พวกกาลามะชาวเกสปุตตนิคม ผู้นั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่าข้าพระองค์ผู้เจริญ มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่งมายังเกสปุตตนิคมแสดงประกาศวาทะของตนเท่านั้น แต่กระทบกระเทียบ ดูหมิ่นกล่าวข่มวาทะของผู้อื่น ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ ... ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความสงสัยลังเลใจในสมณพราหมณ์เหล่านั้นว่า "บรรดาท่านสมณพราหมณ์เหล่านี้ ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ" พระผู้มีพระภาคตรัสว่ากาลามชนทั้งหลายก็สมควรที่ท่านทั้งหลายจะสงสัยสมควรที่จะลังเลใจ ท่านทั้งหลายเกิดสงสัย ลังเลใจในฐานะที่ควรสงสัยอย่างแท้จริงมาเถิด กาลามะทั้งหลาย
ท่านทั้งหลายอย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟังตามกันมา อย่าปลงใจเชื่อด้วยการถือสืบ ๆ กันมา อย่าปลงใจเชื่อด้วยการเล่าลืออย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำร่าหรือคัมภีร์ อย่าปลงใจเชื่อเพราะตรรกะ(การคิดเอาเอง)อย่าปลงใจเชื่อเพราะการอนุมาน อย่าปลงใจเชื่อด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล อย่าปลงใจเชื่อเพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้วอย่าปลงใจเชื่อเพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ อย่าปลงใจเชื่อเพราะนับถือว่าท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา กาลามะทั้งหลาย เมื่อใดท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองเท่านั้นว่า "ธรรมเหล่านี้ เป็นอกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ที่บุคคลถือปฏิบัติบริบูรณ์แล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เมื่อนั้นท่านทั้งหลายควรละ (ธรรมเหล่านั้น)เสีย
ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ ข้างต้น ผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนชาวเกสปุตตะนิคมว่า เมื่อพราหมณ์ในนิกายอื่นได้เข้ามาเผยแผ่ธรรมะเกี่ยวกับความจริงของชีวิตมนุษย์แต่พูดแดกดัน ดูหมิ่นดูแคลน คำสอนของศาสนาอื่นทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ เราไม่ควรเชื่อข้อเท็จจริงโดยทันที เพราะมีการเล่าสู่กันฟังอย่างต่อเนื่องจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ฯลฯ ควรสงสัยว่าไม่เป็นความจริงจนกว่าจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานมาวิเคราะห์ เพื่อหาเหตุผลของคำตอบในเรื่องนั้นว่าจริงหรือเท็จ
ด้วยเหตุผลข้างต้น ผู้เขียนสนใจที่จะแสวงหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยุคศิวิไลย์อีกต่อไป จึงได้เริ่มสืบหาข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ อรรถกถา เอกสารวิชาการอื่น ๆ และพยานเอกสารดิจิทัลจากอินเตอร์เน็ต เมื่อหลักฐานเพียงพอ ผู้เขียนก็จะเขียนบทความเชิงวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐาน เพื่อหาเหตุผลมาพิสูจน์ความจริงของคำตอบเรื่องยุคศิวิไลซ์ บทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านที่สนใจศึกษาปรัชญาเชิงวิเคราะห์ และพระวิทยากรใช้บรรยายธรรมในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง (The Four Holy Buddhist Places)และพุทธสถานทั่วโลก กระบวนการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐาน เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตระดับปริญญาเอก ใช้เป็นแนวทางการเขียนวิทยานิพนธ์และบทความของนิสิตระดับปริญญาเอกสาขาปรัชญาและพระพุทธศาสนา เพื่อให้ได้ความรู้ที่สมเหตุสมผล ไม่สงสัยในข้อเท็จจริงอีกต่อไปและสามารถตรวจสอบกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลได้ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น