The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565

บทนำ จุดประสงค์การแสวงบุญในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่อินเดียและเนปาล



 บทนำความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา   

       บทความวิเคราะห์นี้มุ่งเน้นไปที่การแสวงบุญไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาในอินเดียและเนปาล ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวพุทธทั่วโลก   การแสวงบุญไปยังดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนานั้น เริ่มต้นขึ้นในสมัยพุทธกาล   ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระภิกษุสงฆ์นึกถึงพระพุทธเจ้าและสามารถเดินทางไปสักการะพระพุทธเจ้าได้ โดยตรงต่อหน้าพระพักตร์  อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดท้ายที่ ๔๕  ของการจำพรรษา  พระพุทธเจ้าทรงตัดสินพระทัยที่จะปลงอายุสังขารที่ปาวาลเจดีย์ว่าอีก ๓ เดิอนข้างหน้า  พระองค์ปรินิพพานที่เมือกุสินารา แคว้นมัลละ  พุทธบริษัท ๔ จะไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพุทธองค์อีกต่อไป หลังจากพระพุทธองค์ปรินิพพาน  พระอานนท์จึงได้ทูลถามว่า เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว    พุทธศาสนิกชนจะไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าเพื่อสนทนาธรรมอย่างเบิกบานใจอีกต่อไป ควรปฏิบัติอย่างไรหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานพระพุทธเจ้าทรงแนะนำถึงสถานที่แสวงบุญทั้ง ๔  แห่งหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สังเวชนียสถาน ๔  แห่ง  ซึ่งได้แก่สถานที่ประสูติ  ตรัสรู้ ปฐมเทศนาและปรินิพพาน   ดังที่ปรากฏในมหาปรินิพพานสูตร 

          ตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นแม้มนุษย์จะดำรงชีวิตอย่างพอเพียง ดำรงด้วยปัจจัย ๔ เพื่อความอยู่รอดและสุขสบายในชีวิตแต่มนุษย์ยังไม่พ้นทุกข์  เพราะมนุษย์ยึดติดกับอารมณ์แห่งความสุขเหล่านี้  และปรารถนาที่จะมีความสุขเช่นนั้นตลอดไป  หากร่างกายไม่ได้พักผ่อน ทำกิจกรรมต่าง ๆ  อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน สุขภาพร่างกายจะเสื่อมถอยลง  ส่งผลให้เจ็บป่วยหรือซ๊อคจนไม่สามารถดำเนินชีวิตตามปกติกลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง พระองค์ทรงสนพระทัยถึงปัญหาที่แท้จริงของคน การทำงานเป็นหนทางในการกำหนดชีวิตให้มีเป้าหมายเป็นหนทางท่ถูกต้อง  ต้องดำเนินไปตามแผนด้วยความรอบคอบ  มีความพร้อมและมีความเพียรไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ละทิ้งงานกลางคัน    นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้เขียนได้เขียนปรัชญาแดนพุทธภูมิขึ้นมาให้คนได้อ่าน 

        คำว่า "งาน" ตามนิยามในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ให้ความหมายว่า "สิ่งหรือกิจกรรมที่ทำ"  ผู้เขียนได้แยกประเด็นในการวิเคราะห์ดังนี้ กล่าวคือ
 
            (๑) คนงาน มนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเอง พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามา พวกท่านทำหน้าที่เพียงช่วงระยะหนึ่ง เมื่อเรายังเป็นเด็กเท่านั้น เมื่อเราโตขึ้น พ่อแม่ของเราก็เริ่มแก่ชราลงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะดำรงชีวิตต่อไป   เราจึงหน้าที่ดูแลและตอบแทนความเมตตากรุณาของพวกท่าน   
      (๒) กิจกรรมที่ทำ  มนุษย์ทุกคนต้องทำงานตามหน้าที่เพื่อตอบแทนผู้อื่นหรือองค์กรอื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่องค์กรหรือผู้อื่นต้องการ  โดยได้รับค่าจ้างตอบแทน 

      จึงกล่าวได้ว่าทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตตามที่ตนต้องการ เมื่อผู้เขียนตัดสินบวชเป็นพระภิกษุ นอกจากจะพัฒนาศักยภาพชีวิตของตนเองแล้ว ผู้เขียนยังมีหน้าที่ทำงานรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาด้วย และพัฒนาศักยภาพชีวิตให้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ตามหลักธรรมชาติของชีวิตทุกคนควรประพฤติปฏิบัติ  ในช่วงที่บวชใหม่ ผู้เขียนรู้จักวิธีเผยแผ่หลักธรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น เทศน์บนธรรมาสน์ให้ญาติโยมและฆราวาสฟังในวันขึ้น ๘ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ เป็นต้น  เมื่อมีโอกาสมาใช้ชีวิตในประเทศอินเดีย ได้บรรยายเรื่องสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ในแดนพุทธภูมิให้แก่ผู้แสวงบุญชาวไทยฟัง เป็นการกิจกรรมที่ทำอย่างหนึ่งของชีวิต เป็นการช่วยชี้ทางออกของชีวิตให้แก่ผู้อื่น ให้พวกเขาข้ามพ้นกับดักของชีวิต ด้วยการสอนให้เขารู้จักวิธีการคิดวิเคราะห์หาเหตุผลของคำตอบ จนเกิดเป็นความรู้และคิดว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ตัดสินใจนำสู่การลงมือทำให้หลุดพ้นจากปัญหาของชีวิต 

