The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทนำ สวนลุมพินีเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าตามหลักปรัชญาแดนพุทธภูมิ :

Introduction to Lumbini The Exactly  Birthplace  of  Buddha 


สารบาญ
๑.บทนำ 
๒.ที่มาของความรู้เกี่ยวกับสวนลุมพินี 
๓.ความงดงามของสวนลุมพินีรับรู้ได้ด้วยใจ
๔.วิธีปฏิบัติบูชาในสวนลุมพินี 

๑.บทนำ

               บทความนี้กล่าวถึงความเป็นมา ความสำคัญ และประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ   การประกาศให้สวนลุมพินีเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ในสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล    ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างสูงจากนักประวัติศาสตร์  นักโบราณคดี    นักวิชาการ    และนักปรัชญาฝ่ายเถรวาทและมหายาน และได้ผ่านกระบวนการพิจารณาความจริง  โดยการตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ จนกระทั่งได้รับการยอมให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก  อย่างไรก็ตาม การศึกษาสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าศากยมุนี ยังคงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจทั้งทางประวัติศาสตร์และปรัชญา นสิ่งนี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับพระภิกษุสงฆ์  ผู้เป็นนักตรรกะ นักปรัชญา และผู้ปฏิบัติวิปัสสนา พวกเขาจะต้องใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือในการอธิบายทั้ง ความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์  เพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก ให้เรียนรู้ความจริงของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต  และรู้วิธีการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความจริงของสิ่งเหล่านี้ ทั้งความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์     

             เมื่อผู้เขียนศึกษาประวัติศาสตร์ของอาณาจักรสักกะจากหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย   ผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงมาในเบื้องต้นว่า ในรัชสมัยพระเจ้าโอกกากราช    พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองอาณาจักรโกลิยะ โดยมีเมืองเทวทหะ (Devdaha) เป็นราชธานี ในประวัติศาสตร์ของอนุทวีปอินเดียนั้น       อาณาจักรโกลิยะและอาณาจักรสักกะ เป็นเมืองพี่น้องกัน (sister city)  เนื่องจากพระเจ้าโอกกากราชทรงอภิเษกสมรสสองครั้ง เมื่อพระมเหษีองค์ใหม่ประสูติพระราชโอรสในอาณาจักรโกลิยะ      พระองค์จึงทรงมีพระทัยที่จะมอบอาณาจักรโกลิยะให้แก่พระราชโอรสองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์สมบัติ เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรโกลิยะเป็นกษัตริย์ตามสัญญาที่ทรงให้ไว้กับพระราชินีพระองค์ใหม่ 

                เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองในอาณาจักรโกลิยะเปลี่ยน แปลงไป  พระเจ้าโอกกากราชทรงรับสั่งให้พระราชโอรสและพระราชธิดา ซึ่งประสูติในพระราชินีกษัตรีย์ซึ่งพระมเหสีองค์แรก พร้อมด้วยชาวโกลิยะกลุ่มหนึ่ง อพยพไปสถาปนาอาณาจักรใหม่ในป่าสักกะ อันกว้างใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเทวทหะ ซึ่งเป็นราชธานีของอาณาจักรโกลิยะประมาณ ๘๐ กิโลเมตร โดยมีแม่น้ำโรหินีคั่นกลาง  พระเจ้าโอกากราชทรงสถาปนาราชวงศ์ใหม่ชื่อว่า "ศากยะวงศ์" และราชวงศ์ศากยะทรงสถาปนาอาณาจักรใหม่ชื่อว่า "อาณาจักรสักกะ" โดยมี"กรุงกบิลพัสดุ์" เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรสักกะ  ประชาชนจากทั้งสองอาณาจักร มักมาเยี่ยมเยียนกันและลุมพินีซึ่งเป็นเขตป่าสาละธรรมชาติ ถูกใช้เป็นที่พักผ่อนระหว่างทางจากกรุงกบิลพัสดุ์ไปยังกรุงเทวทหะ 

            เกี่ยวกับต้นกำเนิดของสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้านั้น เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ อรรถกถา เอกสารทางวิชาการอื่น ๆ    พยานวัตถุและแผนที่โลกของกูเกิล    ผู้เขียนพบว่า ลุมพินี สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้ามีมาก่อนสมัยพุทธกาลแล้ว หลักฐานนี้ ชี้ชัดว่า สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าอยู่ที่สวนลุมพินี  อย่างไรก็ตาม พยานบุคคลซึ่งเป็นประจักษ์พยานยืนยันการมีอยู่จริง ของสถานที่ประสูติและสามารถยืนยันความจริงในเรื่องนี้ได้ พวกเขามักจะสูญหายไปพร้อมความตายแล้ว  และไม่มีค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่ออนุรักษ์สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าไว้ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าวได้

