The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566

บทนำ องค์ประกอบของพระพุทธศาสนาตามหลักปรัชญาพุทธภูมิ

The structure of Buddhism according to   Buddhaphumi's Philosophy  
บทนำ  องค์ประกอบของพระพุทธศาสนา   

         โดยทั่วไปแล้ว  ปรัชญาแบ่งออกเป็นหลายแขนงเช่นอภิปรัชญา มีความสนใจในการศึกษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงของมนุษย์ โลกและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และการมีอยู่ของเทพเจ้า  เป็นต้น ญาณวิทยาสนใจปัญหาต้นกำเนิดความรู้ของมนุษย์    องค์ประกอบความรู้ของมนุษย์  วิธีพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้าในฐานะนักปรัชญาและความสมเหตุสมผลของความรู้ของมนุษย์ เป็นต้น   ในส่วนพระพุทธศาสนานั้นสนใจศึกษาเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความจริงของมนุษย์เท่านั้น  ในส่วนข้อเท็จจริงที่ทำให้เกิดปรัชญาและพระพุทธศาสนานั้นมาจากหลักฐานต่าง ๆ   กล่าวไว้ว่า แม้เจ้าชายสิทธัตถะทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิตถึง  ๑๘ สาขาวิชาก็ตาม เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทอดพระเนตรเห็นจัณฑาลผู้กระทำความผิดฐานละเมิดคำสอนของศาสนาพราหมณ์  และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะอย่างร้ายแรงด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับคนต่างวรรณะ  เขาจึงถูกสังคมลงโทษโดยถูกไล่ออกจากที่อยู่อาศัยไปตลอดชีวิต  และต้องใช้ชีวิตอย่างคนเร่ร่อน(Homeless)ในวัยชรา ป่วยและตายอยู่ข้างถนน  เป็นต้น    เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทอดพระเนตรเห็นปัญหาของจัณฑาลแล้ว พระองค์ทรงเกิดสงสัยในความเชื่อเรื่องการมีอยู่ของเทพเจ้าพระองค์ทรงชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้อีกต่อไป    จึงได้สอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานในเรื่องนี้   จากผู้เห็นเหตุการณ์เป็นปุโรหิตซึ่งเป็นปรึกษาของพระเจ้าสุทโธทนะ   แต่ไม่มีพราหมณ์คนใดสามารถตอบได้เกี่ยวกับประวัติพระพรหมและพระอิศวรได้เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อค้นพบความจริงของชีวิตว่าพระพรหมและพระอิศวรสร้างมนุษย์และวรรณะให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่ตนเกิดมา  ตามคำสอนของพราหมณ์อารยันหรือไม่?  แล้วเราจะรู้ความจริงในเรื่องนี้ได้อย่างไร ?  

