายนเป็นวัดพุทธมหายาน และถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้คนในยุคนั้นผ่านพิธีกรรมทางพุทธศาสนามหายานแต่ปราสาทก็กลายเป็นโบราณสถานอันเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเป็นภูมิปัญญาของชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับกัมพุชาทุกปี เมื่อนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชมศึกษา และเรียนรู้จากปราสาทบายน เมื่อพวกเขามีความรู้ความเข้าใจในความจริงของชีวิต ที่ถ่ายทอดลงบนปราสาทบายน พวกเขาก็จะสามารถนำความรู้นั้นมาพัฒนาศักยภาพของตัวเอง แม้ในยุคปัจจุบัน มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสติปัญญา บางคนเป็นนักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้ พวกเขาสามารถแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตให้มนุษย์แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของปราสาทบายนให้ผู้คนทั่วโลกได้ศึกษาเรื่องนี้
แต่เมื่อนักตรรกวิทยาและนักปรัชญาได้ยินความจริงในเรื่องการมีอยู่ของปราสาทบายนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พวกเขามักจะความคิดเห็นเรื่องความเป็นมา และความสำคัญของปราสาทบายนตามปฏิภาณของตนเองตามหลักเหตุผล และคาดคะเนความจริงจากสิ่งที่ได้ยินมานั้น โดยใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของเรื่องนั้น แต่การใช้เหตุผลของพวกเขาบางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงที่ถูกต้อง บางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงไม่ถูกต้อง บางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงในลักษณะนี้ บางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงในลักษณะนั้น เมื่อเหตุผลของคำตอบของเรื่องยังคลุมเครือและยังไม่ชัดเจน
วิญญูชนเมื่อได้ยินเหตุผลอธิบายคำตอบของเรื่องนั้นย่อมไม่เชื่อถือและไม่ถือว่าเป็นความรู้ที่แท้จริงในเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนว่าเมื่อได้ยินข้อเท็จจริงเรื่องใดที่ถ่ายทอดสืบเนื่องกันมา หรือคำสอนในคัมภีร์ทางศาสนา หรือคำสอนของครูบาอาจารย์ของตนเองแล้ว มิให้เชื่อทันที่ว่าเป็นความจริง เราควรสงสัยไว้ก่อนจนกว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักต่าง ๆ ให้เพียงพอ มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงของคำตอบ หรือพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น ๆ เป็นต้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แม้ผู้เขียนมีโอกาสเดินทางไปทัศนะศึกษาในปราสาทบายน ณ เมืองเสียมเรียบเพื่อได้ศึกษาโบราณสถานที่ปราสาทบายน แต่ข้อความคิดเห็นของไกด์ชาวกัมพูชาได้อธิบายความเป็นมาของพระโพธิสัตว์ในปราสาทบายน ยังอธิบายความจริงในเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ผู้เขียนมีความสนใจศึกษาเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ในปราสาทบายนอีกต่อไป โดยจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงของคำตอบในรูปบทความเชิงวิเคราะห์ในบล็อคส่วนตัวของผู้เขียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพระวิทยากรได้บรรยายเรื่องพระโพธิสัตว์แก่พระแสวงบุญชาวไทยในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง และวิธีพิจารณาความจริงของปรัชญาจะเป็นแนวทางแก่นิสิตในระดับปริญญาเอกสาขาปรัชญา พระพุทธศาสนาและสาขาอื่น ๆ ที่แยกเนื้อหาไปพระพุทธศาสนาและปรัชญา โดยนำวิธีพิจารณาความจริงของพระพุทธศาสนาและปรัชญาไป ไปใช้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐานในข้อวิจจัย เพื่อวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงในเรื่องต่าง ๆ นั้น คำตอบที่ได้จะเป็นความรู้ที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินที่สมเหตุสมผล อันเป็นประโยชน์งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาและบูรณการณกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้ เป็นต้น
1 ความคิดเห็น:
เพื่อเผยแพร่ พระพุทธศาสนา สาธุๆ ครับผม
แสดงความคิดเห็น