Introduction: The Study and Analysis of Heritage of Faith in the ten thousand Pagodas in the Pagan kingdom
บทนำ ความเป็นและความสำคัญของปัญหา
อาณาจักรพุกามโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิรวดีในภาคกลางของสหภาพเมียนมาร์ เคยเป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรือง อันยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ปัจจุบันชาวพุทธถือว่าเจดีย์พุทธโบราณกว่า ๑๐,๐๐๐ องค์ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่ววัดวาอารามในอาณาจักรพุกามโบราณ เป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในพม่า เจดีย์แต่ละองค์สะท้อนถึงความเชื่อทางพุทธศาสนาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เริ่มจากพระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งพระโสนะและพระอุตตร พระธรรมทูตคณะแรกแห่งจักรพรรดิโมริยะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปยังดินแดนสุวรรณภูมิ ในระยะแรก ชาวพุกามปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ อย่างเคร่งครัด เมื่อศรัทธาแผ่ขยายออกไปมากขึ้น วัดวาอารามในอาณาจักรพุกามก็เจริญรุ่งเรือง อย่างไรก็ตาม ผู้นับถือศาสนากลับละเลยและเพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามมรรคมีองค์แปดมากขึ้นเรื่อย ๆ เน้นการบริจาคเงินเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างเจดีย์เหล่านี้ เพื่อไปสู่โลกสวรรค์มากการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
การศึกษาเจดีย์แต่ละองค์ในอาณาจักรพุกามโบราณ ช่วยให้เราเข้าใจบริบทประวัติศาสตร์ สังคม และศาสนาพุทธในอาณาจักรพุกามได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การก่อสร้างเจดีย์อาจเริ่มต้นขึ้นด้วยเหตุผลหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น การถวายเครื่องสักการะแด่พระพุทธเจ้าเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญ หรือเพื่อแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณและบารมีอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์หรือผู้ทรงอิทธิพลอื่น ๆ เจดีย์แต่ละองค์เปรียบเสมือนการเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทองของอาณาจักรพุกามโบราณ ช่วยให้เราเข้าใจมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่คงอยู่มามาจนถึงปัจจุบัน
การศึกษาเหตุผลเบื้องหลังการก่อเจดีย์ตามหลักพระพุทธศาสนา สอนให้เรารู้ว่ามนุษย์ทุกคนต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวินาทีในชีวิต เมื่อเรารับรู้เหตุการณ์เหล่านี้ จิตใจของเราจะสั่งสมไว้หลักฐานทางอารมณ์ หลักฐานทางอารมณ์เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์ โดยอนุมานความรู้หรือคาดคะเนความจริงจากสิ่งที่เราได้ยินมา ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน โดยใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้เพื่ออธิบายความจริงของเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมนุษย์จากหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า พราหมณ์บางคนในโลกเป็นนักตรรกศาสตรืและนักปรัชญาได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พวกเขามักจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ ตามปฏิภาณของตนเองและคาดคะเนความจริง โดยใช้เหตุผลอธิบายความจริงในเรื่องนั้น อย่างไรก็ตาม นักตรรกศาสตร์และนักปรัชญามักใช้เหตุผล เพื่ออธิบายความจริงของเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างถูกต้อง บางครั้งพวกเขามักจะใช้เหตุผลเพื่ออธิบายความจริงของเรื่องนั้นอย่างไม่ถูกต้อง บางครั้งพวกเขาก็ใช้เหตุผลในลักษณะนี้หรือในลักษณะนั้น เป็นต้น เมื่อเหตุผลคำตอบของนักตรรกศาสตร์และนักปรัชญายังคงคลุมเครือและไม่ชัดเจน วิญญูชนเช่นเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระพุทธเจ้า เมื่อได้ยินความคิดเห็นเช่นนั้น จะไม่เชื่อว่าเป็นความจริง และจะไม่ถือว่ามันเป็นความรู้ที่แท้จริงในเรื่องนั้น
