The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

บทนำ: ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ตามหลักปรัชญาพุทธภูมิ


Introduction: where there is  love, there is suffering according to Buddhaphumi's philosophy 

๑.บทนำ             

            โดยทั่วไปแล้ว มนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อรักกัน เป็นอารมณ์แห่งกฎธรรมชาติที่เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ทุกคน ซึ่งผูกพันธ์กับอารมณ์รูปแบบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะมนุษย์กลัวการอยู่คนเดียว และต้องอาศัยมิตรภาพของกันและกัน และกลายเป็นอารมณ์อันเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ เมื่อมนุษย์อยู่ใกล้กัน ไม่มีใครหนีจากความรัก  เมื่อความรักเป็นสิ่งเกิดขึ้นในจิตใจมนุษย์ มันไม่เที่ยง   เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม และเปิดรับกับสิ่งใหม่ ๆเข้ามาในชีวิตอยู่ตลอดเวลา   จึงทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวนและความไม่แน่นอน  ดังนั้น พวกเขาจึงมีโอกาสน้อยที่จะยึดติดกับสิ่งที่พวกเขามีอยู่แล้ว  พวกเขาจึงละทิ้งมันและมองหาสิ่งใหม่   ๆ  ที่จะสนองความต้องการทางอารมณ์ของพวกเขา ให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นแล้ว  มันเป็นกฎธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคน และหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากขาดความตระหนักรู้  พวกเขาจึงไม่สามารถใช้ความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสในทันที แล้วนำความรู้นั้นไปแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้  เมื่อมนุษย์เป็นวัตถุประเภทหนึ่งที่มีพลังแม่เหล็กและสามารถสร้างเสน่ห์อันเข้มข้นได้ เพื่อสร้างแรงดึงดูดระหว่างมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงเพศและจำนวนผู้สนใจ แม้แต่เจ้าชายสิทธัตถะทรงยังรักพระนางพิมพา  เจ้าหญิงองค์เดียวแห่งราชวงศ์โกลิยะ แม้ว่าเจ้าชายสิทธัตถะจะทรงมีพระสนม ๔๐,๐๐๐ คนเป็นข้าราชบริพารคอยรับใช้พระองค์เพียงผู้เดียว แต่ความรักของพระองค์ทรงทำให้พระนางพิมพาทรงต้องทนทุกข์ทรมาน  เพราะพระนางพิมพาทรงพลัดพรากจากเจ้าชายสิทธัตถะซึ่งเป็นคนที่พระนางพิมพาทรงรัก เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงประทานความรัก และความเมตตาอันไม่มีเงื่อนไขแก่มนุษยชาติ เมื่อพระองค์ทรงตัดสินพระทัยสละวรรณะกษัตริย์ เพื่อเสด็จออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์แล้วและแสวงหาสัจธรรมแห่งชีวิตว่า พระพรหมสร้างมนุษย์จากร่างของพระองค์เอง ตามคำสอนของพราหมณ์อารยันว่าจริงหรือเท็จ   เป็นต้น     

