Introduction: where there is love, there is suffering according to Buddhaphumi philosophy
๑.บทนำ
โดยทั่วไปแล้ว มนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อรักซึ่งกันและกัน นี่คือ อารมณ์ความรู้สึกตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ทุกคน และผูกพันธ์กับอารมณ์นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมนุษย์มีความกลัวอยู่ในจิตใจ การอยู่คนเดียว และต้องพึ่งพามิตรภาพของกันและกัน มันจึงกลายเป็นตัณหาที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจ เมื่อมนุษย์อยู่ใกล้ชิดกัน ไม่มีใครหนีพ้นความรักได้ เนื่องจากความรักเกิดขึ้นในจิตใจมนุษย์ มันไม่จีรังยั่งยืน ในฐานะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมต้องเผชิญกับสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวนและเผชิญกับความไม่แน่นอนของชีวิต
ดังนั้น พวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะยึดติดกับสิ่งที่มีอยู่แล้วน้อยลง พวกเขาจึงละทิ้งมันและมองหาสิ่งใหม่ ๆ ที่จะตอบสนองความต้องการทางอารมณ์และพวกเขา ให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นแล้ว มันเป็นกฎธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากขาดสติ พวกเขาจึงไม่สามารถนำความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสมาใช้แก้ไขปัญหาของตนเองได้ทันที เมื่อมนุษย์เป็นวัตถุมีพลังดึงดูดและสามารถสร้างเสน่ห์อันแรงกล้า เพื่อสร้างแรงดึงดูดระหว่างผู้คนโดยไม่คำนึงถึงเพศและจำนวนผู้ที่สนใจ แม้แต่เจ้าชายสิทธัตถะก็ยังทรงรักพระนางพิมพา เจ้าหญิงองค์เดียวแห่งราชวงศ์โกลิยะ
แม้ว่าเจ้าชายสิทธัตถะจะทรงมีนางสนม ๔๐,๐๐๐ คนเป็นข้าราชบริพาร คอยรับใช้พระองค์เพียงผู้เดียว แต่ความรักของพระองค์ทรงทำให้พระนางพิมพาทรงทุกข์ทรมานเป็นเวลาหลายปี เพราะพระนางพิมพาทรงต้องพลัดพรากจากเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้เป็นที่รักยิ่ง เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงพระเมตตาและพระกรุณาอันยิ่งใหญ่อย่างไม่มีเงื่อนไขต่อมนุษยชาติ เมื่อพระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จะสละวรรณะแห่งกษัตริย์ เพื่อเสด็จออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์และแสวงหาสัจธรรมแห่งชีวิตว่า พระพรหมทรงสร้างมนุษย์จากพระวรกายของพระองค์เองตามคำสอนขอพราหมณ์อารยันหรือไม่ เรื่องนี้เป็นความจริงหรือความเท็จ เป็นต้น
ประตูพระราชวังกบิลพัสดุ์ด้านทิศตะวันออก |
เมื่อมีความรัก มนุษย์จะมีความสุขและสมหวังในความรักชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องพลัดพรากจากคนที่รักด้วยความตาย มนุษย์จึงทุกข์ทรมาน เมื่อจิตวิญญาณหวนรำลึกถึงสัมผัสแห่งความรักในอดีต จนกลายเป็นความผูกพันและมโนภาพแห่งความรักไม่เคยเลือนหายไปจากชีวิต เพราะจิตสั่งสมอารมณ์แห่งความรักที่เคยแสดงออกมาและติดอยู่ในอารมณ์นั้น เมื่อชีวิตอ่อนแอ พวกเขาก็มองหาคนที่รักซึ่งคิดว่าเป็นที่พึ่งทางจิตใจของตน แต่คนรักก็มีชีวิตที่อ่อนแอเช่นกัน ทำให้ความทุกข์ทรมานทวีคูณ เมื่อมนุษย์มีความรักอยู่แล้ว เมื่อได้กลับชาติมาเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ พวกเขาจะตกหลุมรักได้ง่าย เมื่อได้พบเจอกับคนที่หน้าตาดี ร่าเริง ยิ้มแย้ม เป็นมิตร และเข้าถึงได้ไม่ยาก แม้จะเป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกที่แต่งเติมสีสรรค์ก็ตาม
เมื่อเรารู้จักกันมากยิ่งขึ้น เราจะมองเห็นศักยภาพในตัวบุคคลนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนติดดิน เรียบง่าย เข้มแข็ง มีน้ำใจ สร้างสรรค์รอบคอบ ฉลาดหลักแหลมในการใช้ชีวิต และรู้จักว่าควรพูดอะไรและไม่ควรพูดอะไร เมื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ความปรารถนาที่ซ่อนเร้นก็ผุดขึ้นมาในจิตใจ และแสดงอาการออกมาผ่านสีหน้าและแววตาทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจและเต็มใจที่จะสานต่อสัมพันธ์กัน ความรักจึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับจิตใจมนุษย์ทุกคนและไม่มีใครหลีกเลี่ยงความท้าทายนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ความรักนั้นหาได้ยาก แม้ว่าคน ๆ นั้นจะหน้าตาดี ฐานะทางสังคมที่ดี หรือมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยก็ตาม
แต่บุคคลิกที่แสดงออกผ่านคำพูดและการกระทำนั้น มีลักษณะเฉพาะ คือเป็นคนเก็บตัว ขาดความกระตื้อรือล้นในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ขาดความสนใจ เพราะไม่รู้จักเคารพและชื่นชมผู้อื่น และเมื่อคุยด้วย สนเห็นความแตกต่างทางความคิดและการดำเนินชีวิต ก็อาจถูกปฏิเสขความรักและกลายเป็นคนไม่ประสบความสำเร็จในความรักไป หลายคนค้นหาจุดอ่อนในชีวิตและพยายามแก้ไขจุดอ่อนนั้น โดยคิดว่าตัวเองขึ้เหร่ ผิวคล้ำ ยากจนและไม่เป็นที่ชื่นชอบ เมื่อตระหนักเช่นนี้ พวกเขาก็รีบเรียนหนังสือให้เก่ง หางานดี ๆ เก็บเงินทำศัลยกรรม เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น สวยขึ้น หล่อขึ้น ซื้อบ้านพร้อมที่ดินและคอนโดมิเนี่ยม แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในความรัก เพราะคนที่เขารักไม่ใช่คนที่เขาอยากจรัก และคนที่เขารัก ไม่ใช่คนที่เขาอยากรัก ดังนั้น มนุษย์จะไม่มีวันประสบควาทมสำเร็จในความรักได้ เพียงเพราะรักคนที่ไม่ได้รักตน

แม้มนุษย์จะพบรักที่สมหวัง แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาต้องพลัดพรากจากคนที่รัก นำไปสู่ความทุกข์ เช่นเดียวกับความทุกข์ที่เคยประสบในชาติก่อน ๆ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ผู้เขียนจึงเกิดความสงสัยว่าความรักคืออะไร ? เหตุใดความรักจึงก่อให้เกิดความทุกข์ได้ ผู้เขียนสนใจศึกษาหัวข้อ "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ในพระไตรปิฎก" โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งของความรู้ในพระไตรปิฎก อรรถกถาและงานวิจัยต่าง ๆ เป็นต้น คำตอบของการเขียนบทความนี้ ช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านเข้าใจถึงความรู้และความจริงเกี่ยวกับความรักที่เกิดขึ้นในชีวิตของ ช่วยให้พวกเขาละทิ้งความผูกพันกับคนที่รัก เพื่อแก้ปัญหาชีวิตและหลีกหนีความทุกข์ที่ฝังในใจตัวพวกเขาได้ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น