The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2566

ปัญหาทางญาณวิทยาของภูชี้ฟ้า

The epistemological problem of Phu Chee Fah

๓.ปัญหาญาณวิทยาของภูชี้ฟ้า 
        ในการศึกษาอภิปรัชญาเกี่ยวกับความเป็นจริงของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวมนุษย์  ความจริงทางปรัชญาแบ่งออกเป็น ๒ อย่างกล่าวคือ         
       ๑.ความจริงโดยสมมติ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทางสังคม  ที่จิตมนุษย์สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสของมนุษย์ และสั่งสมอารมณ์ของหลักฐานอยู่ในจิตใจของมนุษย์   แต่เมื่อจิตนำอารมณ์ของหลักฐานมาวิเคราะ์เพื่อหาเหตุผลของคำตอบ ในเรื่องที่ตนสงสัยนั้น    หากข้อเท็จจริงที่ได้จากการวิเคราะห์ ชัดเจนไม่น่าสงสัยอีกต่อไป ถือว่าเป็นความรู้ที่แท้จริงในเรื่องนั้น หากข้อเท็จจริงในเรื่องใดยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น ถือว่าข้อเท็จจริงยังไม่ใช่ความจริง  ไม่สามารถรับว่าเป็นความจริงตามหลักปรัชญาได้  
          ๒. ความเป็นจริง   เป็นความรู้ที่อยู่เหนือขอบเขตประสาทสัมผัสของมนุษย์จะรับรู้ได้และเป็นความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกต่อไปได้ ตัวอย่างเช่นสภาวะของจิตนิพพาน เป็นต้น  
            แนวคิดญาณวิทยานั้น มีบ่อเกิดความรู้จากประสบการณ์ของประสาทสัมผัสของชีวิตมนุษย์เอง ถึงจะถือว่าบุุคคลนั้นมีความรู้แท้จริงในเรื่องนั้น   กล่าวคือ เมื่อมนุษย์ใช้อวัยวะอินทรีย์ ๖ ของมนุษย์รับรู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับโลก จักรวาล เรื่องราวของมนุษย์แล้ว ก็จะมีความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมอยู่ในจิตใตของตนเอง และอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า เป็นต้น    ได้ฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภูชี้ฟ้าจากนักท่องเที่ยวที่เล่าถึงความประทับใจในการเดินทางไปท่องเที่ยวภูชี้ฟ้า  ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าในท่ามกลางหมู่เมฆหมอกที่ลอยบนท้องฟ้าในระดับภูเขาสูง     เมื่อพวกเขามองลงมาจากภูชี้ฟ้าเป็นภาพสวยงามตระกาลตามากหรือ เราอ่านข้อความในเวปไซด์ต่าง ๆ  ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในความงามของอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า เมื่อได้ความรู้ทางประสบการณ์ทางผัสสะแล้วหรือมีอายตนะภายในเป็นสะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์กับความรู้ในเรื่องราวเกี่ยวกับภูชี้ฟ้า   แต่ความรู้ผ่านผัสสะตัวกลางเรานี้แค่ทำให้เราได้นึกคิดจินตนาการถึงความจริงที่มีอยู่เลยประสาทสัมผัสของตนออกไปหลายร้อยกิโลเมตร      เรายังไม่ได้ผัสสะในความจริงเกี่ยวกับภูชี้ฟ้าแต่อย่างใด เราต้องเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อผัสสะภูชี้ฟ้าด้วยตัวเราจึงจะเกิดความรู้และความเป็นจริงเกี่ยวกับภูชี้ฟ้า 

