The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567

พลังแห่งศรัทธา : พระเจ้าพิมพิสารกับการอุปภัมภ์พระพุทธศาสนาที่เปลี่ยนแปลงโลก

The Power of Faith: King Bimbisara and His Patronage of Buddhism That Changed the World

มีประเด็นที่ต้องพิจารณาดังนี้

๑.ศรัทธาของพระเจ้าพิมพิสาร 

             พระเจ้าพิมพิสาร พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรมคธ  ที่ทรงอำนาจในสมัยพุทธกาล ทรงเป็นบุคคลสำคัญพระองค์หนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์พุทธศาสนา            ความภักดีของพระองค์ที่มีต่อพระพุทธเจ้า    นำไปสู่การอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา      ปัญหาคือ เราจะทราบได้อย่างไรว่าพระเจ้าพิมพิสารศรัทธาในพระพุทธเจ้าเป็นความจริง    หลังจากที่ผู้เขียนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ  แล้ว       เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกจากพระราชวังกบิลพัสดุ์เพื่อผนวชเป็นพระโพธิสัตว์        พระองค์ได้เสด็จไปตามเส้นทางการค้าโบราณจากเมืองกบิลพัสดุ์   ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรสักกะผ่านเมืองกุสินาราของอาณาจักรมัลละ  ผ่านเมืองพาราณสีของอาณาจักรกาสีและไปยังเมืองราชคฤห์ของอาณาจักรมคธ            ในเวลานั้น พระเจ้าพิมพิสารทรงเห็นพระโพธิสัตว์สิทธัตถะเสด็จออกไปบิณฑบาต  เพื่อหาเลี้ยงชีพโดยอาศัยศรัทธาของชาวเมืองราชคฤห์           แต่พระโพธิสัตว์สิทธัตถะทรงมีลักษณะเด่น           ก็คือทรงมีพระวรกายสูงกว่าชาวเมืองราชคฤห์พระเจ้าพิมพิสารทรงพิจารณาแล้วเห็นว่าพระโพธิสัตว์สิทธัตถะทรงมิใช่พระภิกษุจากวรรณะต่ำ             การปรากฏของพระองค์ต่อหน้าชาวเมืองราชคฤห์            เป็นหัวข้อที่อภิปรายกันอย่างกว้างขวางในหมู่ฆราวาส        ดังหลักฐานปรากฏในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ  เล่มที่ ๒๕  พระสุตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย  สุตตนิบาต  ๓. มหาวรรค ๑.ปัพพัชชาสูตร  

     ข้อ.๔๑๒ พระเจ้าพิมพิสารประทับอยูบนปราสาท  ทรงได้ทอดพระเนตรเห็นพระโพธิสัตว์สิทธัตถะพระองค์นั้น      ครั้นทรงได้เห็นพระพุทธองค์ทรงสมบูรณ์ด้วยพระลักษณะจึงได้ตรัสดังนี้       

       ข้อ.๔๑๓ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ท่านจงพิจารณาภิกษุรูปนี้เถิด  ภิกษุรูปนี้มีรูปร่างงดงามสมส่วน เยื้องย่างโดยสำรวมและทอดสายตาเพียงชั่วแอก           

         ข้อ.๔๑๔ มีจักษุทอดลงมีสติภิกษุรูปนี้ หาเหมือนผู้ออกบวชจากพวกตระกูลต่ำไม่ ราชทูตจึงไปสืบให้รู้ว่า พระภิกษุรูปนี้จะจาริกไปไหนและพักอยู่ที่ไหน....

                เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงเปี่ยมด้วยความศรัทธา จึงเสด็จไปเฝ้าพระโพธิสัตว์ที่เชิงเขาปัณฑวะ  เมื่อทั้งสองพระองค์ทรงสนทนา และซักถามถึงความเป็นมาของพระโพธิสัตว์ พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า พระโพธิสัตว์สิทธัตถะประสูติในพระราชวงศ์ศากยะแห่งอาณาจักรสักกะ ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาหิมาลัยและอาณาจักรโกศล เป็นเมืองที่มั่งคั่งและประชาชนขยันขันแข็ง พระเจ้าพิมพิสารทรงเห็นว่าพระโพธิสัตว์สิทธัตถะยังทรงพระเยาว์ จึงทรงตัดสินพระทัยยกดินแดนอันกว้างใหญ่บางส่วนให้พระโพธฺสัตว์สิทธัตถะทรงปกครอง แต่พระองค์ก็ทรงปฏิเสข เพราะทรงตั้งปณิธาณไว้ว่าจะทรงผนวชเพื่อแสวงหาความจริงของชีวิต       

         ดังหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ  เล่มที่ ๒๕ พระสุตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย  สุตตนิบาต  ๓. มหาวรรค   ๑.ปัพพัชชาสูตร

              ข้อ.๔๒๐ เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงสดับคำของราชทูตแล้ว  ทรงเสด็จไปยังภูเขาปัณฑวะโดยพระราชพาหนะชั้นเยี่ยม  

       ข้อ.๔๒๑ ท้าวเธอได้เสด็จไปจนสุดทางที่พระราชพาหนะจะสามารถไปได้จึงเสด็จลงจากพระราชพาหนะเสด็จพระราชดำเนินไปด้วยพระบาทเข้าไปถึงปัณฑวะบรรพตแล้วประทับนั่ง

          ข้อ.๔๒๒ ท้าวเธอประทับนั่งแล้ว ได้ทรงสนทนาปราศรัยเป็นธรรมเนียมระลึกถึงกัน ครั้นผ่านการสนทนาปราศัยแล้ว ได้ตรัสดังนี้ว่า

               ข้อ.๔๒๓  พระคุณเจ้ายังหนุ่มแน่น เพิ่งผ่านปฐมวัยเมื่อไม่นานมานี้   ถึงพร้อมด้วยความผุดผ่องแห่งวรรณธเหมือนกษัตริย์สุขุาลชาติ

            ข้อ.๔๒๔   ข้าพเจ้าจะมอบโภคสมบัติให้   ขอท่านจงเป็นจอมทัพแห่งหมู่พลกาย ให้งดงามบริโภคสมบัติออยู่เถิดพระคุณเจ้าจงบอกชาติกำเนิดด้วยเถิด

                 ข้อ.๔๒๔  (พระพุทธองค์ทรงตรัสดังนี้)     มหาบพิตรมีชนบทแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในแคว้นโกศลตรงด้านข้างหิมวันต์ประเทศ เป็นเมืองมั่งคั่ง ประชาชนขยันขันแข็ง   เป็นต้น

๒.สร้างวัดเวฬุวันมหาวิหารเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา

           เมื่อผู้เขียนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลักฐานต่าง ๆ  แล้ว พบว่า     เมื่อพระโพธิสัตว์สิทธัตถะตรัสรู้ (enlightened) กฎของธรรมชาติเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ว่า  ชีวิตมนุษย์ประกอบด้วยร่างกายและจิตวิญญาณ  พระองค์ทรงมีญาณทิพย์เหนือมนุษย์ธรรมดาทั่วไป   พระองค์ทรงเห็นว่าเมื่อตายแล้ว      จิตวิญญาณจะออกจากร่างกายไปเกิดในภพภูมิอื่นอย่างไม่สิ้นสุดในวัฏสังสาร     เมื่อดวงวิญญาณเกิดขึ้นในครรภ์มารดา วิญญาณก็จะเกิดขึ้นเป็นมนุษย์คนใหม่      ดังนั้น พระพรหมและพระอิศวรจึงไม่ได้สร้างมนุษย์จากร่างของพระองค์เอง         ดังที่พราหมณ์ได้สอนไว้  เมื่อโคตมพุทธเจ้าเสด็จมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่แคว้นมคธ  พระเจ้าพิมพิสารเสด็จมาต้อนรับพระพุทธเจ้าพร้อมกับพสกนิกร ๑๒๐,๐๐๐ คน   หลังจากพระองค์ทรงฟังพระธรรมเทศนาแล้ว  พระองค์ได้ทรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา และถวายพระอุทยานเวฬุวันเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา   หลักฐานปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ  เล่มที่ ๔  พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๔ มหาวรรค ๑ เรื่องทรงรับพระเวฬุวันเป็นวัดแห่งแรก [๕๙]................  เป็นต้น   

