บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
การเขียนบทความเกี่ยวกับพระเทวทัต ผู้ประมาทเลินเล่อในชีวิตเป็นหนทางไปสู่นรกเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างเข้มข้นและน่าสนใจ ในการเขียนบทความเกี่ยวกับ พระเทวทัตนั้น เราสามารถพิจารณาหัวข้อนี้ ได้จากมุมมองความคิดเห็น หรือมุมมองส่วนบุคคลที่หลากหลายเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นบทความวิเคราะห์ บทความเปรียบเทียบ บทความพรรณนา และบทความเชิงปรัชญา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเราศึกษา และวิจัยการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เราพบหลักฐานว่าการศึกษาเชิงวิเคราะห์มีมาก่อนสมัยพุทธกาล เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงสำเร็จการศึกษาศิลปศาสตร์ ๑๘ สาขาวิชา จากสถาบันครูวิศวมิตรพระองค์ก็ทรงศึกษาวิชาตรรกศาสตร์ด้วย
ในสมัยพุทธกาลนั้น ปัญหาสังคมในอนุทวีปอินเดียมีต้นตอมาจากความเชื่อเรื่อง "เทพเจ้าหลายองค์" ในศาสนาพราหมณ์ซึ่งเชื่อว่า การบูชาเทพเจ้าเพื่อประโยชน์ของมนุษย์จะนำมาซึ่งผล ประโยชน์ผ่านการบูชาด้วยวัตถุต่าง ๆ และสร้างรายได้มหาศาล เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง เมื่อพราหมณ์ชาวอารยันพยายามผูกขาดบูชา และขัดขวางไม่ให้พราหมณ์ชาวดราวิเดียนแสวงหาผลประโยชน์จากการบูชา พวกเขาใช้อำนาจทางการเมืองบัญญัติกฎหมายวรรณะเพื่อจำกัดสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่ของชาวดราวิเดียนในการศึกษาศิลปศาสตร์ การมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ การประกอบอาชีพ การศึกษาปรัชญาและศาสนาพราหมณ์ เป็นต้น แคว้นสักกะแบ่งประชาชนออกเป็น ๔ วรรณะ คือ วรรณะพราหมณ์ วรรณะกษัตริย์ วรรณะแพศย์ และวรรณะศูทร
เมื่อคำสอนของศาสนากลายเป็นกฎหมาย พลเมืองจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามสภาพบังคับของกฎหมายเหล่านั้น กล่าวคือข้อห้ามประชาชนมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลในวรรณะอื่น และห้ามประชาชนมิให้ปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นของวรรณะอื่น เนื่องจากพลเมืองของอาณาจักรเหล่านั้น เกิดมาโดยไม่รู้ความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัต์ ชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้วยความมืดมนอันเนื่องมาจากตัณหา ผู้คนจึงขาดปัญญาเข้าใจความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ จึงไม่สามารถใช้เหตุผล เพื่ออธิบายความจริงในชีวิตตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล พวกเขาก่อให้เกิดปัญหาสังคมเพราะละเมิดคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายวรรณะ จึงถูกสังคมลงโทษด้วยลง "พรหมทัณฑ์" คือการไม่คบค้าสมาคมและถูกขับไล่ออกจากถิ่นที่อยู่ตลอดชีวิตด้วย
๒.สภาพปัญหาการกำเนิดของพระเทวทัต
พระเทวทัต เป็นตัวละครสำคัญในประวัติศาสตร์พุทธศาสนา อันซับซ้อน พระเทวทัตเป็นพระญาติกับพระพุทธเจ้าในราชวงศ์โกลิยะ และบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม พระเทวทัตมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ความอิจฉา และความเย่อยิ่งของพระองค์ ทำให้พระเทวทัตค่อย ๆ หลงผิดและสร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์
๓.ความสำคัญของปัญหาพระเทวทัต มีดังนี้
๓.๑ ความทะเยอทะยานในอำนาจ : พระเทวทัตปรารถนาจะเป็นผู้สูงสุดเหนือพระสงฆ์ ท่านพยายามหาทางโค่นล้มพระพุทธเจ้าและสร้างศาสนาของตนเอง ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างสิ้นเชิง