ภูชี้ฟ้าโดยปรัชญาแดนพุทธภูมิ

   หากเราไม่ยอมเรียนรู้เรื่องราวร้าย ๆ ที่มากระทบจิตของตัวเองตลอดเวลาจิตได้ จิตย่อมคิดแต่หวาดกลัวโดยปราศจากข้อสงสัยเพราะตัวเองไม่มีสติย่อมไม่เกิดการคิดพิจารณาจะต่อสู้กับอารมณ์ที่มากระทบนั้น จิตย่อมเป็นทาสของอารมณ์เหล่านั้นไม่ว่าตนจะดำรงชีวิตอยู่ตรงไหนก็ไม่มีความสุข เพราะได้แต่เกิดความระแวงเกิดความสงสัยกังวลใจตลอดเวลา ชีวิตย่อมมีความทุกข์ไม่มีความสุขอย่างแน่นอนการเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ เป็นการฝึกฝนตนเองอย่างหนึ่งของชีวิตในการใช้จิตคิดแก้ปัญหาเกิดขึ้นตลอดเวลาการได้สื่อสารกับคนแม้เป็นเพียงรอยยิ้มทำให้จิตของเรานี้สว่างไสว รู้สึกโลกนี้น่าอยู่ขึ้นมากมาย ลดปัญหาของความทุกข์ของการคิดไประแวดระวังตัวเองจนเกินความจำเป็นของชีวิตได้ การไปภูชี้ฟ้าแม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคนอาจเดินทางไปมากในช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยว เราจึงหลีกเลี่ยงเดินทางไปช่วงดังกล่าวอาจไปช่วงฤดูร้อนเพื่อศึกษาเรียนรู้ชีวิตของโลกมนุษย์ เพื่อปล่อยวางความทุกข์ที่มีอยู่ในจิตมนุษย์ แต่ละคนที่มีไม่เหมือนกัน การเดินไปสู่ที่ต่าง ๆ ทำให้จิตสลัดอารมณ์ที่มาเกาะเกี่ยวจิตของเราได้เพราะจิตเราหันเหความสนใจต่อสิ่งเข้ากระทบจิตใหม่ ส่วนการเราจะเรียนรู้ราวใดที่ต้องเรียนรู้นั้นก็ดูความเหมาะสมกับเรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่อง ๆไป ตามแต่ความคิดที่เกิดจากสติปัญญาของมนุษย์แต่ละคนที่ต้องคิดใคร่ครวญ วิเคราะห์พิจารณาตามหลักความรู้และความจริงมีแนวความคิดเป็นสากลยอมรับกันทุกฝ่ายโดยเฉพาะระบบการศึกษาของประเทศเน้นให้ผู้เรียนศึกษาเชิงวิเคราะห์การศึกษาเชิงวิเคราะห์ทำให้เกิดการพัฒนา เมื่อมีการพัฒนาก็เกิดความเจริญก้าวหน้าของชีวิตย่อมไม่มีวันเสื่อม. 

      ภูชี้ฟ้าเคยเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ต่อมากลายแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูหนาว เพราะมีปัจจัยของทะเลหมอกที่สวยงามในฤดูหนาว หมอกมีให้เห็นทุกฤดูกาลแต่จะมีมากน้อยขึ้นอยู่กับความกดดันอากาศของโลกยอดเขาแห่งนี้ห่างจากที่พักวัดพระเนตร ๔๒.๕ กิโลเมตรถือว่าไกลพอสมควรใช้เวลาเดินทาง ๑ ชั่วโมง แต่ในวันนี้เป็นช่วงฤดูร้อนแล้วท้องฟ้าสว่างเร็วกว่าฤดูหนาว เมื่อคณะของเราเดินทางไปถึงภูชี้ฟ้าท้องฟ้าก็สว่างแล้วในวันนี้คนมาน้อยมากเพราะหมอกแทบไม่มีให้เห็นฉันทักทายกับนักท่องเที่ยว ๒-๓ คนเพิ่งเดินลงมาจากภูชี้ฟ้าภูชี้ฟ้า   เป็นเคยเป็นภูเขาหัวโลนจึงต้นไม้น้อยมากมีหญ้าขึ้นอยู่ทั่วไป  อากาศวันนี้เย็นสบายดีมากเดินมาที่ภูชี้ฟ้ายังไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใดเหมาะแก่คน จะมาเดินออกกำลังกายเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย ยอดเขาห่าง ๗๐๐ เมตรจากล้านจอดรถที่อยู่เชิงเขาภูชี้ฟ้าเมื่อคณะของเราไปถึงยอดเขาภูชี้ฟ้าก็ไม่มีคนแล้ว พวกเขาเดินลงมาจากภูชี้ฟ้าช่วงนี้ใกล้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว เมฆหมอกเริ่มหายไปหมดแล้ว เหลือแต่หมอกควันที่มนุษย์เผ่าไฟลอยขึ้น แต่อย่างไรลมเย็นก็พัดมาแม้จะน้อยไปแต่รู้สึกสบายดี จิตวิญญาณมนุษย์ต้องการพักผ่อนเช่นเดียวกับร่างกาย  

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