      การชี้ทางให้ผู้อื่นเข้าใจชีวิตนั้น เป็นการกระทำที่เรียกว่ากุศลกรรมอย่างหนึ่งของชีวิต ให้สั่งสมอยู่ในจิตของเราเอง ติดตามจิตของเราไปทุกหนทุกแห่ง  และแม้เสียชีวิตไปแล้ว ก็ตามจิตไปจุจิตในภพภูมิอื่นได้เช่นเดียวกัน เป็นสิ่งควรจะทำให้ผู้อื่นมองเห็นทางออกของชีวิต เมื่อทำไปแล้วจิตของผู้นั้นยอมเกิดความสุขในสิ่งที่ตนทำ  การบรรยายเป็นการทำงานอย่างหนึ่งของชีวิต  การทำงานแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้ความรู้ที่สั่งสมอยู่ในจิต ตลอดเวลายิ่งใช้มากเท่าไหร่ยิ่งเห็นข้อจำกัดของความรู้ที่เคยมีว่านั้นยังไม่เพียงพอกับความสงสัยของผู้ฟัง เราจึงเป็นต้องค้นคว้าหาความรู้กันอีกต่อไป การเรียนหนังสือเก่งเพราะได้คะแนนระดับดี แค่โจทย์จากตำราของหลักสูตรในมหาวิทยาลัยเท่านั้นเอง แต่ยังโจทย์ของชีวิตนั้นสาหัสยิ่งกว่าโจทย์ไหน ๆ อีก คนเรียนหนังสือเก่งแต่มิใช่คนเก่งตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานราชการ องค์กร ต่าง ๆ ที่ต้องการเพราะมีความรู้แค่ในตำราที่เคยศึกษาตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่มิใช่ความรู้เกิดจากการทำงานเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น มีทักษะของการใช้ความรู้แก้ปัญหาให้อื่นเป็นไปโดยสงบเรียบร้อยถูกต้องด้วยศีลธรรมดีของประชาชน เป็นวิธีการใช้ความรู้เพื่อการทำงานให้บรรลุถึงจุดประสงค์ขององค์กร ไม่มีตำราเล่มใดสอนในมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด จำเป็นต้องมีฝึกฝนการทำงาน ก่อนบรรจุเข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประจำ อาจารย์ประจำหลักสูตรในมหาวิทยาลัย เป็นต้นการสอนผู้อื่นจากความที่สั่งสมอยู่ในจิตของตน เป็นทักษะของความชำนาญจากการทำงานตน ยิ่งสอนให้ผู้อื่นมีความรู้และความใจชีวิตตนเองแล้ว ยิ่งเป็นบุญกุศลในจิตของตนเองการบรรยายของผู้เขียนนั้นเห็นว่า ยังไม่มีตำราเล่มไหนอธิบายเรื่องความเป็นไปของชีวิตได้ดี เท่ากับความรู้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในการทำงาน ที่ได้ถ่ายทอดความรู้ของพระพุทธเจ้าให้แก่ผู้แสวงบุญฟัง เพราะเป็นความรู้มีเหตุผลของคำตอบจากสิ่งสงสัยนั้น แตกต่างกันออกจากตำราที่เคยใช้ศึกษามาก่อน จึงเป็นงานที่ท้าทายศักยภาพของผู้เขียนและทักษะการใช้ความรู้ ให้เกิดความเข้าใจแก่ผู้แสวงบุญที่มีศรัทธาอยู่แล้วให้เกิดศรัทธายิ่ง ๆ ขึ้นไป และในขณะเดียวกันการบรรยายช่วยให้ผู้ไม่มีศรัทธาเกิดศรัทธาต่อไป

        นอกจากนี้เมื่อผู้เขียนได้ทำงานพระธรรมวิทยากรนั้น สามารถประเมินทักษะของการทำงาน ในการถ่ายทอดความรู้ทางพระพุทธศาสนาแก่ผู้แสวงบุญได้ ผู้แสวงบุญก็ช่วยให้คำแนะนำแก่เราได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเรื่องเราต้องนำพัฒนาศักยภาพของตนเองต่อไป ยิ่งในยุคปัจจุบันมีการแชร์ประสบการณ์ชีวิตไว้ ในโลกออนไลน์หลายล้านไฟล์ต่อวัน ทำให้เกิดกระแสเลียนแบบแนวคิดนำไปใช้โดยไม่คิดวิเคราะห์หาเหตุผลของคำตอบว่าถูกต้อง มีเหตุผล เหมาะสมกับศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น ๆ โดยไม่สนใจเงื่อนไขทางสังคมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคม ที่แชร์ความเห็นของเขาได้ตลอดเวลาและคำพูดเหล่านั้น เมื่ออ่านแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอาการของจิต รู้สึกว่าโดนกับชีวิตตนเอง ทำให้เกิดกดดันบีบบังคับเข้าสู่ชีวิตโดยไม่รู้ตัว โลกออนไลน์จึงเป็นเวทีประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้คนวิพากษ์วิจารณ์ได้ทุกเรื่อง ทำให้เกิดปัญหาทางโลกธรรมเกิดขึ้นเพราะการยึดติดถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น ยิ่งผู้มีจิตวิญาณไม่มีสมาธิ มีความอ่อนไหว ไม่มั่นคง และหวั่นไหวต่อโลกธรรมที่จรเข้ามาย่อมให้เกิดความกลัวและเป็นความทุกข์ฟุ้งซ่านเกิดขึ้นจิตวิญญาณได้ ดังนั้นงานพัฒนาศักยภาพชีวิตผู้อื่น เพื่อช่วยเหลือพวกเขามีความรู้ความเข้าใจในชีวิตตนเอง ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนายังเป็นสิ่งจำเป็นและงานที่ยิ่งใหญ่สำหรับพระภิกษุในพระพุทธศาสนาที่ต้องกล้าใช้ความรู้ความเข้าใจของตนเองให้เกิดทักษะการวิเคราะห์จิตวิญญาณของช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากทุกข์ได้เป็นลำดับไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