Shakyamuni is a religious founder who reformed society in Buddhism.
บทนำ
เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้กำหนดคำว่า "ศาสดา" หมายถึงผู้ก่อตั้งศาสนาต่างๆเช่นพระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงเป็นผู้ก่อตั้งพระพุทธศาสนา เพื่อเผยแผ่คำสอนเกี่ยวกับมนุษยชาติ และปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘ เพื่อพัฒนาศักยภาพของชีวิตมนุษย์ทั่วโลกให้มีชีวิตที่เข้มแข็งด้วยการทำสมาธิ ปราศจากอคติต่อผู้อื่น ทำให้จิตเป็นผู้รู้ ผู้อื่นและผู้เบิกบานและสามารถบรรลุความจริงในระดับอภิญญา ๖ ได้ ตามประวัติของพระศากยมุนีพุทธเจ้าทรงมีพระนามเดิมว่า "เจ้าชายสิทธัตถะ" ทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตร์ ๑๘ สาขาวิชา หลังสำเร็จการศึกษาพระบิดาของพระองค์ทรงสร้างพระราชวัง ๓ หลัง ให้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์และจัดพิธีอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพา เจ้าชายสิทธัตถะทรงประทับอยู่ร่วมกับนางสนมทั้ง ๔๐,๐๐๐ คนอย่างมีความสุข เป็นเวลากว่า ๑๓ ปีแล้วที่พระองค์ทรงได้บรรลุถึงความสุขที่ต้องการ และพระองค์ทรงเบื่อหน่ายกับอารมณ์อันคับแคบของโลก ที่พระองค์ทรงอาศัยอยู่ ซึ่งประทับอยู่ในบริเวณพระราชวังกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นที่ประทับส่วนพระองค์นั้น พระองค์ทรงมีพระตัดสินพระทัยเสด็จเยี่ยมราษฏร และเที่ยวชมสวนหลวงในเขตพระนครกบิลพัสดุ์ เจ้าชายสิทธัตถะทอดพระเนตรเห็นปัญหาจัณฑาล ที่ถูกชาวสักกะลงโทษไปตลอดชีวิต ถูกตั้งข้อหาฐานละเมิดคำสอนทางศาสนา และกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีอย่างร้ายแรงโดยถูกไล่ออกจากบ้านพัก พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ เรียกว่า "นิมิต ๔" ซึ่งต้องอยู่ตามท้องถนนในวัยชรา ป่วย และตาย เป็นต้น ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งต่อประชาชนของพระองค์ ที่ถูกสังคมลงโทษเช่นนี้ไปตลอดชีวิต เมื่อพระองค์ทรงเมตตา อยากช่วยให้จัณฑาลพ้นจากกรรมของชีวิต พระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จะสอบสวนข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ จากพยานซึ่งเป็นปุโรหิตเป็นที่ปรึกษาของพระเจ้าสุทโธทนะ เจ้าชายสิทธัตถะทรงได้ยินข้อเท็จจริงจากคำให้การของปุโรหิตว่าพระพรหมและพระอิศวรสร้างมนุษย์และวรรณะให้มนุษย์จริง พวกปุโรหิตได้ให้การยืนยันเช่นเดียวกันในเรื่องนี้ว่าพราหมณ์ในรุ่นก่อน ๆ นั้น ก็เคยเห็นพระพรหมในอาณาจักรสักกะมาก่อน แต่เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสถามว่า พระพรหมและพระอิศวรมีประวัติของความเป็นอย่างไร ? ไม่มีปุโรหิตคนใดตอบพระองค์ได้ เมื่อข้อเท็จจริงของคำให้การของปุโรหิตน่าสงสัยในการมีอยู่ของพระพรหม และพระอิศวร ทำให้พระองค์ทรง ไม่เชื่อถึงการมีอยู่จริงของพระพรหมและพระอิศวรพระองค์ทรงตัดสินพระทัยปฏิรูปสังคม ด้วยการเสนอยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี ต่อรัฐสภาแห่งราชวงศ์ศากยะ แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภาแห่งชาติราชวงศ์ศากยะ เพราะการยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีเป็นการขัดต่อธรรมของกษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักนิติธรรมในการปกครองประเทศที่เรียกว่า "หลักอปริหานิยธรรมมาตรา ๓" เป็นต้น
ธัมเมฆสถูปBy Manit Nitiphon |
เมื่อคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายรัฐธรรมนูญของอาณาจักรสักกะ เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปสังคมในอาณาจักรสักกะ เพราะพระองค์ทรงไม่สามารถยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีได้เพราะฝ่าฝืนต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งอาณาจักรสักกะ และเจ้าชายสิทธัตถะก็ทรงไม่สามารถประกอบพระราชพิธีบูชายัญ เพื่อถวายเครื่องบูชาพระพรหมด้วยพระองค์เองได้ เพื่อขอพรพระพรหมยกเลิกวรรณะในแคว้นสักกะได้ เพราะผิดกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี ซึ่งห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ใช่พราหมณ์ประกอบพิธีบูชายัญได้ เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้น พระองค์ทรงพิจารณาเห็นว่า ถ้าพระองค์ยังทรงมีสิทธิและหน้าที่ตามวรรณะกษัตริย์อีกต่อไป