The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

บทนำ กรรมของพระเจ้าอโศกมหาราชในปรัชญาแดนพุทธภูมิ

  The King Ashok (พระเจ้าอโศกมหาราช)

 ๑.บทนำ 

        มนุษย์ทุกคนเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่าสัตว์อื่น ๆ เพราะจิตมนุษย์มีสมาธิดีกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ ดังนั้นมนุษย์จึงมีความทรงจำ(สัญญา)ที่ดีกว่าสัตว์ชนิดอื่น และมีความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสของตนเอง และสั่งสมไว้ในจิตใจมากกว่าสัตว์อื่นนอกจากนี้ มนุษย์มีกำลังสติและปัญญามากกว่าสัตว์ จึงสามารถใช้ความที่มีอยู่จิตใจของตนเอง มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่างๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้  สามารถแยกแยะเรื่องราวต่าง ๆ นั้นว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จได้อย่างสมเหตุสมผล  ตัวอย่างเช่น เมื่อเจ้าชายสิทธ้ตถะทอดพระเนตรเห็นจัณฑาลใชีวิตถูกคนในสังคมลงโทษ เพราะกระทำความผิดฐานละเมิดคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีด้วยการร่วมประเวณีกับคนต่างวรรณะ และปฏิบัติหน้าที่ของวรรณะอื่น เป็นต้น เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องจัณฑาลและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ได้คำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายวรรณะจารีตประเพณี มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ  หาเหตุผลมาอธิบายความจริงในเรื่องนี้ว่าพราหมณ์ปุโรหิตให้การยืนยันว่าพระพรหมเป็นผู้สร้างมนุษย์และวรรณะให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่ตนเองเกิดมา นอกจากนี้พวกเขายังให้การยืนยันข้อเท็จจริงอีกว่าพราหมณ์ปุโรหิตในรุ่นก่อน ๆ นั้นเคยเห็นพระพรหมในแคว้นสักกะมาก่อน  แต่เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสถามประวัติความเป็นมาของพระพรหมแล้ว แต่ไม่มีใครตอบพระองค์ได้เช่นนี้   พระองค์ทรงพิจารณาว่าพระองค์เองก็ทรงไม่เคยรับรู้การมีอยู่ของเทพเจ้าผ่านประสาทสัมผัสของตนเอง โดยประกอบพระราชพิธีบูชายัญเทพเจ้า เพราะพระองค์มิอาจกระทำได้เพราะเป็นการกระทำความผิด จากมนุษย์ตั้งใจกระทำย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น ซึ่งเป็นกฎธรรมชาติที่มนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  ตัวอย่างเช่น พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าเมื่อผู้ใดเจตนาฆ่าคนอื่น ผู้ใดเจตนาลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ ใครก็ตามที่จงใจกระทำผิดทางเพศต่อผู้อยู่ในความปกครองของผู้อื่นจะได้รับผลจากกระทำนั้น ผู้ใดก็ตามตั้งใจจะกล่าวคำเท็จ พูดจาเยาะเย้ยและเสียดสีกับผู้อื่นจะได้รับผลจากการกระทำนั้น ใครก็ตามที่ตั้งใจดื่มสุราและยาเสพติด  เกิดความมึนเมาของชีวิต ทำให้ขาดสติปัญญาและปัญหาสุขภาพก็จะได้รับผลจากการกระทำนั้น ประเด็นต่อไปต้องพิจารณาว่าเมื่อผู้ใดลงมือกระทำผิดแล้วเขาจะได้รับผลกรรมอย่างไร?  ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าผู้ที่จงใจกระทำความผิดย่อมได้รับผลแห่งกรรมกล่าวคืออารมณ์ในการกระทำความผิด จิตใจของผู้นั้นเก็บอารมณ์ของการกระทำนั้นไว้ในจิตใจ เมื่อเขาตายแล้ว อารมณ์แห่งกรรมจะตามเขาไปสู่ภพอื่นต่อไป ขณะเดียวกันผู้ไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ไม่สนใจศึกษาค้นคว้าคำสอนของพระพุทธเจ้า ยังจงใจกระทำการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนด้วยการฆ่าผู้อื่น ทำร้ายชีวิตผู้อื่นล่วงละเมิดทางเพศ ดูหมิ่นผู้อื่น ดื่มสุราและยาเสพติด เป็นต้นถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรม เมื่อตายไปวิญญาณก็ไปจุติในทุคติภูมิและผิดต่อกฎหมายต้องรับโทษประหารชีวิต จำคุก  กักขังปรับ  เป็นต้น  ปัญหาที่เราสงสัยในการกระทำผิดของผู้ต้องหา แต่ไม่มีใครเห็นและไม่มีพยานยืนยันตัวผู้กระทำความผิด ในหลักศีลธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อผู้ใดจงใจกระทำความผิดในเรื่องใด จิตของเขาย่อมเก็บอารมณ์แห่งการกระทำนั้นสั่งสมไว้ในจิตใจของเขา บุคคลนั้นจะต้องรับผลของการกระทำโดยเจตนาในโลกหน้าและโลกปัจจุบัน เมื่อการกระทำของเขาผิดต่อความสงบเรียบร้อยด้วยศีลธรรมของประชาชนในชาติอีก ยังต้องรับผลของการกระทำเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ถึงแม้จะไม่มีพยานบุคคลยืนยันความผิดก็ตาม หากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถยืนยันการก่ออาชญากรรมได้มนุษย์มีกรรมเป็นของตัวเอง 

