The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ปัญหาอภิปรัชญาเกี่ยวกับรัฐสุวรรณภูมิ

Metaphysics Problems concerning  Suvarnabhumi State

บทนำ ปัญหาเกี่ยวกับความจริงของรัฐสุวรรณภูมิ
    
           ในการศึกษาปัญหาทางอภิปรัชญาความเป็นจริงของสิ่งต่าง ๆ หรือปรากฏการณ์ที่อยู่ล้อมรอบตัวมนุษย์ นักปรัชญากล่าวถึงข้อเท็จจริงในเรื่องใด ต้องมีหลักฐานเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์เพื่อหาเหตุผลยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น ตามแนวคิดอภิปรัชญาในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงแบ่งความจริงออกเป็น ๒  ประการกล่าวคือ  ๑.สังขตธรรม หมายถึงธรรรมที่เกิดจากปัจจัยปรุงแต่งได้แก่ ขันธ์ ๕ ๒. อสังขตธรรมหมายถึงธรรมที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่งได้แก่นิพพาน  เป็นต้น   

           ความเป็นจริงของรัฐสุวรรณภูมิ  เมื่อผู้เขียนสอบสวนหาหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาฯ ได้ฟังข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีปัญหาที่ผู้เขียนสงสัยว่าหลังจากมีการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่๓เสร็จแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งพระธรรมทูตแห่งราชอาณาจักรโมริยะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรัฐสุวรรณภูมินั้น ปัญหาเกี่ยวกับความจริงว่ารัฐสุวรรณภูมิตั้งอยู่ที่ไหน? เป็นปัญหาที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยและมองเห็นการพัฒนาการทางความคิดของมนุษย์ ที่มีการสืบทอด อนุรักษ์และพัฒนาความคิดของมนุษย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น จากอดีตสู่ปัจจุบันก้าวต่อไปไปสู่อนาคต  ในการศึกษาเรื่อง"รัฐสุวรรณภูมิ"ซึ่งมีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เนื่องจากคำสอนของพระพุทธเจ้าได้เผยแผ่ไปในดินแดนแห่งนี้ ตั้งแต่ยุคสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช ทำให้ผู้เขียนสงสัยว่าในยุคนั้น ใครคือกษัตริย์ในรัฐนี้ ถึงแม้ว่าหัวข้อของรัฐสุวรรณภูมิจะถูกแชร์บนอินเตอร์เน็ตหลายเว็บไซต์ แต่เมื่อผู้เขียนศึกษาข้อมูลที่อยู่เอกสารดิจิทัล ปรากฏเรื่องราวอยู่ในใจของผู้เขียน มีประวัติไม่ชัดเจนเพียงพอ ดังนั้นผู้เขียนจำเป็นต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "รัฐสุวรรณภูมิ" และรวบรวมข้อมูลให้เพียงพอ  จากนั้นผู้เขียนวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาเหตุผลของคำตอบเกี่ยวกับรัฐสุวรรณภูมิดังนี้ 