เมื่อพระพุทธเจ้าได้ยินความคิดเห็นของนักตรรกศาสตรืและนักปรัชญานั้นไม่น่าเชื่อถือ พระองค์จึงทรงคิดค้นกระบวนการพิจารณาความจริง โดยเริ่มต้นจากความสงสัยในสิ่งที่ได้ยินมานั้นไว้ก่อน จากนั้นจึงทรงตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว พระองค์จึงทรงใช้หลักฐานนั้นเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ โดยการอนุมานความรู้หรือคาดคะเนความจริง เพื่อพิสูจน์ความจริง โดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้ในการอธิบายความจริง ในยุคปัจจุบัน ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทำให้ชีวิตมนุษย์มีความก้าวหน้าขึ้น เทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ผู้คนใช้อินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งข้อมูลเพื่อศึกษาและแสวงหาความรู้ที่ตนสนใจอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม มนุษย์ได้สั่งสมความรู้เกี่ยวกับความดีและความชั่วไว้ในจิตใจอยู่เสมอ
แนวคิดเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อปลดปล่อยตนเองจากความอ่อนแอด้วยการทำสมาธิ เพื่อชีวิตที่เข้มแข็งขึ้น มีสติและสัมปชัญญะในปัจจุบัน มีสมาธิและปัญญาตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษยชาติ และสามารถนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นได้ ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้คนทั่วโลกในการพัฒนาศักยภาพในชีวิต เจดีย์เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากการก่อสร้างเจดีย์ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อของชาวพุทธในสมัยนั้นว่า เป็นสถานที่ประดิษฐานวัตถุมงคลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในพระพุทธศาสนา เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาแดพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ เพื่อหลุดพ้นจากความทุกข์ในชีวิต สัจธรรมสูงสุดที่ได้จากการบูชาคือความรู้ที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากปัญหาชีวิต
นอกจากนี้นำไปสู่ความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ และความสงบสุขตามหลักศีลธรรมและกฎหมาย เจดีย์ชเวซีโกนสร้างขึ้นตามแบบพม่า เป็นเจดีย์หลายชั้นปิดทอง และเป็นเจดีย์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในอาณาจักรพุกาม เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองทางจิตวิญญาณและวิถีชีวิตที่สงบสุข และสมบูรณ์ของผู้บรรลุเป้าหมายในชีวิต เพราะพวกเขาเข้าใจชีวิตและมีศรัทธาในศีลธรรม พวกเขายึดมั่นในคำสอนของพระพุทธศาสนาเถรวาทซึ่งเรียกในชื่อว่า "อริยมรรคมีองค์ ๘" เพราะรู้วิธีปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่าเมื่อจิตใจมนุษย์คิดบวก ย่อมมองโลกในแง่ดี จิตใจก็จะคิดดีคือการคิดไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยกายสุจริต และวิจีสุจริต กรรมดีนี้จะส่งดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี หรือหากได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็นำไปสู่สังคมที่สงบสุขตามหลักศีลธรรมและกฎหมาย พวกเขาจะดำรงชีวิตอย่างพอเพียง พึงพาตนเองได้และไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เมื่อบ้านเมืองสงบสุข ประชาชนจะไปวัดวาอารามในพระพุทธเถรวาทเพื่อฟังคำสอนของพระภิกษุสามเณร และนำความรู้จากครูบาอาจารย์มาประยุกต์ใช้เพื่อบรรลุธรรมขั้นสูงสุด จิตใจของมนุษย์ก็จะมีความผูกพันกับศาสนามากขึ้น
ดังเช่นกรณี เจดียชเวซีโกนในรัชสมัยของพระเจ้าอโนรธามังช่อ ซึ่งประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุและพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าศากยมุนี สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพระมหากษัตริย์ในยุคนั้นทรงมีพระราชศรัทธาในคำสอนทางพระพุทธศาสนา วัดแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม แสดงให้เห็นถึงร่องรอยอารยธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นความคิดของตนเองในแต่ละยุคสมัย นับเป็นอนุสรณ์สถานทางพระพุทธศาสนาที่ฝังรากลึกในจิตใจของมนุษย์ เจดีย์ชเวซีโกนตั้งอยู่บนหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำอจิรวดีในอาณาจักรพุกามโบราณ เป็นวัดเถรวาทปัจจุบันตั้งอยูที่เมืองยองอู เขตมัณฑะเลย์ ทางตอนกลางของสหภาพเมียนมาร์สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ คำว่าเจดีย์ชเวซีโกน แปลว่าเจดีย์ที่สร้างขึ้นบนหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำอจิรวดี
๒.ความสำคัญของเจดีย์
เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาหลักฐานในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. ๒๕๕๔ คำว่า เจดีย์ หมายถึงสิ่งก่อสร้างคล้ายลอมฟาง มียอดแหลม บรรจุวัตถุมงคลที่เคารพบูชา เช่น พระบรมสาริกธาตุ เป็นต้น สิ่งของหรือบุคคลอันเป็นที่เคารพบูชา เป็นต้น และ
ในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒ ทีฆนิกายมหาวรรค ข้อ๖. อานนท์ ท่านได้ยินมาว่าวรรณะกษัตริย์แห่งราชวงศ์วัชชีทั้งหลาย สักการะ เคารพ นับถือเจดีย์ของชาววัชชีในแคว้นวัชชี ทั้งในเมืองและนอกเมือง และมิได้ละทิ้งการบูชาที่ตนได้กระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้สูญหายไป
ข้าแต่พระผู้มีภาคเจ้า ข้าพระองค์ได้ฟังมาว่าวรรณะกษัตริย์แห่งวัชชี ได้สักการะ เคารพ นับถือเจดีย์ในแคว้นวัชชี ของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมืองและมิได้ละทิ้งการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้ เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป
"อานนท์ พวกเจ้าวัชชีพึงหวังได้ แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตราบเท่าที่พวกเจ้าวัชชี ยังสักการะเคารพ นับถือ เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้ เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป"
เมื่อผู้เขียนได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้เขียนได้ฟังข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่า ชาววัชชียังคงศรัทธาในการบูชาและสักการะเจดีย์ในแคว้นวัชชี เพราะเจดีย์บรรจุวัตถุมงคลอันเป็นที่เคารพนับถือ และยึดมั่นในหลักธรรมแห่งชีวิต และไม่ละเลยการแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในชีวิตอย่างเต็มใจ พวกเขาย่อมจะเจริญรุ่งเรืองเพียงฝ่ายเดียว พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปในวัฏจักรแห่งวัฏสงสารอันเป็นวัฏจักรที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะเหตุปัจจัยที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น และเหตุปัจจัยที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นและเหตุปัจจัยทำให้สิ่งต่าง ๆ ดับไปและสิ่งเหล่านั้นก็ดับไป แม้ว่าอาณาจักรพุกามจะเป็นความจริงที่สมมติขึ้น แต่การสถาปนาอาณาจักรพุกามขึ้นเป็นอารยธรรมที่สร้างขึ้นด้วยภูมิปัญญาของชาวพุกาม ซึ่งต่อมากลายเป็นอาณาจักรพุกามอันยิ่งใหญ่ สร้างขึ้นบนรากฐานศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า ก่อให้เกิดเจดีย์นับพันองค์เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการมีอยู่ของอาณาจักรแห่งนี้ และอิทธิพลของคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวพุกามยึดถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตอย่างแน่วแน่ ปลูกฝังคำมั่นสัญญาในจิตใจ แม้ดวงวิญญาณของพวกเขาจะเวียนว่ายตายเกิดในโลกมนุษย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ความรู้ในพระพุทธศาสนาของพวกเขามิได้สูญหายไปกับความตายหรือการเกิดใหม่
แม้ว่าอาณาจักรพุกามจะอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ แต่ชาวพุกามก็ได้สถาปนาอาณาจักรพุกามขึ้น เป็นอาณจักรที่ยิ่งใหญ่ที่มีอารยธรรมที่ชาวพุกามสร้างขึ้น ด้วยความศรัทธาในคำสอนของพระพุทธศาสนา ได้แก่การสร้างเจดีย์เป็นศาสนสถานในพระพุทธศาสนา และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลกที่ควรแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกของชาติ สิ่งเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมอันดีงาม ที่ชาวพุทธยึดมั่นปฏิบัติสืบต่อกันมาและส่งเสริมการศึกษาให้ตระหนักถึงมรดกทางปัญญาของชาติ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่เหมาะสม ดังนั้น พระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งพระโสนะและพระอุตตร เป็นพระธรรมทูตจากอาณาจักรโมริยะไปเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าในดินแดนสุวรรณภูมิ