๓.การปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา    

             ปัญหาคือ"เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้าพิมพิสารทรงคุ้มครองพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง"      เมื่อผู้เขียนได้พิจารณาหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา  ฯ     พบว่า เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้นที่เขตแดนระหว่างแคว้นมคธกับแคว้นวัชชี      ณ  เมืองปัฏตาลีบุตร     พระเจ้าพิมพิสารทรงมีพระบัญชาให้เหล่าแม่ทัพ ส่งกำลังพลไปปราบข้าศึกแต่แม่ทัพเหล่านั้น กังวลว่า การส่งกำลังพลไปรบจะทำให้ข้าศึกเสียชีวิต   จึงถือเป็นบาป  จึงหลีกเลี่ยงการส่งกำลังพลไปปราบข้าศึกโดยโต้แย้งว่าการรบกับข้าศึกที่ชายแดนเป็นอกุศลกรรม ดังนั้นพวกเขาจึงละเว้นจากการกระทำดังกล่าว พวกเขาจึงขออุปสมบท  และพระอุปัชฌาย์จึงอุปสมบทเหล่าแม่ทัพนั้น 

              เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบปัญหาแล้วพระองค์จะทรงตัดสินพระทัยลงโทษประหารชีวิตได้ แต่พระองค์มิได้ทรงลงโทษภิกษุเหล่านั้นทันที พระองค์กราบทูลขอพระพุทธองค์ทรงงดเว้นอนุญาตให้เหล่าราชภัฏบรรพชา พระพุทธองค์ทรงได้กำหนดพระวินัยห้ามพระอุปัชฌาย์อุปสมบทเหล่าราชภัฏ    หากพระอุปัชฌาย์ฝ่าฝืนพระวินัยก็ต้องถูกลงโทษอาบัติทุกฏ ข้อเท็จจริงจากหลักฐานในพระไตรปิฎกแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าพิมพิสารทรงปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา และสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทรงจัดประชุมปรึกษาหารือ กับคณะสงฆ์โดยมีพระพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ   ทรงมิได้ตัดสินปัญหาโดยใช้หลักการทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว  พระองค์ทรงตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานมาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องนี้ พระเจ้าพิมพิสารทรงใช้ความรู้นี้ในการตัดสินพระทัย ที่จะออกกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนาและในขณะเดียวกันพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยไว้เป็นหลักบริหารคณะสงฆ์ต่อไป  ดังหลักฐานปรากฏในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่๔ พระวินัยปิฎกเล่มที่๔ มหาวรรค ภาค๑ [๙๐]................เป็นต้น 

๔. วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา       

               พระเจ้าพิมพิสารทรงเสนอให้มีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา  เมื่อผู้เขียนตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน  ฟังข้อเท็จจริงได้ว่าการเผยแผ่ศาสนาในแคว้นมคธนั้น มิได้มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นยังมีพวกปริพาชกเดียรถีย์ประชุมกันเพื่อแสดงธรรม คนเหล่านั้นได้ความรักความเลื่อมใสในพวกเดียรถีย์   ทำให้เกิดสาวกขึ้นมากมายในศาสนาพราหมณ์  พระเจ้าพิมพิสารทรงเสนอต่อพระพุทธเจ้าเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ประชุมกันเพื่อแสดงพระธรรมเทศนาต่อชาวมคธ เพื่อฟังธรรมนำไปปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘  เพื่อการบรรลุธรรมต่อไป................


ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