       เมื่อผู้เขียนค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งความรู้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. ๒๕๕๔ ได้นิยามว่า รัฐสุวรรณภูมิ นั้นคือดินแดนที่มีอาณาเขตตั้งอยู่ในประเทศพม่า ไทย ลาว เขมร  เวียดนาม มาเลย์และสิงคโปร์เป็นต้น และ ในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส อัฏฐกวรรค ๗.ติสสเมตเตยยสุตตนิทเทส ข้อ ๕๕. วรรค ๖ กล่าวว่า อีกนัยหนึ่งเธอถูกตัณหาครอบงำ ถูกกามตัณหาตรึงไว้แล้ว      เมื่อจะแสวงหาโภคทรัพย์ ก็ต้องแล่นเรือออกไปสู่มหาสมุทร ฝ่าลมหนาว ฝ่าร้อนถูกสัมผัสแห่งเหลือบ ยุง  ลมแดด และสัตว์เลื้อยคลานเบียดเบียนเอาบ้าง ถูกความหิวกระหายกดดันอยู่ ก็ต้องเดินทางไปคุมพรัฐ ตักโกลรัฐ (ตะกั่วป่า)  ตักกสิลรัฐ กาลมุขรัฐ ปุรรัฐ เวสุงครัฐ เวราปถรัฐ ชวารัฐ (รัฐชวา) ตามลิงรัฐ (นครศรีธรรมราช) วังครัฐ เอฬพันธนรัฐ สุวรรณกูฏรัฐ   สุวรรณภูมิรัฐ  ตั้มพปาณิรัฐ  สุปปทกรัฐ  เภรุกัจฉรัฐ  สุรัฏฐรัฐ ภั้งคโลกรัฐ ภังคณรัฐ ปรมภังคณรัฐ โยนรัฐ ปินรัฐ วินกรัฐ มูลปทรัฐ......เป็นต้น            

             เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกของมหาจุฬา ฯ     และพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔  ได้ยินข้อเท็จจริงว่า "รัฐสุวรรณภูมิ" เป็นที่รู้จักของชาวอนุทวีปอินเดียตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้า  ข้อความที่แสดงในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ  ข้างต้นว่า"สุวรรณภูมิรัฐ"   เป็นดินแดนของรัฐเอกราชที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเองตั้งแต่ยุคของศาสนาพราหมณ์จนถึงปัจจุบัน    ส่วนข้อความในพระไตรปิฎกว่าการเดินทางไปหาความมั่งคั่ง (โภคะทรัพย์) ในรัฐสุวรรณภูมินั้น  ต้องแล่นเรือไปข้ามมหาสมุทร(อินเดีย) คำว่า "เรือ"หมายถึงเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ที่บรรทุกสินค้าพวกหินหลากสี สร้อยกำไล ข้อมือ      เป็นต้น คำว่า "มหาสมุทร" หมายถึงมหาสมุทรอินเดียในสมัยพุทธกาล   รัฐสุวรรณภูมิยังเป็นรัฐเล็ก ๆ  อยู่และรัฐอื่น ๆ ยังรัฐอิสระเช่น  รัฐตักสิลา รัฐชวา หรือรัฐโยนก เป็นต้น    การเดินทางไปหาโภคะทรัพย์ คำว่า "โภคะทรัพย์"เป็นทรัพย์สิ่งของที่ใช้บริโภคและอุปโภค เช่นรัฐสุวรรณภูมิจะขึ้นชื่อด้านผลิตพริกไทยดำและเครื่องเทศหลากหลายชนิดที่มีความสำคัญและเป็นที่ต้องการของพ่อค้าในเส้นทางการค้าโบราณมากมีราคาแพงจนเรียกว่า "ทองคำดำ" เป็นต้นเมื่อผู้เขียนศึกษาข้อความในพยานเอกสารดังที่กล่าวมาแล้วผู้เขียนตีความได้ว่าในสมัยพุทธกาลศากยมุนีพระพุทธเจ้าทรงยังมีพระชนม์ชีพอยู่และพระสารีบุตรยังไม่ได้นิพพานที่เมืองนาลันทาทรงรู้ว่าโลกมนุษย์ นอกจากดินแดนแห่งชมพูทวีปแล้ว        ยังมีดินแดนอื่นที่ห่างไกลและความอุดมสมบูรณ์เช่นกัน    ความปรารถนาของมนุษย์เกิดขึ้นในจิตใจพวกเขาออกเดินทางเพื่อแสวงหาความมั่งคั่ง    จากเครื่องเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะพริกไทยดำ  เป็นสิ่งหายากของชาวชมพูทวีป ชาวอาหรับ และชาวเอเธนดินแดนเหล่านั้นได้แก่ รัฐชวา รัฐสุวรรณภูมิ  รัฐตักโกล รัฐตามลิง เป็นต้น      

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