The Birthplace of Buddhism according to Buddhaphumi philosophy

๑.บทนำ
โลกเป็นหนึ่งในเก้าดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของเรา โลกเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรประมาณ ๗,๓๐๐ ล้านคน ชีวิตของมนุษย์ทุกคนถูกหล่อหลอมด้วยปัจจัยทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งทั้งสองอย่างมีความสัมพันธ์กัน ชีวิตไม่อาจดำรงอยู่ได้กาดขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จิตใจใช้อายตนะภายในร่างกายในการรับรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต รวมถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเหตุการณ์ทางสังคม เมื่อรับรู้แล้ว จิตใจของมนุษย์จะน้อมรับและสั่งสมอารมณ์เหล่านั้นไว้ในจิตใจ อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของมนุษย์คือเมื่อพวกเขารับรู้สิ่งใด พวกเขาก็จะคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น โดยพวกเขาแสดงมุมมองของตนเองตามหลักเหตุผล และคาดคะเนความจริงจากสิ่งที่ได้ยิน เนื่องจากมนุษย์มีอายตนะภายในที่จำกัดความสามารถในการรับรู้เหตุการณ์ที่อยู่ไกลเกินกว่าจะรับรู้ หรือมองเห็นได้ นอกจากนี้ พวกเขามักจะมีอคติต่อผู้อื่นเนื่องจากความไม่รู้ ความเกลียดชัง ความกลัวและความรัก เป็นต้น ชีวิตของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความมืดมน จึงขาดปัญญาที่จะเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้น และความจริงขั้นปรมัตถ์ พวกเขาจึงไม่สามารถใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้ในการอธิบายความจริงของเรื่องต่าง ๆ นั้นอย่างมีเหตุผลและอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อพวกเขามีบทบาทในสังคม เช่น พราหมณ์ที่เป็นนักปรัชญา นักตรรกศาสตร์ ครูศาสดา นักวิทยาศาสตร์ ตำรวจ ทหารและแพทย์ เป็นต้น มีหน้าที่ในการใช้เหตุผล ที่เป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้ ในการอธิบายความจริงของเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้น เพื่อตัดสินข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งทางสังคมให้บริสุทธิ์และยุติธรรมได้อย่างมีเหตุผล บางครั้งพวกเขาใช้เหตุผลที่ถูกต้อง บางครั้งใช้เหตุผลไม่ถูกต้อง บางครั้งก็ใช้เหตุผลในลักษณะนี้หรือลักษณะนั้น เมื่อเหตุผลของพวกเขา ในการอธิบายความจริงคลุมเครือและไม่ชัดเจน วิญญูชนเช่นเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระพุทธเจ้า จะไม่เชื่อถือความคิดเห็นของบุคคลเหล่านั้นเป็นความจริง
เพื่อแก้ไขปัญหาการตัดสินคดีธรรม หรือความจริงที่ผิดพลาดซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น ตามหลักพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงคิดค้นวิธีพิจารณาความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ พระพุทธเจ้าทรงสร้างกระบวนการพิจารณาความจริง โดยทรงวางหลักการว่า เมื่อผู้ใดได้ยินความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ใด ๆ ในชีวิต พวกเขาไม่ควรเชื่อว่าเป็นความจริงในทันที แต่ควรตั้งข้อสงสัย จนกว่าจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน เมื่อรวบรวมหลักฐานได้เพียงพอแล้ว ก็ก็ควรวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น หากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงของคำตอบ พระพุทธเจ้าถือว่าข้อเท็จจริงนั้น ขาดความน่าเชื่อถือและไม่สามารถยอมรับว่าเป็นความจริงได้ เป็นต้น
ในช่วงที่ศาสนาพราหมณ์เจริญรุ่งเรืองนั้น ผู้คนในอาณาจักรสักกะเชื่อในคำสอนของศาสนาพราหมณ์ว่า พระพรหมและพระอิศวร ทรงช่วยเหลือมนุษย์ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ผ่านพิธีกรรมบูชายัญโดยการกระทำของพราหมณ์อารยันเท่านั้น เมื่อผู้คนในอาณาจักรสักกะบูชาเทพเจ้า จนมันกลายเป็นวิถีชีวิตประจำวัน สร้างความมั่งคั่งให้กับทั้งพราหมณ์อารยันและพราหมณ์มิลักขะ สิ่งนี้ทำให้เกิดปัญหาทางการเมือง เนื่องจากพราหมณ์อารยันต้พยายามผูกขาดการบูชาเทพเจ้าเพื่อประโยชน์ของตนเอง พวกเขาประสบความสำเร็จ เมื่อสมาชิกรัฐสภาแห่งราชวงศ์ศากยะ ได้อนุมัติการบัญญัติคำสอนของพราหมณ์ในฐานะหลักคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายจารีตประเพณีวรรณะ โดยมุ่งหวังให้เกิดความสงบสุขตามหลักศีลธรรมอันดีของประชาชนและกฎหมาย
ระหว่างปี ๒๐๐๒-๒๐๑๐ ผู้เขียนศึกษาต่อระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยบานารัสฮินดู เขตพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย เมืองพาราณสีมีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา เพราะเป็นสถาานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกคือ "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" แก่ปัญจวัคคีย์จนเกิดดวงตาเห็นธรรม โดยเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า มนุษยมีวิญญาณเป็นแก่นแท้ที่แท้จริง และถูกควบคุมโดยกรรมที่สั่งสมมาในจิตใจ และจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคนจะเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่สิ้นสุด เมื่อเกิดดวงตาเห็นธรรมแล้ว ปัญจวัคคีย์เกจึงขอบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาโดยพระพุทธเจ้าทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ให้การอุปสมบทแก่ปัญจวัคคีย์เป็นครั้งแรก และเมื่อปัญจวัคคีย์พัฒนาศักยภาพของชีวิตตนเองโดยการปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ จนสามารถบรรลุถึงความรู้ระดับ "อภิญญา ๖ "