     แม้พระเจ้าอโศกมหาราชจะเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมของโลก แต่พระองค์ก็ทรงได้รับผลของกรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามนุษย์มีกรรมของตนและขึ้นอยู่กับผลแห่งกรรมที่จงใจและการกระทำนั้น ยังคงเป็นสัญญาอยู่ในใจของผู้กระทำ ตัวอย่างเช่น พระเจ้าอโศกมหาราชทรงทำสงครามเพื่อขยายอาณาจักรโมริยะของพระองค์ให้กว้างขวางแต่ชัยชนะเหนือความตายของมนุษย์สายตาของผู้เสียชีวิตและนอนจมอยู่บนกองเลือด กลายเป็นอารมณ์อันโหดร้ายที่สั่งสมอยู่ในพระหฤทัยของพระองค์ และอารมณ์นั้นติดตามตัวพระองค์ไปยังพระราชวังปัฏตาลีบุตร  เป็นต้น 

       เมื่อมนุษย์สัมผัสคนใครสักคนที่มีเสน่ห์และปรารถนาที่จะครอบครอง หรือการสัมผัสสิ่งใหม่ๆ เช่นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ หรือรถยนต์ใหม่เป็นสิ่งที่น่าพึ่งพอใจ เป็นต้น เมื่อจิตมีความพอใจมันแสดงออกมาในการกระทำทางกายภาพ วาจา และอารมณ์ (ใจ) เป็นต้น  มีปัญหาเกี่ยวกับความจริงแห่งกรรมของมนุษย์ เมื่อรูปกรรมเป็นสภาวะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วระยะหนึ่ง และก็จะหายไปจากสายตามนุษย์ ผลของกรรมยังส่งผลต่อผู้ทำหรือไม่?  เราจะอธิบายเรื่องนี้ด้วยเหตุผลอย่างไร? แต่ธรรมชาติของจิตใจของมนุษย์รับรู้สภาวะของการกระทำแล้ว มักจะเก็บเอาอารมณ์แห่งกรรมมาสั่งสมอยู่ในจิตใจของตนเอง มันเป็นอารมณ์ที่ห่อหุ้มจิตใจของพวกเขาอย่างนั้น แต่ธรรมชาติของจิตใจมิได้แค่รับรู้และสั่งสมอยู่ในจิตใจเท่านั้น แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะตายไปแล้ว แต่อารมณ์กรรมที่ห่อหุ้มจิตใจยังคงติดตามวิญญาณไปจุติในภพอื่น จนมีโอกาสได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ชำระล้างกิเลสที่ห่อหุ้มจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์และไม่มัวหมองอีกต่อไป     
  
      พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยื่งใหญ่ที่ปกครองอาณาจักร "โมริยะ" หรือ "เมารยะ" ในภาษาสันสฤตซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ของสาธารณรัฐอินเดียแต่เหตุผลแห่งความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าอโศกมหาราชไม่ได้เกิดขึ้น ตามความเห็นของนักประวัติศาสตร์ที่จะเขียนเฉลิมพระเกียรติให้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ได้มาจากการพัฒนาศักยภาพชีวิต วิสัยทัศน์ของโลกและทักษะในการทำสงครามของพระองค์เพื่อขยายอาณาเขตของอาณาจักรโมริยะให้มีเนื้อที่กว้างไกลที่สุด เท่าที่พลังของกองทัพของพระองค์จะยกทัพไปโจมตีอาณาจักรต่าง ๆ ได้ จนกระทั่งเข้าไปถึงยุโรปมากกว่าผู้นำโลกคนอื่น ๆ ที่ทำสงครามเพื่อขยายอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนอื่น ๆ ที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์โลกและได้รับการบันทึกเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อให้จิตวิญญาณมนุษย์ผ่านวัฏจักรแห่งความตายและการกลับชาติมาเกิดในสังสารวัฏไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อพวกเขาเกิดอีกครั้งในโลกมนุษย์ จะได้ศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับความจริงของพระเจ้าอโศกมหาราช และเข้าใจอย่างแท้จริงในกฎธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ แม้ว่าพระเจ้าอโศกมหาราชทรงประสบความสำเร็จในการปกครองตลอดรัชสมัยของพระองค์และทำสงคราม เพื่อขยายอาณาจักรโมริยะจนบรรลุเป้าหมายที่พระองค์ทรงกำหนดนโยบายทางการเมือง แต่ในมุมมืดของชีวิต พระองค์ทรงทนทุกข์อย่างใหญ่หลวงทั้งทางพระวรกายและพระทัยอันเป็นผลมาจากการทำสงครามในดินแดนต่างๆ แม้ว่าชีวิตของพระองค์จะทรงได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วไปในฐานะมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่  มีความอุตสาหะในการทำสงครามแต่พระองค์ก็ทรงเหมือนคนอื่น ๆ ที่มีธรรมชาติของชีวิตตั้งใจที่จะเก็บอารมณ์ต่าง ๆ ไว้ในชีวิตด้วยเหตุนี้จึงแสดงให้เห็นถึงอารมณ์อันโหดร้ายของพระองค์ที่มีต่อเชลยศึกในสงครามหลายครั้ง  พระเจ้าอโศกมหาราชทรงมีความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมจน กลายเป็นแผลลึกในพระทัยที่ยากจะลืมเลือนหายไปจากพระทัย   แม้พระองค์จะทรงตัดสินพระทัยยุติสงคราม  แต่ผลที่ตามมาของสงครามกลับเป็นความทรงจำที่โหดร้ายที่ไม่เคยสิ้นสุดในพระทัยของพระองค์  

      ด้วยข้อเท็จจริงที่กล่าวถึงกรรมของพระเจ้าอโศกมหาราชไว้ข้างต้น ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้อย่างชัดเจนอย่าเชื่อข้อเท็จจริงที่ได้เล่าติดต่อกันจนกลายเป็นตำนาน ควรสงสัยไว้ก่อนว่ายังไม่เป็นความจริง จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอเสียก่อน ผู้เขียนรักในการแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้ต่อไป จึงตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานในพระไตรปิฎก อรรกถา เอกสารต่าง ๆ และเว็บไซด์ต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อหาเหตุผลพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนี้ต่อไป ความรู้ที่ได้จากการวิเคราะห์หลักฐานต่างๆ เพื่อหาเหตุผลพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนี้ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อพระธรรมวิทยากรในการบรรยายให้กับผู้แสวงบุญ ได้ฟังเนื้อหาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ไปในทางเดียวกัน  ส่วนกระบวนการวิเคราะห์หลักฐานต่าง ๆ  เพื่อหาเหตุผลของคำตอบ จะความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการศึกษาของนิสิตปริญญาเอกสาขาต่างๆ เพื่อให้เข้าใจถึงความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ ตามหลักพระพุทธศาสนามากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