The reason for the creation of the Sea of Pagodas of Bagan
บทนำ
โดยทั่วไปแล้ว มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตของตนทุกวินาที และสั่งสมอารมณ์ของเรื่องนั้นไว้ในจิตใจ เพื่อวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ เพื่อคิดหาเหตุผลมาอธิบายข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นคืออะไร ? แล้ว เกิดความตัณหารู้คืออยากได้สิ่งนั้นเพื่อมาสนองอารมณ์ของตนเองและหาวิธีการต่าง ๆ ให้มีสิ่งนั้นเป็นของตนเอง เพื่อใช้สิ่งนั้นให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองแต่สิ่งนั้นมิได้มาโดยง่าย แต่ชีวิตมนุษย์มีความทะเยอทะยานที่จะได้มาซึ่งเป้าหมายแห่งความปรารถนา มาตอบสนองอารมณ์ของตนเองตลอดเวลา เมื่อพวกเขาต้องการอะไรแต่มันไม่ได้ตามที่ตนต้องการก็ย่อมมีความไม่พอใจเป็นธรรมดา เขาก็จะมีความรู้โกรธเกิดขึ้นในใจเสมอ กลายเป็นคนที่มีนิสัยไม่อ่อนโยน หยาบคายและโกรธง่ายไม่เหมาะสมที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม การทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในที่สาธารณะ ขาดความมั่นคงในเป้าหมายชีวิต และมีจิตใจที่อ่อนไหวต่อการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรมได้ จนขาดสติและปัญญาเพราะไม่สามารถระลึกถึงความรู้จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาและสั่งสมอยู่ในจิตใจได้ สามารถนำมาใช้เป็นข้อพิจารณาหลักในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเองได้ ในโลกปัจจุบัน มนุษย์จะมีความเจริญด้วยเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ผู้คนใช้อินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลเพื่อค้นหาความรู้ที่ตนสนใจอยู่ตลอดเวลา แต่ผู้คนจึงสั่งสมความรู้เรื่องความดีและความชั่วไว้ในใจตลอดเวลา แนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ชีวิตหายจากความอ่อนแอ ด้วยการทำสมาธิเพื่อชีวิตที่เข้มแข็ง มีสติตื่นรู้อยู่ปัจจุบันตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ยังเป็นสิ่งจำเป็นและสามารถช่วยให้มีชีวิตที่ดีขึ้นดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงยังมีความเป็นจำเป็นสำหรับชาวโลกในการพัฒนาศักยภาพในชีวิตของตน
เจดีย์เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาเพราะการก่อสร้างเจดีย์มาจากความเชื่อของคนในสมัยนั้นว่า การสร้างเจดีย์เป็นสถานที่บรรจุสิ่งมงคลสูงสุดในพระพุทธศาสนา เพื่ออามิสบูชาและปฏิบัติบูชา (worship practice) ของชาวพุทธตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ เพื่อพ้นจากทุกข์ของชีวิต เพราะความจริงอันเป็นที่สุดที่ได้จากการปฏิบัติบูชานั้น เป็นความรู้ที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากปัญหาของการดำรงชีวิต ทำให้ชีวิตมีความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ และความสงบสุขตามหลักศีลธรรมและกฎหมาย เป็นต้น เจดีย์ชเวซีโกนสร้างขึ้นตามแบบศิลปะพม่า เป็นเจดีย์ปิดทองคำเปลวหลายชั้น และเป็นเจดีย์องค์แรกที่สร้างขึ้นในอาณาจักรพุกาม เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองทางจิตวิญญาณและวิถีชีวิตของผู้คนที่สงบสุขและมั่นคงในเป้าหมายของชีวิต เพราะพวกเขาเข้าใจชีวิต และเชื่อในผลบุญของพวกเขา โดยปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทเรียกว่า "อริยมรรคมีองค์๘" เพราะมีความรู้ในปฏิปทาที่ถูกต้อง ตามหลักสอนของพระพุทธเจ้าว่า เมื่อจิตใจมนุษย์คิดดีแล้วย่อมมองโลกในทางที่ดี จิตย่อมแสดงออกมาในทางที่ดีคือ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น กรรมดีเหล่านี้ก็จะส่งผลให้จิตใจ เกิดในภพภูมิที่ดี หรือกลับมาเกิดในภพมนุษย์ ก็จะเกิดในสังคมที่มีความสงบสุขตามหลักศีลธรรมและกฎหมาย มีชีวิตที่พอเพียง และพึงตนเองได้ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เป็นต้น เมื่อบ้านเมืองสงบสุข ผู้คนต่างพากันไปวัดในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทเพื่อฟังธรรมจากพระมหาเถระ และนำความรู้จากครูบาอาจารย์ไปปฏิบัติเพื่อให้จิตของตัวเองรู้แจ้งในโลกุตตรธรรม จิตใจของผู้คนเข้าถึงศาสนามากขึ้นไป