                     ในปีพ.ศ. ๑๓๙ หรือ๓๐๔ ก่อนคริสตกาล พระเจ้าอโศกมหาราชประสูติที่เมืองบิปผลิวัน และในปีพ.ศ.๑๗๕  พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรโมริยะได้ หลังจากครองราชย์ได้  ๒๐ พรรษา  พระองค์ทรงตัดสินใจ ที่จะเสด็จจาริกแสวงบุญไปยังสวนลุมพินี สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า โดยพระองค์ทรงเชื่อว่าเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตแล้ว  พระวิญญาณของพระองค์จะไปประสูติในสวรรค์ชั้นฟ้า เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชเสด็จจาริกแสวงบุญจากเมืองปัฏตาลีบุตรไปยังสวนลุมพินี ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ซึอยู่ในแคว้นสักกะ และพระองค์ประทับอยู่ที่สวนลุมพินี เป็นเวลาหลายวันเพื่อถวายสักการะบูชาพระพุทธเจ้า  หลังจากนั้นพระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างวิหารมายาเทวีและเสาอโศก    เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ทรงสละวรรณะกษัตริย์ และปราสาท ๓ ฤดู ในเขตพระราชวังกบิลพัสดุ์  เพื่อแสวงหาความจริงของชีวิตมนุษย์ เมื่อพระองค์ทรงตั้งข้อสงสัยว่าพระพรหมสร้างมนุษย์จากพระวรกายของพระองค์ตามที่พราหมณ์อารยันสอนไว้หรือไม่ ?  หรือชีวิตมนุษย์ตายแล้วสูญจริงตามคำสอนของพราหมณ์บางกลุ่มหรือไม่  ดังนั้น สถานที่ประสูติแห่งนี้  จึงกลายเป็นสถานศักดิ์สิทธิในพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่แสวงบุญที่ผู้คนทั่วโลกควรไปแสวงบุญอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต 
         
        ในยุคปัจจุบัน ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ก้าวหน้าขึ้น นักโบราณคดีสามารถใช้ความรู้นี้  เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่ประสูติที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ และเพื่อรวบรวมหลักฐานทางโบราณคดีเพิ่มเติม ในพื้นที่สวนลุมพินี เช่น โบราณสถานวัดมายาเทวี เสาหินอโศก ในด้านภูมิศาสตร์ แผนที่โลกกูเกิลได้ระบุสถานที่ตั้งของวัดมายาเทวี (Maya Devi Temple ลุมพินี)  ในสวนลุมพินีได้อย่างชัดเจน  ผู้เขียนพบหลักฐานว่าสวนลุมพินี ตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโรหิณี (Rohini River)  ซึ่งเป็นพรมแดนแบ่งเขตแดนระหว่างแคว้นสักกะกับแคว้นโกลิยะประมาณ ๓๗.๙ กิโลเมตร และห่างจากวัดกัลยามัย (kanyamai temple) นักโบราณคดีเชื่อว่าวัดแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังโบราณ ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระราชินีประชาบดีโคตตรมี พระมารดาบุญธรรมของพระพุทธเจ้าศากยมุนี ห่างออกไปประมาณ ๔๓.๘ กิโลเมตร 

             สวนลุมพินีในอาณาจักรสักกะ เป็นสถานที่พักผ่อนของกองคาราวานขนส่งสินค้า ปริพาชกผู้แสวงหาสัจธรรม และกองทัพแห่งราชวงศ์ศากยะและราชวงศ์โกลิยะ ลุมพินีมีเนื้อที่ขนาดใหญ่ปกคลุมด้วยป่าสาละ มีธารน้ำใต้ดิน ๒ แห่ง ลำธารหนึ่งร้อนและลำธารอีกแห่งหนึ่งเย็น ไหลจากพื้นดินขึ้นสู่ท้องฟ้าและไหลลงสู่สระโปกขรณีเพื่อให้นักเดินทางได้ดื่มและอาบน้ำในป่าสาละแห่งนี้ ในสมัยสวนลุมพินีเป็นสถานที่พักผ่อนของนักเดินทางระหว่างสองเมือง ในยุคก่อนพุทธกาลต่อมาสวนลุมพินี กลายเป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะแห่งราชวงศ์ศากยะประสูติจากพระครรภ์ของพระนางมายาเทวี ณ. สถานที่แห่งนี้เมื่อ ๘๐ ปีก่อนพุทธศักราช ๑     

               เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงมีพระชนมายุ ๒๙ พรรษา พระองค์ทรงผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อหาหนทางปฏิรูปสังคมในแคว้นสักกะ พระองค์ทรงใช้เวลา  ๖ ปีในการพัฒนาศักยภาพของชีวิตด้วยการปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘   จนกระทั่งพระองค์ตรัสรู้กฏธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ทุกคน    ด้วยญาณทิพย์เหนือมนุษย์ทุกคนว่า เมื่อมนุษย์ตายลงไป วิญญาณของชีวิตมนุษย์ทุกคนจะไปเกิดในภพภูมิอื่น เมื่อกลับมาเกิดใหม่บนโลกมนุษย์  ก็ปฏิสนธิในครรภ์มารดาและเจริญเติบโตเป็นเวลา ๙ เดือน และกลับมาเกิดใหม่บนโลกมนุษย์  ก็คลอดจากครรภ์มารดา เกิดเป็นมนุษย์ใหม่ที่มีชื่อและนามสกุลใหม่ ดังนั้นพระพรหมจึงไม่ได้สร้างมนุษย์จากพระวรกายของพระองค์ ตามคำสอนของพราหมณ์อารยันแต่อย่างใด 

           และสวนลุมพินีกลายเป็นที่แสวงบุญของชาวพุทธทั่วโลก เพราะก่อนจะเสด็จสู่ปรินิพพานนั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสแก่พระอานนท์และอริยสาวกทั้งหลายว่า เมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้วให้เอาพระธรรมวินัยของเราเป็นพระศาสดาของพวกเธอต่อไป และหากผู้ใดคิดถึงเรา (ศากยมุนีพระพุทธเจ้า) ด้วยศรัทธา ให้เดินทางไปสู่สังเวชนียสถานทั้ง๔ เพื่อปฏิบัติบูชาแล้ว เมื่อถึงแก่ความตายไปแล้วจะไปจุติบนโลกสวรรค์    ทำให้สวนลุมพินีกลายเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ที่ในทางพระพุทธศาสนาเพราะเป็น ๑ ใน ๔ ของสังเวชนียสถาน         
  
            ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นนั้นผู้เขียนสงสัยว่าเราจะรู้ได้อย่างไรวัดมายาเทวี ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติที่แท้จริงของพระศากยมุนีพุทธเจ้า (Lumbini, The Exactly  Birthplace of Buddha)  ตั้งอยู่ในสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลนั้น แต่ผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้เกี่ยวกับลุมพินีเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าต่อไป ผู้เขียนก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เช่น พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ  อรรถกถาและบันทึกของพระภิกษุชาวจีนหลายท่าน ที่เดินทางมาคัดลอกพระไตรปิฎกในอนุทวีปอินเดีย  พยานวัตถุได้แก่เสาหินอโศก      และโบราณสถานสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆเพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องลุมพินีเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า บทความวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงของคำตอบ จะเป็นความรู้ที่ผ่านเกณฑ์ตัดสินอย่างสมเหตุสมผลไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความจริงของข้อมูลอีกต่อไป 

      บทความนี้จะเป็นประโยชน์แต่พระวิทยากรรุ่นต่อไปที่สามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการบรรยายเรื่อง ลุมพินีสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เนื้อหาของความรู้ในเรื่องนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและวิธีพิจารณาความปรัชญา  เพื่อวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากพยานหลักฐานต่าง ๆเพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาดุษฎีนิพนธ์ของนิสิตระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาพระพุทธศาสนา ปรัชญาและนิติศาสตร์ เป็นต้น เพื่อใช้เป็นแนวทางการเขียนวิจัย ที่ต้องวิเคราะห์หลักฐานโดยการอนุมานความรู้เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงของคำตอบ ก็จะเป็นความรู้ผ่านเกณฑ์ตัดสินอย่างสมเหตุสมผล    ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความจริงของคำตอบในเรื่องต่อไป 

4 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

พออ่านแล้วก็ได้เปิดหูเปิดตา.... มากขึ้น

Yuthana Pulperm กล่าวว่า...

สาธุ

Yuthana Pulperm กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Yuthana Pulperm กล่าวว่า...

อาจารย์เขียนเท่าที่จำได้

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