        ส่วนปรัชญาตะวันตกเกิดขึ้นในสมัยหลังพุทธกาล    เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชส่งพระธรรมทูตจากอาณาจักรโมริยะ  ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก   เมื่อนักปรัชญากล่าวถึงข้อเท็จจริงอะไร?จะต้องมีหลักฐานพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้นหากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงของคำตอบการฟังข้อเท็จจริงจากพยานเพียงคนเดียวก็ไม่น่าเชื่อถือ    เนื่องจากมนุษย์มีแนวโนมจะมีอคติต่อผู้อื่นและมีข้อจำกัดของอวัยวะอินทรีย์ทั้ง  ๖ ในการรับรู้ประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสของตนเอง  นักปรัชญาจึงไม่ยอมรับข้อเท็จจริงที่ได้ยินว่าเป็นความจริงในเรื่องนั้น  ตามหลักปรัชญามีแนวความคิดที่ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยตัวมันเองทุกสิ่งมีเหตุและผล  ตัวอย่างเช่นความจริงของชีวิตมนุษย์ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือความรู้ในระดับประสาทสัมผัสจะเห็นได้ว่า มนุษย์เกิดแล้วต้องตาย  เมื่อพวกเขาตาย ศพของพวกเขาจะถูกเผาเหลือเพียงกระดูกและขึ้เถ้าเท่านั้น   สำหรับความรู้ระดับปรมัตถ์นั้นไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยอวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖เว้นแต่จะปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ นั้นก็จะได้ญาณทิพย์ที่เหนือกว่ามนุษย์ทั้งปวง   ดังเช่นพระพุทธเจ้าก็จะเห็นดวงวิญญาณของมนุษย์และสัตว์ทั้งน้อย และใหญ่ทิ้งร่างไปเกิดใหม่ในภพอื่นต่อไป เป็นต้น แต่โดยธรรมชาติแล้ว จิตใจของมนุษย์ขึ้นอยู่อวัยวะอินทรีย์ทั้ง ๖ ของร่างกายในการรับรู้สิ่งต่างๆ    สภาวะต่างๆ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเหตุการณ์ทางสังคม แต่จิตใจมนุษย์มีความสามารถทางปัญญาจำกัด    กล่าวคือไม่สามารถรับรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในที่ห่างไกลได้ หรือพลังงานของสสารที่อยู่นอกเหนือประสาทสัมผัสของมนุษย์ เช่น ไฟฟ้า จิตวิญญาณของมนุษย์คลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ นอกจากนี้มนุษย์มักมีอคติต่อกันพวกเขามักจะช่วยเหลือกันในลักษณะที่ขัดต่อศีลธรรมและกฎหมายดังนั้น  ความรู้เกี่ยวกับมนุษย์ โลกและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเทพเจ้า   มีบ่อเกิดความรู้ทั้งความรู้ในระดับประสาทสัมผัส    และความรู้ที่อยู่นอกเหนือขอบเขตประสาทสัมผัสของมนุษย์ มนุษย์จะเข้าใจการมีอยู่ของสิ่งต่าง ๆ ผ่านการรับรู้ได้อย่างไร?     เป็นปัญหาที่น่าสนใจมากในการศึกษาแล้วนักปรัชญาจะแก้ปัญหาอย่างไร?เมื่อมนุษย์ไม่สามารถใช้อวัยวะอินทรีย์ ๖ ของตนเองในการรับรู้การมีอยู่ของเทพเจ้าได้  เนื่องจากศักยภาพของมนุษย์มีจำกัดเมื่อความรู้ที่แท้จริงในพระพุทธศาสนานั้นเราสามารถแบ่งได้เป็น ๒ อย่างคือความรู้ระดับโลกียะและโลกุตตรธรรมปรมัตถ์)  

       ในการศึกษาปัญหาเกี่ยวกับความจริงขององค์ประกอบของพระพุทธศาสนาตามหลักปรัชญานั้นเพราะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีมายาวนานกว่า ๒,๕๐๐ ปี และเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับความจริงของมนุษย์เราก็สามารถศึกษาพระพุทธศาสนาตามหลักปรัชญาพุทธภูมิได้  เมื่อผู้เขียนกล่าวถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเมื่อใด จะต้องสอบสวนข้อเท็จจริง     และรวบรวมพยานหลักฐานมาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐาน    เพื่อหาเหตุผลมาพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น   ส่วนพยานบุคคลที่น่าเชื่อเพื่อยืนยันความจริงนั้นจะต้องมีความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัส และสั่งสมอยู่ในจิตใจเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับของทุกฝ่าย หากพยานบุคคลไม่มีความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมอยู่ในใจของตนเอง    คำพยานนั้นก็ไม่น่าเชื่อถือ และไม่อาจรับเป็นหลักฐานได้ เหตุผลจึงมีน้ำหนักน้อยและไม่สามารถนำมาใช้พิสูจน์ความจริงในเรื่องได้ตัวอย่างเช่นนักวิชาการ    ได้เขียนบทวิเคราะห์ถึงต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนาในราชอาณาจักรไทย  โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานสำคัญเช่นการสร้างวัดพุทธมากกว่า ๓๐,๐๐๐ แห่ง และเจดีย์จำนวนมากที่บรรจุพระบรมสาริกธาตุเป็นหลักฐานให้วิเคราะห์โดยการอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายข้อเท็จจริงของคำตอบเกี่ยวกับต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนา  แต่ข้อเท็จจริงของพุทธสถานในราชอาณาจักรไทยส่วนใหญ่    มีหลักฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยหลังพระพุทธกาลและไม่มีหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯได้ยืนยันข้อเท็จจริงของคำตอบว่าราชอาณาจักรไทย  เคยเป็นสถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้  สถานที่แสดงปฐมเทศนา      และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า อีกทั้งไม่มีบันทึกว่าพระศากยมุนีพุทธเจ้าเสด็จมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรัฐสุวรรณภูมิ    ส่วนนักปรัชญาที่เชื่อว่าพระพุทธศาสนา    ควรมีต้นกำเนิดในราชอาณาจักรไทยโดยอ้างวัดพุทธเป็นหลักฐานในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้เพื่อหาเหตุผลอธิบายความจริงของคำตอบเกี่ยวกับต้นกำเนิดของพุทธศาสนาเหตุผลในเรื่องนี้ จึงมีน้ำหนักน้อย ไม่เพียงพอที่จะยืนยันข้อเท็จจริงว่าเป็นความจริงเพราะขาดเอกสารหลักฐานและหลักฐานสนับสนุนข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องนี้ 

