The fourth element of Buddhism is ritual.
๑.บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของพิธีกรรมในพระพุทธศาสนา ?
พิธีกรรมในพระพุทธศาสนามีรากฐานมาจากหลายส่วนประกอบกัน ทั้งจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเองจากวัฒนธรรมความเชื่อดังเดิมของของสังคมที่ศาสนาพุทธเผยแผ่เข้าไป โดยสามารถสรุปความเป็นได้ดังนี้
๑.การปรับเปลี่ยนจากศาสนาเดิม : ใสมัยก่อนที่พระพุทธศาสนาถือกำเนิดขึ้นในประเทศอินเดียนั้น สังคมส่วนใหญ่มีความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีพิธีกรรมที่มีกระบวนทำพิธีที่ซับซ้อน พระพุทธเจ้าทรงปรับเปลี่ยนพิธีกรรมเหล่านั้นให้มีความเรียบง่าย สอดคล้องกับหลักธรรม เช่นการทำบุญ กิริยาวัตถุ ๓ ประการคือการให้ทาน การรักษาศีล และการภาวนา แทนการบูชายัญ และเน้นการทำความดีมากมว่าการประกอบพิธีที่ฟุ่มเฟื่อย เป็นต้น
การศึกษาปรัชญาพุทธภูมิ หัวข้ออภิปรัชญาเกี่ยวกับสัจธรรมของพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ และผู้เขียนสนใจที่จะเรียนรู้สัจธรรมของหัวข้อนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น เมื่อเราเข้าใจอย่างถูกต้อง เราก็จะไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา ในชีวิตมนุษย์ทุกคนย่อมมีวันที่ดีที่เราสามารถบรรลุสิ่งที่ปรารถนา และวันที่เราต้องรู้จักตนเอง เรารู้ว่าความโชคร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น เป็นเพราะชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งไม่เที่ยง เมื่อเกิดมาแล้ว ดำรงอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วดับสูญไป จิตวิญญาณต้องเวียนว่ายตายแล้วเกิดใหม่อย่างไม่สิ้นสุด
เมื่อความรู้เกิดจากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายในและสั่งสมไว้เป็นอารมณ์ในจิตใจ เมื่อบุคคลตายลงไป ความรู้ทางอารมณ์ที่ห่อหุ้มวิญญาณจะไม่สูญหายไป แต่ยังคงห่อหุ้มในจิตวิญญาณ เมื่อบุคคลพัฒนาศักยภาพชีวิตด้วยการทำสมาธิ และการปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘ อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาจะจดจำความรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายใน และสั่งสมความรู้ไว้เป็นหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจ บุคคลนั้นสามารถนำความรู้นี้ไปแก้ไขปัญหาในการทำงานได้มั่นใจ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแน่วแน่
ปัญหาคือ เราสามารถศึกษาพิธีกรรมแรกของพระพุทธเจ้าในเชิงปรัชญาได้หรือไม่ ? ตามหลักอภิปรัชญาซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของปรัชญาที่ศึกษา"มนุษย์" เมื่อพิธีกรรมทางพุทธศาสนาเกี่ยวข้องกับชีวิต ก็สามารถศึกษาพิธีกรรมตามหลักอภิปรัชญาได้เพราะอภิปรัชญาและพระพุทธศาสนา ก็สนใจศึกษาความจริงของมนุษย์เช่นกัน แก่นแท้คือ เมื่อนักปรัชญาและนักวิชาการชาวพุทธอ้างถึงข้อเท็จจริงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พวกเขาจำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้หรือคาดคะเนความจริง เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น โดยใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญา ใช้ในการอธิบายความจริงของเรื่องนั้นอย่างสมเหตุสมผล เป็นต้น
พวกเขาอาจมีความแตกต่างกันบ้าง ในวิธีการเข้าถึงความจริงของปรัชญาและพระพุทธศาสนาเพราะปรัชญาและพระพุทธศาสนาใช้พยานหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริงของคำตอบในเรื่องที่น่าสงสัยนั้น แต่พระพุทธศาสนาต้องการพยานบุคคลซึ่งพัฒนาศักยภาพแล้ว และต้องมีความรู้เหนือประสาทสัมผัสที่เรียกว่า "อภิญญา๖" เป็นต้น ทุกศาสนาในโลกมีพิธีกรรมทางศาสนาเป็นของตนเอง ให้ผู้นับถือเข้าร่วมในพิธีกรรมทางศาสนา ตั้งแต่เจ้าอาวาส นักบวช และฆราวาส ในเทศกาลต่าง ๆ เพื่อรักษาศาสนาของตนไว้ แม้แต่ผู้เขียนและชาวพุทธทั่วโลกก็เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นประจำ แต่เรื่องราวของพิธีกรรมคือ ความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายในของตนเอง และสั่งสมไว้ในจิตใจ แต่เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจ แต่ว่าข้อเท็จจริงของพิธีกรรมในเรื่องนั้นยังไม่ชัดเจน ทำไมเราต้องทำพิธีกรรมนั้น ทำไมเราต้องอามิสบูชาหรือปฏิบัติบูชาทั้งหมดนี้คือข้อสงสัยเกี่ยวกับปัจจัยแห่งเหตุของการบูชาพระพุทธเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น