The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

บทนำ สถานที่กำเนิดของพระพุทธศาสนาตามปรัชญาพุทธภูมิ

 The Birthplace  of  Buddhism according to  Buddhaphumi's philosophy
 
  ๑.บทนำ          

            โลกเป็น ๑ ในดาวเคราะห์ ๙ ดวงที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะ และโลกนี้เป็นบ้านเกิดของมนุษย์ประมาณ ๗.๓ พันล้านคน องค์ประกอบของชีวิตมนุษย์แต่ละคนเกิดขึ้นจากปัจจัยทางร่างกายและจิตใจ ทั้งร่างกายและจิตต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน จิตใจอาศัยอวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖ ของร่างกายในการรับรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์   เมื่อตระหนักรู้แล้ว จิตใจของมนุษย์ก็จะดึงดูดอารมณ์เหล่านั้นมาเก็บไว้ในจิตใจ   แต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะคิดจากสิ่งที่รู้ เมื่อเรารู้สิ่งใดแล้ว  พวกเขาก็จะคิดจากสิ่งนั้น และบางคนก็เชื่อทันที่ว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ยินมานั้น เป็นความจริง หรือบางคนไม่เชื่อว่ามีจริง เพราะมนุษย์มักจะมีอคติต่อกัน เนื่องจากความโง่เขลา, ความกลัว, ความเกลียดชัง, ความรักความเสน่หาเป็นต้น  นอกจากนี้มนุษย์ยังมีอวัยวะอินทรีย์ถึง ๖ อวัยวะและมีข้อจำกัดในการรับรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทางสังคม มันเกิดขึ้นไกลเกินกว่าจะรับรู้ได้ หรือไม่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์นั้น  เป็นต้น  

       ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาการหลอกลวงของมนุษย์ที่มีต่อกัน  ตามหลักพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าทรงสร้างวิธีพิจารณาความจริงขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้  โดยสร้างกระบวนพิจารณาความจริงขึ้นโดยวางหลักการไว้ว่า   เมื่อผู้ใดได้ยินข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านเข้าในชีวิต  ไม่ควรเชื่อทันทีว่าจริงแต่ให้สงสัยไว้ก่อน  จนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผลมาพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น  ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงของคำตอบ   พระพุทธเจ้า ถือว่าข้อเท็จจริงนั้นขาดความน่าเชื่อถือและไม่สามารถยอมรับว่าข้อเท็จจริงนั้นเป็นความจริงได้ เป็นต้น  ในสมัยรุ่งเรืองของศาสนาพราหมณ์นั้น  ชาวแคว้นสักกะเชื่อคำสอนของพราหมณ์ว่าพรหมและอิศวร ช่วยให้มนุษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต   โดยทำพิธียัญผ่านพราหมณ์อารยัน เมื่อชาวแคว้นสักกะได้บูชาเทพเจ้าจนกลายเป็นวิถีชีวิตประจำวัน สร้างความมั่งคั่งจากการบูชายัญให้กับพราหมณ์อารยันและพราหมณ์มิลักขะจนกลายเป็นปัญหาทางการเมือง เมื่อพราหมณ์อารยันต้องการผูกขาดการบูชาเทพเจ้า เพื่อความมั่งคั่งจากเครื่องบูชายัญเหล่านั้น  และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จเมื่อสมาชิกรัฐสภาแห่งราชวงศ์ศากยะได้เห็นชอบประกาศใช้บังคับคำสอนของพราหมณ์เป็นทั้งคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี เพื่อความสงบสุขตามหลักศีลธรรมและกฎหมาย 

      เมื่อปี ๒๐๐๒-๒๐๑๐ ผู้เขียนได้เข้าศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยบานารัสฮินดู เขตพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ในเขตการปกครองเมืองพาราณสีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาแสดงเทศนาเป็นครั้งแรกเรื่อง "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร " แก่ปัญจวัคคีย์จนเกิดดวงตาเห็นธรรม เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า มนุษยมีวิญญาณเป็นตัวตนที่แท้จริงของชีวิต และดำเนินไปตามอารมณ์กรรมที่สั่งสมอยู่ในจิตใจ  วิญญาณของมนุษย์ทุกคนต้องผ่านวัฏจักรแห่งความตายและการกำเนิดที่ไม่สิ้นสุด ปัญจวัคคีย์เกิดดวงเห็นธรรมจึงขอบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธเจ้าทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ให้การอุปสมบทแก่ปัญจวัคคีย์เป็นครั้งแรก และเมื่อปัญจวัคคีย์พัฒนาศักยภาพของชีวิตตนเองโดยการปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ จนสามารถบรรลุถึงความรู้ระดับ "อภิญญา ๖ "  ในสมัยปัจจุบัน ป่าอิสิปตนมฤคทายวันตั้งอยู่ในตำบลสารนารถ  อำเภอพาราณสี  รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ชาวอินเดียเรียกสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ว่า "วัดพระพุทธเจ้า (Buddha Temple) " และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกเพราะมีเจดีย์โบราณหลายแห่ง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงคุณอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงตัดสินพระทัยสละวรรณะกษัตริย์ทรงออกผนวชเพื่อค้นหาความจริงของชีวิต เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้กฎแห่งธรรมชาติของชีวิตมนุษย์แล้ว พระองค์ทรงได้ตัดสินพระทัยเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยการแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์  เมื่อได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เกิดดวงตาเห็นธรรมมีความรู้ความเข้าใจในชีวิต และออกบวชเป็นภิกษุทำให้เกิดสิ่งสูงสุดในพระพุทธศาสนา ๓ ประการคือ พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พระรัตนตรัย" เป็นต้น      
       