ดังนั้นการก่อสร้างเจดียชเวซีโกนสร้างขึ้นสมัยของพระเจ้าอโนรธามังชอเพื่อบรรจุพระบรมสาริกธาตุของพระพุทธเจ้าและพระทันตธาตุ แสดงว่าพระพุทธศาสนาเป็นที่ศรัทธาของพระมหากษัตริย์ในยุคนั้น วัดนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ดีแสดงถึงร่องรอยทางอารยธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นจากแนวความคิดของมนุษย์ในแต่ละสมัย และเป็นอนุสรณ์สถานทางพระพุทธศาสนาที่ลึกซึ้งในจิตใจของมนุษย์เจดีย์ชเวซีโกน เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้บรรจุพระพบมสาริกธาตุและพระทันตธาตุของศากยมุนีพระพุทธ สถานที่ตั้งอยู่บนหาดทรายฝั่งแม่น้ำอจิรวดี เมืองพุกามโบราณ เป็นวัดสร้างขึ้นในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ปัจจุบันตั้งอยูที่เมืองญองอู้ เขตมัณฑเลย์ ภาคกลางของสหภาพพม่าสร้างขึ้นโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ เจดีย์ชเวซีโกนแปลว่าเจดีย์สร้างบนผืนทรายริมฝั่งแม่น้ำอจิรวดี
๑. ความสำคัญของ "เจดีย์" นั้น เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๕๔ นั้นแปลว่า สิ่งซึ่งก่อสร้างคล้ายลอมฟาง มียอดแหลม บรรจุสิ่งที่นับถือมีพระธาตุเป็นต้น,สิ่งหรือบุคคลที่เคารพนับถือ เป็นต้น และในพระไตรปิฎกมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค...........ข้อ๖.อานนท์เธอได้ยินไหมว่าพวกเจ้าวัชชี สักการะ เคารพ นับถือ เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมืองและไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้ เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ยินดีพวกเจ้าวัชชี สักการะ เคารพ นับถือ เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมืองและไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้ เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป
"อานนท์ พวกเจ้าวัชชีพึงหวังได้ แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตราบเท่าที่พวกเจ้าวัชชี ยังสักการะเคารพ นับถือ เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมืองและไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้ เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป"
ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ ข้างต้น ผู้เขียนตีความว่า เมื่อชาววัชชียังมีความเชื่อว่าเมื่อยังบูชาและนับถือเจดีย์ในแคว้นวัชชีเพราะเจดีย์บรรจุสิ่งที่ตนเคารพสูงสุด และยึดมั่นในหลักการใช้ชีวิต ไม่ละเลยที่จะแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในชีวิตด้วยความเต็มใจพวกเขาย่อมจะเจริญอยู่เพียงฝ่ายเดียว พระพุทธเจ้าตรัสว่าสรรพสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในสังสารวัฏหมุนเวียนอย่างนี้ไม่สิ้นสุด เพราะเหตุปัจจัยทำให้เกิดก็ได้เกิด มีเหตุปัจจัยให้ดับ สิ่งนั้นก็ดับไป
ดังนั้น หลังจากที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งพระโสนะและพระอุตตรเป็นพระธรรมทูตสายต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรโมริยะไปเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้าในดินแดนสุวรรณภูมิ เมื่อชาวสุวรรณภูมิศึกษาหลักอปริหานิยธรรม ข้อที่ ๖ ของพระพุทธเจ้าแล้ว เชื่อว่าตนสร้างเจดีย์บรรจุสิ่งที่ตนเคารพบูชาไว้ เป็นศาสนวัตถุทางพระพุทธศาสนา ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เมื่อตายแล้ว ไปจะบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ดังนั้น เมื่อชาวพุทธในดินแดนสุวรรณภูมิในยุคนั้นเรียกว่า อาณาจักรพุกาม เป็นชุมชนทางการเมือง ที่มีอาเขตแน่นอน มีชาวพุกามอาศัยอยู่ มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง มีภาษาพุกามใช้ในการสื่อสารและวัฒนธรรมของตนเองที่สร้างขึ้นจากความเชื่อในพระพุทธศาสนาว่า สร้างพระเจดีย์ขึ้นมาเพื่อบรรจุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้เป็นที่เคารพบูชา เพื่อพัฒนาศัยภาพของชีวิตพวกเขาให้มีความเจริญรุ่งเรืองเพียงฝ่ายเดียว แม้ดวงวิญญาณของพวกเขาต้องเวียนว่ายเกิดในวัฏจักรแห่งความตายและการกลับชาติมาเกิดใหม่ไม่สิ้นสุด