เมื่อชาวสุวรรณภูมิศึกษาหลักธรรมของอปริหานิยธรรมของพระพุทธเจ้า พวกเขาก็เชื่อว่าการสร้างเจดีย์ไว้เพื่อประดิษฐานวัตถุมงคล จะนำความสุขและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ เมื่อชาวพุทธในดินแดนสุวรรณภูมิในขณะนั้น รู้จักในชื่อว่า อาณาจักรพุกาม จึงเป็นชุมชนทางการเมือง ที่มีพรหมแดนชัดเจน มีชาวพุกามอาศัยอยู่และมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง พวกเขาใช้ภาษาพุกามในการสื่อสารและมีวัฒนธรรมของตนเอง ซึ่งสืบเนื่องมาจากความเชื่อในพระพุทธศาสนาที่ว่าเจดีย์สร้างขึ้น เพื่อประดิษฐานวัตถุมงคลเพื่อบูชา หรือปฏิบัติธรรมเพื่อพัฒนาชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองเพียงฝ่ายเดียว แม้ว่าวิญญาณจะต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และจะได้รับผลบุญในสวรรค์ หากได้เกิดในภพภูมิมนุษย์ ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดในสังคมที่สงบสุขบนพื้นฐานของศีลธรรมและกฎหมาย
เมื่อชาวพุทธพุกามสร้างอารยธรรมแห่งการบูชาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ได้กลายเป็นทะเลสถูปนับพันองค์ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และสืบสานการปฏิบัติบูชาตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ณ สถานที่ทางพุทธศาสนาต่าง ๆ พวกเขาสามารถนำความรู้ทางพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เมื่อชาวพุกามเข้าใจกฎธรรมชาติของชีวิตว่าจิตวิญญาณคือตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ ต้องเผชิญวัฏจักรแห่งความตายและการเวียนว่ายตาย อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะความไม่รู้และความหลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะและธัมมารมย์นำไปสู่ความประมาทในการใช้ชีวิต พวกเขาล้มเหลวในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เข้มแข็ง และชำระล้างจิตใจจากความโลภที่ฝังรากลึก สิ่งนี้บดบังชีวิตของพวกเขาด้วยอคติของตนเอง ซึ่งนำไปบุคลิกภาพที่ปราศจากความอ่อนโยนขาดความไว้วางใจในมิตรภาพต่อผู้อื่น ขาดความมั่นคงในอุดมการณ์และขาดอิทธิพลในการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่น สังคมและประเทศชาติด้วยความเมตตา บริสุทธิ์และความยุติธรรมต่อทุกฝ่ายด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง
ในที่สุดอำนาจอธิปไตยของอาณาจักรพุกามก็ถูกทำลายลงด้วยปัจจัยภายนอก ซึ่งรวมถึงการรุกรานของเจงกิสข่าน ผู้นำชาวมองโกล ผู้ยึดครองอำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองอาณาจักรพุกาม อาณาจักรแห่งนี้ จึงเสื่อมถอยลงตามกฎแห่งธรรมชาติ ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเช่นเดียวกับชีวิตมนุษย์ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของอาณาจักรพุกามที่สั่งสมในจิตของมนุษย์ กลับกลายเป็นพันธสัญญาในจิตใจไปสู่ภพอื่น แม้ว่าจะได้มีโอกาสได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่คำสัญญาของเรื่องราวของอาณาจักรพุกามก็ยังสืบคงแผ่ขยายถึงปัจจุบัน เจดีย์นับพันองค์ตั้งตระหง่านเหนือยอดไม้ซึ่งนักท่องเที่ยวยังมองเห็นได้จากอาคารสูง และโรงแรมขนาดใหญ่ในเมืองพุกามโบราณ ล้วนเต็มเปี่ยมด้วยความงามอันลึกลับเหนือยอดไม้ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองพุกามโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเช้า เมื่ออากาศเย็น เย็นสบายพัดผ่านร่างกาย ช่วยให้เราลืมความทุกข์ทรมานที่ค้างคาอยู่ในใจให้เกิดทุกข์ เมื่อจิตใจมนุษย์ได้ปะทะกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า จิตใจก็จะเกิดความประทับใจ ทำให้เรามองเห็นพระอาทิตย์ จนลืมความเครียดไปชั่วขณะ แม้จะเป็นผลงานสร้างสรรค์ของจิตใจมนุษย์ แม้แนวคิดนี้ก็มีที่มาจากความเชื่อทางพระพุทธศาสนา แต่เป็นร่องรอยของวัฒนาธรรมทางพุทธศาสนาที่หล่อหลอมมาจากความคิดที่ดี ส่งผลให้เกิดการสร้างเจดีย์มากมาย ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องบูชาแด่พระพุทธเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น