      ปัญหาคือเราจะศึกษาพุทธศาสนาตามแนวคิดปรัชญาพุทธภูมิได้หรือไม่  เมื่อนักปรัชญาสนใจที่จะศึกษาปัญหาอภิปรัชญาเกี่ยวกับมนุษย์ จิต เจตจำนงเสรีและเทพเจ้า เป็นต้น   เมื่อพระพุทธศาสนาเกี่ยวข้องกับความจริงของมนุษย์        ก็ถือได้ว่าเป็นปัญหาอภิปรัชญาที่สามารถศึกษาได้ตามวิธีพิจารณาปรัชญา         เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของแก่นแท้ของสรรพสิ่ง      ดังนั้นในการศึกษาความจริงของเมืองประวัติศาสตร์สารนารถว่า เป็นสถานที่กำเนิดของพระพุทธศาสนานั้น   แต่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าเมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใด     ๆ อย่าตัดสินใจเชื่อเรื่องราวที่ฟังตาม ๆ กันมา  ควรสงสัยไว้ก่อนจนกว่าจะสืบเสาะข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานในพระไตรปิฎก        อรรถกถา บันทึกของนักบวชจีน    พยานวัตถุได้แก่โบราณสถานทางพุทธศาสนาที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช                   พยานบุคคลได้แก่นักโบราณคดีชาวอินเดียและอังกฤษที่ขุดค้น เป็นต้น   มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ      เพื่อหาเหตุผลมาพิสูจน์ความจริงของคำตอบ  หรือหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบต่อไป

      ปัญหาว่า  "เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพุทธศาสนามีองค์ประกอบหลักศาสนาครบถ้วน? "เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ   เราได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าความจริงเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา  ได้รับการบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ หลายเล่ม เมื่อผู้เขียนตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆมาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่างๆเพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบเรื่องพระพุทธศาสนาปรากฏอยู่ในจิตใจผู้เขียนยังไม่แน่ชัดว่าข้อเท็จจริงในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ นั้น พระพุทธศาสนามีองค์ประกอบครบถ้วนตามหลักศาสนาหรือไม่?   มีความจำเป็นต้องสอบสวนข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐานให้เพียงพอต่อไป จึงกำหนดขอบเขตความรู้ของพระพุทธศาสนาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น  โดยกำหนดองค์ประกอบของคำว่า "ศาสนา"ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ.๒๕๕๔   ได้นิยามคำว่า"ศาสนา" ว่า"ศาสนาคือลัทธิความเชื่อของมนุษย์อันมีหลักคือการเกิดขึ้นและสิ้นสุดของโลกเป็นต้นในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่งแสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบาปกับบุญ  อันเป็นฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่งลัทธิพิธีกรรมทำตามความเห็นหรือตามคำสอนในเรื่องของความเชื่อนั้น ๆ
  
        ตามคำจำกัดความของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. ๒๕๕๔ ผู้เขียนตีความคำว่า "ศาสนา"มีองค์ประกอบทั้งหมดตามหลักศาสนาดังนี้
๑.ศาสดา  
๒.หลักธรรม 
๓.สาวก 
๔.มีพิธีกรรม 
๕.ศาสนสถาน  
      เราพิจารณาถึงองค์ประกอบของศาสนาได้ดังนี้ ๑.ศาสดาคือมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของความเชื่อนั้นและความรู้เกี่ยวกับการเกิดขึ้นและสิ้นสุดของโลกและ ๒.หลักธรรมเกี่ยวกับบาปและบุญ เป็นต้น ๓.สาวก ๔.  พิธีกรรม๔. ศาสนาพิธี  ๕.ศาสนสถาน เป็นต้น (ยังมีต่อ) 

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