พวกเขาก็จะเสวยผลในโลกสวรรค์และหากกลับมาเกิดในโลกมนุษย์ จะเกิดในสังคมที่มีความสงบสุขบนพื้นฐานของศีลธรรมและกฎหมาย เมื่อชาวพุกามสร้างอารยธรรมการบูชาจากคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เป็นทะเลเจดีย์หลายพันองค์ไว้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ควรรักษาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าในกฎธรรมชาติของชีวิตว่าจิตวิญญาณเป็นตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ที่ผ่านวัฏจักรแห่งความตายและการกลับชาติมาเกิดใหม่ไม่เคยสิ้นสุด เพราะความโง่เขลามัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะและธัมมารมย์ ทำให้เกิดความประมาทในการใช้ชีวิต โดยไม่ยอมพัฒนาศักยภาพของชีวิตให้มีความเข้มแข็ง ชำระล้างกิลสที่หมักมมในจิตใจมายาวนาน ชีวิตของพวกจึงมีความขุ่นมัวเพราะอคติของตนเอง ทำให้บุคคลิกภาพไม่อ่อนโยนไม่รู้สึกไว้วางใจถึงความเป็นมิตรต่อผู้อื่น ไม่มั่นคงในอุดมการณ์ของตนและไม่หวั่นไหวต่อการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่น สังคมและประเทศด้วยความหนักแน่นด้วยหลักเมตตากรุณา บริสุทธิ์และยุติธรรมต่อทุกฝ่ายด้วยหลักเหตุผลที่ถูกต้อง
แม้ว่าอาณาจักรพุกามจะเป็นความจริงที่สมมติขึ้น เพราะการสร้างอาณาจักรพุกามเป็นอารยธรรมที่สร้างขึ้นด้วยภูมิปัญญาของชาวพุกามให้เป็นอาณาจักรพุกามอันยิ่งใหญ่ ที่สร้างขึ้นจากศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า จนมีพระเจดีย์นับพันองค์ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการมีอยู่ของอาณาจักรแห่งนี้และอิทธิพลของคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ชาวพุกามใช้เป็นหลักปฏิบัติในการดำรงชีวิตอย่างมั่นคงและแน่วแน่ ปลูกฝังคำสัญญาในจิตใจ แม้ว่าดวงวิญญาณของพวกเขาจะผ่านวัฏจักรแห่งความตาย และการกลับชาติมาเกิดในโลกมนุษย์อย่างไม่สิ้นสุด แต่ความรู้ทางพระพุธศาสนาไม่ได้สูญหายไปกับการตายหรือการเกิดใหม่ แม้อาณาจักรพุกามจะตกอยู่ในอำนาจของกฎไตรลักษณ์ ชาวพุกามสร้างอาณาจักรพุกามเกิดขึ้นมา ตั้งอยู่เป็นอาณจักรที่ยิ่งใหญ่ด้วยอารยธรรมที่ชาวพุกามสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาของคำสอนของพระพุทธศาสนาคือการสร้างเจดีย์เป็นศาสนาวัตถุในพระพุทธศาสนา และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกที่ควรอนุรักษ์ไว้ด้วยค่านิยมที่ต้องรักษาไว้เป็นมรดกของชาติ สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามให้ชาวพุกามยึดมั่นในจารีตประเพณี และต่อยอดทางการศึกษาให้รู้คุณค่าของมรดกของภูมิปัญญาของชาติเพื่อส่งเสริมการรเรียนรู้ที่เหมาะสม
ในที่สุด อำนาจอธิปไตยของอาณาจักรพุกามถูกทำลายโดยปัจจัยภายนอกจากการรุกรานของเจงกิสข่านผู้นำชาวมงโกลเลีย และยึดอำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองอาณาจักรพุกาม อาณาจักรพุกามจึงเสื่อมโทรมไปตามกฎแห่งธรรมชาติที่เกิดขึ้น มีอยู่ และดับไปเช่นเดียวกับชีวิตมนุษย์ แต่เรื่องราวของอาณาจักรพุกามที่สั่งสมในจิตของมนุษย์ กลายเป็นสัญญาในกระแสจิตไปสู่ภพอื่นด้วย แม้จะมีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่คำสัญญาเกี่ยวกับเรื่องราวของอาณาจักรพุกามก็ยังสืบย้อนไปถึงชีวิตปัจจุบัน เจดีย์หลายพันแห่งตั้งตระหง่านเหนือยอดไม้ซึ่งนักท่องเที่ยวยังมองเห็นได้จากอาคารสูงและโรงแรมขนาดใหญ่ในเมืองพุกามก็มีความงามอย่างพิศวงเหนือยอดต้นไม้กระจายทั่วไปในเมืองพุกามโบราณ โดยเฉพาะตอนเช้าที่อากาศเย็น ๆ กระทบร่างกายทำให้เราลืมความทุกข์ที่ค้างคาอยู่ในจิตใจให้เกิดทุกข์ และจิตใจของมนุษย์ได้ปะทะกับปัจจัยของพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าก็เป็นสถานที่ตราตรึงจิตให้จ้องมองพระอาทิตย์ จนลืมความเครียดไปชั่วขณะหนึ่ง แม้จะเป็นสิ่งที่จิตมนุษย์สร้างขึ้นมาก็ตาม แต่ความคิดที่เกิดจากความเชื่อทางพระพุทธศาสนา แต่เป็นร่องรอยของวัฒนาธรรมทางพุทธศาสนาที่สร้างจากความคิดที่ดีในการสร้างเจดีย์ที่เราสามารถมองเห็นได้มากมายเพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระพุทธเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น