พระองค์ก็ทรงไม่สามารถแก้ไขปัญหาจัณฑาลได้ เมื่อพระองค์ทรงสงสัยในความมีอยู่ของพระพรหม เจ้าชายสิทธัตถะทรงชอบแสวงหาความรู้เกี่ยวกับความจริงแห่งชีวิตว่าจริงหรือไม่ที่พระพรหมสร้างมนุษย์ และวรรณะให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่ตนเองเกิดมาตามคำสอนของพราหมณ์อารยัน ? แล้วเราจะรู้ความจริงข้อนี้ได้อย่างไร? เมื่อความมีอยู่ของพระพรหมเป็นความรู้ที่เกินขอบเขตแห่งประสาทสัมผัสของมนุษย์ แม้พราหมณ์นิกายต่าง ๆ จะอ้างว่าสามารถเข้าถึงได้โดยการบูชายัญก็ตาม แต่การบูชายัญเป็นวิธีปฏิบัติบูชาในหมู่พราหมณ์ ที่ไม่เป็นสากลเพราะการมีอยู่ของเทพเจ้านััน เข้าถึงได้เฉพาะพราหมณ์เท่านั้น เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงไม่สามารถทำบูชายัญต่อเทพเจ้าด้วยพระองค์เอง เพื่อขอให้พระพรหมยกเลิกกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี พระองค์ทรงตัดสินพระทัยละทิ้งวรรณกษัตริย์ เสด็จออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์เพื่อแสวงหาสัจธรรมของชีวิต และเป็นเวลาหลายปีที่พระองค์ทรงจาริกไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อค้นหาวิธีพัฒนาศักยภาพชีวิตของพระองค์ เพื่อเข้าถึงการมีอยู่ของเทพเจ้า พระองค์ทรงค้นพบวิธีปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ จนมีญาณทิพย์เห็นวิญญาณสัตว์น้อยใหญ่ไปเกิดในภพภูมิต่าง ๆเป็นต้น พระศากยมุนีพุทธเจ้าทรงพัฒนาศักยภาพของชีวิต จนกระทั่งพระองค์ตรัสรู้กฎแห่งธรรมชาติของมนุษย์ว่าเมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณจะออกจากร่างกายไปเกิดใหม่ในอีกโลกอื่น ส่วนวิญญาณจะไปเกิดใหม่ที่ไหนขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเองที่สั่งสมเป็นสัญญาในใจของผู้กระทำ ถ้ากรรมดีเรียกว่า "กุศลกรรม" วิญญาณของผู้กระทำก็จะไปเกิดในโลกสวรรค์ถ้ากรรมชั่วเรียกว่า "อกุศลกรรม" วิญญาณก็จะไปเกิดใน "ทุคติภูมิ" เป็นต้น
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงระลึกถึงกฎธรรมชาติ ซึ่งเป็นความรู้ที่แท้จริงของชีวิตมนุษย์ ภายหลังตรัสรู้แล้วพระองค์ทรงเห็นว่ามนุษย์แต่ละคนมีชีวิตเข้มแข็งหรืออ่อนแอแตกต่างกันออกไป แต่มนุษย์สามารถพัฒนาศักยภาพชีวิตได้ ทำให้พระองค์ทรงตัดสินพระทัยออกเผยแผ่หลักการเกี่ยวกับธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ เพื่อให้ประชาชนในแคว้นต่าง ๆ ได้ศึกษาหลักธรรมและปฏิบัติธรรมตามอริยมรรคมีองค์ ๘ เพื่อชำระจิตวิญญาณบริสุทธิ์ ให้บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสที่เศร้าหมองต่อไป จนกระทั่งมีผู้เชื่อนับหลายร้อยล้านคนในยุคปัจจุบัน ดังนั้นพระพุทธศาสนา จึงมีพระศากยมุนีพุทธเจ้าทรงเป็นพระพุทธเจ้าองค์เดียว เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ทรงให้เอาพระธรรมวินัยเป็นศาสดาในพระพุทธศาสนาต่อไป
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นผู้เขียนสงสัยว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ก่อตั้งศาสนาที่ปฏิรูปสังคมในพระไตรปิฎกหรือไม่ มีเหตุผลอย่างไร? ผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้ต่อไปโดยตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอ เพื่อวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงคำตอบในเรื่องนี้ คำตอบที่ได้จากการคิดวิเคราะห์จะเขียนในรูปบทความวิเคราะห์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของประเทศไทยในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่เน้นให้นักเรียน นักศึกษาได้ศึกษาเชิงวิเคราะห์ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า พระธรรมทูตแห่งราชอาณาจักรไทยในต่างประเทศใช้แสดงธรรมเทศนา แก่ชุมชนชาวพุทธทั่วโลก และใช้บรรยายแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยพุทธในสั่งเวชนียสถานทั้ง ๔ ในสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สมาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ส่วนกระบวนวิธีพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้า จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตปริญญาเอกสาขาพระพุทธศาสนา ปรัชญาและศาสตร์สมัยใหม่ในการวิจัยระดับปริญญาเอก เพื่อให้ได้ผลการวิจัยเป็นความรู้ที่สมเหตุสมผล เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น