เมื่อโลกมนุษย์เปลี่ยนแปลง ตามความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ที่บางคนเป็นนักวิทยาศาสตร์ พวกเขาสามารถพัฒนาเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ให้เป็นแหล่งความรู้ขนาดใหญ่สำหรับผู้คนทั่วโลก ตามอารยธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นจากการคิดโดยอนุมานความรู้และคาดคะเนความจริง โดยใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น ซึ่งเป็นความรู้จากประสบการณ์ของชีวิตผ่านอายตนะภายในร่างกายของมนุษย์ และสั่่งสมไว้ในจิตใจ ได้นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน จนมนุษย์สามารถพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น พวกเขาสามารถสร้างเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตให้เป็นเครือข่ายเดียวกันทั่วโลก สร้างโลกแห่งการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด ซึ่งเป็นความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านการรับรู้ทางอายตนะภายในของมนุษย์ที่สั่งสมไว้ในจิตใจได้รับการแบ่งปันและจัดเก็บหลักฐานบนแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ต เพื่อตอบสนองต่อการศึกษาและการวิจัยของมนุษย์ทั่วโลก
เมื่อผู้คนแสดงออกถึงบุคคลิกของตนที่ได้รับการหล่อมหลอม โดยระบบการศึกษาของประเทศ และประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา พวกเขาเริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริงอย่างชัดเจนผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ และไม่สามารถปกปิดอาการของพวกเขาจากผู้อื่นได้อีกต่อไป เมื่อพวกเขาทำผิดทางจริยธรรม และกฎหมายของประเทศ พฤติกรรมของพวกเขาบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ล้วนสร้างหลักฐานเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยการอนุมานความรู้หรือการคาดคะเนความจริงอย่างมีเหตุผล เพื่อพิสูจน์ความจริงของตัวตนของพวกเขา เนื่องจากผู้คนเริ่มแสดงวิสัยทัศน์ของตนเองให้คนอื่นเห็นเนื้อหาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ศักยภาพของแต่ละคนในโลกอีกด้วย แพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตจึงเป็นพื้นที่แบ่งปันความรู้ที่สำคัญในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษา ทั่วโลก
นอกจากนี้ ผู้คนทั่วโลกยังใช้แพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตเป็นแพลตฟอร์มในการเผยแพร่ศาสนา วัฒนธรรม วิถีชีวิตของประชาชนในประเทศของตน และเปิดเว็ปไซต์ให้เรียนรู้เรื่องราวสนใจได้ตลอดเวลาไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลก สิ่งที่ต้องมีคืออินเตอร์เน็ตไร้สายและทักษะในการใช้เทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ก็สามารถศึกษาและแสวงหาความรู้ได้ทุกเมื่อ เมื่อจิตใจได้รับความรู้ดังกล่าว ผู้คนจะเปลี่ยนความคิดที่จะยอมรับและนำความรู้ไปใช้ หากพวกเขาไม่เห็นประโยชน์ พวกเขาก็จะไม่สนใจศึกษาอารยธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น เห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมการทำงานเปลี่ยนไป ซึ่งลดอคติในการทำงานและลดตำแหน่งงานลงอย่างมาก
ถึงแม้ว่าต้นทุนการทำงานจะลดลง แต่ความมั่นคงของประเทศในด้านการเมือง การศึกษา เศรษฐกิจ สาธารณสุข และวัฒนธรรมก็ต้องมีเพราะประชาชนมีอำนาจกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น หรือกระตุ้นการใช้จ่ายเหลือเพียงแต่ข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างของรัฐเท่านั้น เมื่อบุคคลเหล่านี้กษียณไป ควรเพิ่มอัตรากำลังคนให้มากขึ้น เพื่อรักษาความั่นคงของประเทศไว้ แต่คนส่วนมากยังขาดความรู้ เนื่องจากมีชีวิตที่อ่อนแอ ไม่มีความเชื่อมั่นในตนเองว่าจะพัฒนาตนเองให้เก่งเท่าคนอื่นได้ ไม่ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาและพัฒนาตนเอง มีสติอยู่กับความรู้จากการเรียนและประสบการณ์ชีวิตที่สังสมมาในจิตใจ มีสมาธิมั่นคงในการปฏิบัติหน้าที่ของตน มีปัญญาหยั่งรู้ความจริงและสามารถคิดโดยใช้เหตุผลในการอธิบายคำตอบของตนเอง ก่อนตัดสินใจแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และปล่อยให้ชีวิตไปตามอารมณ์ของตนเองไปสู่ที่เสื่อม เช่น การออกไปเที่ยวกลางคืนในสถานบันเทิง เล่นเกมส์พนันออนไลน์บนมือถือและบ่อนการพนันอื่น ๆ จึงปฏิเสขที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่เกิดจากความรู้ที่แบ่งปันบนอินเตอร์เน็ตและให้ทุกคนเรียนรู้ฟรีบนเว็บไซต์ต่าง ๆ และนำความรู้นั้้นไปใช้ในงานของพวกเขา
เมื่อหลายคนเลือกใช้ชีวิตตามความพึงพอใจของตนเอง เช่นการพนันออนไลน์ เล่นเกมส์ออนไลน์ และเล่นยาเสพติด ไม่สนใจว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรในอนาคต สักวันหนึ่งจะไม่มีเงินสนับสนุนจากพ่อแม่หรือคนรักอีกต่อไป และจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีงานทำ มีอาชีพเดียวเอาตัวรอดคือเป็นโจรเป็นความประมาทในชีวิต ในสภาวะของโควิค -19 หลายสายพันธ์ุกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศไทย ชีวิตต้องได้รับการชี้นำอย่างระมัดระวังโดยแพทย์ผ่านโซเซียล และติดตามข่าวที่แชร์กันตลอดเวลา อย่าใช้ชีวิตตามใจตัวเองโดยไม่นึกถึงคนอื่นที่เขาจริงใจกับคุณและใช้ชีวิตแบบคนเห็นแก่ตัว อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ไปทุกเวลา อยากนั่งกินข้าวที่ร้านไหนก็นั่งกิน และอยากไปงานปาร์ตี้ที่ไหนก็ไป เมื่อเกิดติดโรคโควิคมาสู่ครอบครัวไม่มีโอกาสที่จะบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย การใช้ชีวิตตามความพอใจของตนถือว่าประมาทเลินเล่อเพราะขาดความระมัดระวังในการใช้ชีวิต
ปัญหาต้องพิจารณาต่อไปว่า ประมาทคืออะไร เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานจากที่มาของความรู้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ นิยามศัพท์ว่า ประมาทคือการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์และผู้กระทำอาจใช้ความระวังได้เช่นว่านั้นได้แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ เป็นต้น และคำว่า"ประมาท" ปรากฎหลักฐานอยู่ในพระไตรปิฎกหลายเล่ม ตัวอย่างเช่น พระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ เล่มที่๗ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๗ จุลวรรคภาค ๒ [๗.สังฆเภทขันธกะ] ๒.ทุติยภาณวาร ข้อ. ๓๔๒.............ครั้งพระผู้มีพระภาคส่งแผ่เมตตาจิต ไปที่ช้างนาฬาคีรี ลำดับนั้น ช้างนาฬาคีรีได้สัมผัสกระแสจิตของพระผู้มีพระภาค จึงลดงวงลงเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคยืนอยู่ตรงพระพักตร์พระผู้มีพระภาค ทรงยกพระหัตถ์ขวาลูบกระพองช้างนาฬาคีรี พลางตรัสสอนช้างนาฬาคีรีด้วยพระคาถาทั้งหลายว่า "กุญชรเอย เจ้าอย่าคิดเข้ามาทำร้ายพระพุทธเจ้า กุญชรเอย การคิดเข้ามาทำร้ายพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นเหตุแห่งความทุกข์กุญชรเอย ผู้ฆ่าพระพุทธเจ้าจากชาตินี้ไปสู่ชาติหน้า จะไม่มีสุคติภูมิเลยเจ้าอย่ามัวเมา อย่าประมาทเพราะคนผู้ประมาทแล้วย่อมไม่ไปสุคติ เจ้านี่แหละจักกระทำเหตุให้เจ้าเดินทางไปสู่สุคติ
เมื่อผู้เขียนวิเคราะห์ข้อมูลข้างต้นนั้น ผู้เขียนตีความได้ว่าผู้ใดกระทำโดยความประมาทเป็นอกุศลกรรมอย่างหนึ่ง เมื่อตายจะไปตกสู่ทุกคติภูมิ ตามตัวอย่างข้างต้น หากช้างนาฬาคีรี ทำร้ายพระพุทธเจ้า เมื่อตายไป จิตวิญญาณจะไปจุติยังทุคติภูมิ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น