ธัมเมฆสถูปBy Manit Nitiphon
 ต่อมาวันหนึ่ง  ผู้เขียนได้นำคณะนักแสวงบุญชาวไทย ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่มูลคันธกุฎีวิหารในวัดศรีลังกา เมืองสารนารถ สาธารณรัฐอินเดีย ผู้เขียนได้อ่านจารึกว่า Sarnarth,The Birthplace of Buddhism (สารนารถ ถิ่นกำเนิดพระพุทธศาสนา) เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดแล้ว อย่างเพิ่งเชื่อทันที เราควรสงสัยก่อนว่าไม่เป็นความจริง และอย่าตัดสินใจเชื่อโดยการฟังข้อเท็จจริงของเรื่องที่เล่าขานซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ๆ , โดยยึดถือตามประเพณีที่ปฏิบัติตามกันมา,  ตามข่าวลือ, อ้างคัมภีร์หรือตำรา, เพราะตรรกะศาสตร์ (คิดเอง), การอนุมาน ไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล, เพราะสอดคล้องกับทฤษฎีที่พิจารณาไว้แล้ว,  เพราะการดูลักษณะที่เป็นไปได้, เพราะนับถือว่าสมณะเป็นครูของเรา เป็นต้น 

         ด้วยข้อเท็จจริงที่กล่าวข้างต้น  ผู้เขียนชอบศึกษาปัญหาเกี่ยวกับความจริงของสถานที่กำเนิดของพระพุทธศาสนาที่สารนารถ (The Birthplace of  Buddhism, Sarnarth)  โดยรวบรวมหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ  อรรถกถา และเอกสารบันทึกการเดินทางสมณะชาวจีนอีก ๒ รูป เป็นต้น  และพยานวัตถุ ได้แก่ ธัมเมฆสถูป ธัมมราชิกสถูป เป็นต้น เป็นข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์      เพื่อหาเหตุผลยืนยันความจริงของคำตอบในบทความนี้ ย่อมเป็นความรู้ผ่านเกณฑ์การตัดสินที่สมเหตุสมผล โดยไม่สงสัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่มาของพระพุทธศาสนา บทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเป็นองค์ความรู้ที่พระวิทยากรมีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย สาธารณรัฐอินเดีย สหพันธสาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อเผยแผ่เนื้อหาทางวิชาการของพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องและชัดเจน สำหรับขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลักฐานจะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาในระดับปริญญาเอกสาขาปรัชญาและพระพุทธศาสนา ตลอดผู้สนใจทั่วไปที่อ่านบทความนี้ สามารถนำความรู้ไปพัฒนาศักยภาพชีวิต จนสามารถบรรลุความรู้ระดับอภิญญา ๖  ซึ่งเป็นอุดมคติสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา ขออนุโมทนาบุญกับครูทุกท่านที่ให้โอกาส ผู้เขียนได้ทำงานและรับใช้พระพุทธศาสนา โดยการบรรยายธรรมแก่ผู้แสวงบุญในแดนพุทธภูมิและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เขียนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ในสังเวชนียสถาน เพื่อให้ชาวไทยพุทธและชาวพุทธทั่วโลกได้ศึกษาพระพุทธศาสนาและเพื่อนำข้อมูลนี้ไปขยายความรู้และพัฒนาศักยภาพชีวิตของตนเองมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป. 


9 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เหมือนอ่านหนังสือพุทธประวัติ...เลยครับ ได้ทบทวนด้วยครับ

Dr.P. Y. Pulperm กล่าวว่า...

สาธุที่บทความนี้เป็นประโยชน์แก่นิสิตรู้สึกยินดียิ่ง

พระครูวิริยานุโยค รหัสนิสิต 6606204101 กล่าวว่า...

ได้ความรู้เหมือนได้ไปถึงที่เลยครับ จาก พระครูวิริยานุโยค รหัสนิสิต 6606204101

พระครูวิริยานุโยค รหัสนิสิต 6606204101 กล่าวว่า...

ได้ความรู้ดีครับ

จานตั้มนำโชค กล่าวว่า...

สาธุครับ

พระสายชล สติสมฺปนฺโน นิสิต มจร.สาขากจพ.ปี๑ กล่าวว่า...

ได้ความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นมากเลยครับ ทั้งที่รู้แล้วก็เพิ่มความรู้ขึ้นไปอีก ได้รู้สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ

พระสายชล สติสมฺปนฺโน นิสิต มจร.สาขากจพ.ปี๑ กล่าวว่า...

ได้ความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นมากเลยครับ ทั้งที่รู้แล้วก็เพิ่มความรู้ขึ้นไปอีก ได้รู้สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ

พระสายชล สติสมฺปนฺโน นิสิต มจร.สาขากจพ.ปี๑ กล่าวว่า...

ได้รับความรู้มากครับโดยเฉพาะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในแง่มุมต่างๆที่ไม่เคยรู้

ส.ท อภิสิทธิ์ วงษ์ทอง 6606504318 กล่าวว่า...

สาธุครับ🥰😇

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