ประตูพระราชวังกบิลพัสดุ์ด้านทิศตะวันออก
ประตูพระราชวังกบิลพัสดุ์ด้านทิศตะวันออก
      
 ตราบใดที่จิตมนุษย์ตระหนักรู้ถึงการมีอยู่ของผู้เป็นที่รักในชีวิตของพวกเขา  การมีอยู่ของจิตใจ เผยให้เห็นเจตนาอันเป็นที่พอใจแก่บุคคลนั้นไม่ว่าพวกเขาจะรักใคร่นั้น  จะเป็นใคร มาจากไหน สถานะงานเป็นอย่างไร   มีฐานะการเงินและสภาพแวดล้อมทางสังคมของพวกเขาจะเป็นอย่างไร  มันไม่สามารถขัดขวางต่อความรู้สึกของตนเมื่อจะรักใครสักคน ทุกดวงจิตมองโลกอย่างสดใส เพราะใจของตนคิดดีเมื่อยู่ในห้วงแห่งความรักและมักมืดบอดด้วยมายาแห่งความรัก บางคนสัมผัสได้ถึงความหวานแห่งความรักในความรักนั้น แต่บางคนรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาจากภายในจิตใจ เมื่อมีความรัก มนุษย์ก็จะสุขและสมหวังในความรักชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็ถึงเวลาพลัดพรากจากคนที่พวกเขารักด้วยความตาย มนุษย์จึงทนทุกข์เมื่อจิตวิญญาณหวนคิดถึงสัมผัสแห่งความรักในอดีต จนกลายเป็นการยึดติดและมโนภาพแห่งความรักไม่เคยจางหายไปจากชีวิตเพราะจิตได้สั่งสมอารมณ์ผัสสะและจมปลักอารมณ์อยู่ในจิตอย่างนั้น เมื่อชีวิตของเขาอ่อนแอก็มองหาที่พึ่งทางจิตใจจากคนที่เขารัก แต่คนรักก็มีชีวิตที่อ่อนแอเช่นกัน ก็เพิ่มทุกข์ให้ตัวเอง เช่นกัน เมื่อมนุษย์มีอนุสัยกิเลสแห่งความรักอยู่แล้ว เมื่อกลับชาติมาเกิดในโลกมนุษย์จึงเกิดความรักขึ้นได้ง่าย หลังจากตนได้ผัสสะกับคนรูปร่างหน้าตาดีที่ร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร เข้าถึงไม่ยาก แม้เป็นแค่เปลือกนอกฉาบทารูปร่างหน้าตาเขาไว้ เมื่อรู้จักตัวตนกันมากยิ่งขึ้น ก็จะมองเห็นศักยภาพที่แฝงอยู่ในคน ๆ นั้น ไม่ว่าเป็นคนติดดินเรียบง่าย เข้มแข็งรู้จักคิด รู้จักสร้างสรรค์ชีวิต คิดเป็น ฉลาดในการใช้ชีวิต รู้จักอะไรควรพูดไม่ควรพูด  เมื่อผัสสะเกิดตัณหาซุกซ่อนอยู่ในใจขึ้นมา และก็แสดงอาการออกมาทางสีหน้าสีตาจิต  เกิดอาการพึงพอใจและสมัครรักใคร่ใจที่จะผูกสัมพันธ์กันต่อไป  ความรักจึงเป็นโจทก์ที่ท้าทายเกิดขึ้นกับจิตมนุษย์ทุกคนที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงไปจากโจทก์ข้อสอบนี้ได้สักคน แต่ความรักเป็นสิ่งที่ได้มาโดยยาก เพราะแม้จะเป็นคนมีหน้าตาดี ตำแหน่งหน้าที่การงานดี ฐานทางสังคม อยู่ในครอบครัวที่มีอันจะกิน    แต่อุปนิสัยที่แสดงออกมาทางคำพูดการกระทำมีลักษณะมีโลกส่วนตัวสูงขาดความกระตื้อรือล้นในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น ขาดความสนใจ เพราะไม่รู้จักให้เกียรติและยกย่องผู้อื่น และเมื่อสนทนาด้วยแล้วเห็นความแตกต่างของวิธีคิดการใช้ชีวิตอาจถูกปฏิเสขในเรื่องความรักและกลายเป็นคนไม่สมหวังในเรื่องความรักไป    หลายคนพบจุดอ่อนของชีวิตแล้วพยายามแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้น คิดว่าตัวเองขึ้เหล่ ผิวพรรณตัวดำ ๆ มีฐานะยากจน ไม่มีใครชอบ เมื่อระลึกได้เช่นนี้ รีบเรียนหนังสือให้เก่ง มีหน้าที่การงานดีและเก็บเงินทำศัลยกรรมทำให้หน้าตาดูดีขึ้นสวยขึ้น หล่อขึ้น ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน คอนโดมิเนี่ยม แล้วแต่ไม่สมหวังในความรักอีก เพราะคนที่รักก็มิใช่คนที่ตนมีความอยากจะรัก และคนที่ตนรักมิใช่คนที่เขาปรารถนาจะรักเรา ดังนั้น มนุษย์จึงไม่มีวันที่จะสมหวังกับความรักเพราะมีความรักกับคนที่ไม่ได้รักตน  

      ในวิถีชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะทรงมีความรัก เพราะพบรักกับพระนางพิมพา ทั้งสองพระองค์ทรงอภิเษกสมรสและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในปราสาท ๓ ฤดู เป็นเวลา ๑๓ ปี และมีพระโอรส ๑ องค์คือเจ้าชายราหุล ในที่สุดความรักที่สมหวัง มีความสุข และกลายเป็นความทุกข์อย่างรุนแรง เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยสละวรรณะกษัตริย์ เสด็จหนีออกผนวชโดยมิได้ร่ำลากันใครสักคน แม้กระทั่งพระนางพิมพา ผู้ทรงใกล้พระองค์เป็นเวลาหลายปี พระนางทรงมีความทุกข์ทรมาน    เพราะทรงยึดติดในรักนั้นและไม่รู้เหตุผลของการออกผนวชของเจ้าชายสิทธัตถะดังนั้นแม้มนุษย์จะสมหวังในความรักแต่ใช่ว่าจะสมหวังตลอดไป สุดท้ายต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักกลายเป็นความทุกข์ เช่นเดียวกับความทุกข์เกิดมาแล้วในภพชาติก่อน ๆ มาแล้ว ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ผู้เขียนเกิดความสงสัยว่าความรักคืออะไร ทำไมจึงทำให้เกิดความทุกข์ได้ ผู้เขียนสนใจศึกษาข้อมูลเรื่อง "ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ในพระไตรปิฎก" โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากที่มาของความรู้ในพระไตรปิฎก อรรถกถาและงานวิจัยต่าง ๆ  เป็นต้น คำตอบของการเขียนบทความในเรื่องนี้ น่าจะเป็นคำตอบให้ผู้อ่านทุกคนเข้าใจในความรู้และความจริงเรื่องความรักที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตน แล้วสามารถปล่อยวางสิ่งที่ตนยึดติดในคนที่ตนรักได้เพื่อแก้ปัญหาของชีวิตให้พ้นจากความทุกข์ที่อยู่ในใจตน  เป็นต้น  


ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