ในสมัยปัจจุบัน ป่าอิสิปตนมฤคทายวันตั้งอยู่ในตำบลสารนารถ อำเภอพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ชาวอินเดียเรียกสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ว่า "วัดพระพุทธเจ้า (Buddha Temple) " และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก เพราะมีเจดีย์โบราณหลายแห่ง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงคุณอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงตัดสินพระทัยสละวรรณะกษัตริย์ทรงออกผนวชเพื่อค้นหาความจริงของชีวิต เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้กฎแห่งธรรมชาติของชีวิตมนุษย์แล้ว พระองค์ทรงได้ตัดสินพระทัยเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยการแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ เมื่อได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เกิดดวงตาเห็นธรรมมีความรู้ความเข้าใจในชีวิต และออกบวชเป็นภิกษุทำให้เกิดสิ่งสูงสุดในพระพุทธศาสนา ๓ ประการคือ พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พระรัตนตรัย" เป็นต้น
![]() |
| ธัมเมฆสถูปBy Manit Nitiphon |
ต่อมาวันหนึ่ง ผู้เขียนได้นำคณะนักแสวงบุญชาวไทย ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่มูลคันธกุฎีวิหารในวัดศรีลังกา เมืองสารนารถ สาธารณรัฐอินเดีย ผู้เขียนได้อ่านจารึกว่า Sarnath, The Birthplace of Buddhism (สารนารถ ถิ่นกำเนิดพระพุทธศาสนา) เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่ฟังตามกันมาเช่นการมีอยู่ของเทพเจ้าแล้ว โดยยึดถือตามประเพณีที่ปฏิบัติตามกันมา, ตามข่าวลือ, อ้างคัมภีร์หรือตำรา, เพราะตรรกะศาสตร์ (คิดเอง), การอนุมาน ไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล, เพราะสอดคล้องกับทฤษฎีที่พิจารณาไว้แล้ว, เพราะการดูลักษณะที่เป็นไปได้, เพราะนับถือว่าสมณะเป็นครูของเรา พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าอย่าเพิ่งทันที เราควรสงสัยก่อน จนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีหลักฐานเพียงพอ มาพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ เป็นต้น
เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงที่กล่าวข้างต้น แม้เราจะยอมรับโดยปริยายว่าเป็นเรื่องก็ตาม แต่ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าถือว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังเป็นที่น่าสงสัย ผู้เขียนชอบศึกษาปัญหาเกี่ยวกับความจริงของสารนารถเป็นสถานที่กำเนิดของพระพุทธศาสนา (The Birthplace of Buddhism, Sarnath) อีกต่อไป โดยรวบรวมหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ อรรถกถา และเอกสารบันทึกการเดินทางสมณะชาวจีนอีก ๒ รูป เป็นต้น และพยานวัตถุ ได้แก่ ธัมเมฆสถูป ธัมมราชิกสถูป เป็นต้น เป็นข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ เพื่อหาเหตุผลยืนยันความจริงของคำตอบในบทความนี้ ย่อมเป็นความรู้ผ่านเกณฑ์การตัดสินที่สมเหตุสมผล โดยไม่สงสัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่มาของพระพุทธศาสนา
บทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเป็นองค์ความรู้ที่พระธรรมทูตแห่งราชอาณาจักรไทย มีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย สาธารณรัฐอินเดีย สหพันธสาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อเผยแผ่เนื้อหาทางวิชาการของพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องและชัดเจน สำหรับขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลักฐานจะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาในระดับปริญญาเอกสาขาปรัชญาและพระพุทธศาสนา ตลอดผู้สนใจทั่วไปที่อ่านบทความนี้ สามารถนำความรู้ไปพัฒนาศักยภาพชีวิต จนสามารถบรรลุความรู้ระดับอภิญญา ๖ ซึ่งเป็นอุดมคติสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา ขออนุโมทนาบุญกับครูทุกท่านที่ให้โอกาส ผู้เขียนได้ทำงานและรับใช้พระพุทธศาสนา โดยการบรรยายธรรมแก่ผู้แสวงบุญในแดนพุทธภูมิและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เขียนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ในสังเวชนียสถาน เพื่อให้ชาวไทยพุทธและชาวพุทธทั่วโลกได้ศึกษาพระพุทธศาสนาและเพื่อนำข้อมูลนี้ไปขยายความรู้และพัฒนาศักยภาพชีวิตของตนเองมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป.

9 ความคิดเห็น:
เหมือนอ่านหนังสือพุทธประวัติ...เลยครับ ได้ทบทวนด้วยครับ
สาธุที่บทความนี้เป็นประโยชน์แก่นิสิตรู้สึกยินดียิ่ง
ได้ความรู้เหมือนได้ไปถึงที่เลยครับ จาก พระครูวิริยานุโยค รหัสนิสิต 6606204101
ได้ความรู้ดีครับ
สาธุครับ
ได้ความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นมากเลยครับ ทั้งที่รู้แล้วก็เพิ่มความรู้ขึ้นไปอีก ได้รู้สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ
ได้ความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นมากเลยครับ ทั้งที่รู้แล้วก็เพิ่มความรู้ขึ้นไปอีก ได้รู้สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยครับ
ได้รับความรู้มากครับโดยเฉพาะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในแง่มุมต่างๆที่ไม่เคยรู้
สาธุครับ🥰😇
แสดงความคิดเห็น