Introduction to Ramabhar Stupa according to Buddhaphumi's philosophy

บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของมกุฏพันธเจดีย์
โดยทั่วไปแล้ว จุดประสงค์ของการแสวงบุญของชาวพุทธทั่วโลก โดยมีความเชื่อตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงให้ไว้ก่อนพระองค์ปรินิพพานว่า เมื่อตายไปก็จะไปเกิดในสวรรค์ เมื่อเดินทางไปแสวงบุญแล้ว ชาวไทยพุทธมักจะเดินทางไปเมืองศักดิ์สิทธิ์ให้ครบทั้ง ๔ เมือง เมืองกุสินาราเป็นสังเวชนียสถานแห่งที่ ๔ ซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า และมกุฏพันธเจดีย์ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ ๒ แห่ง ที่ชาวพุทธทั่วโลกนิยมไปสักการะ คือ "สาลวโนทยาน" ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าศากยมุนีปรินิพพาน ต่อมาพระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างวัดขึ้นที่สาลวโนทยานและสถูปขึ้น ปัจจุบันเรียกว่า "วัดมหานิรวารณา" เป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณภายใต้การดูแล และควบคุมของกรมศิลปกรแห่งสาธารณรัฐอินเดีย มีสถานที่โบราณอีกแห่งหนึ่งไม่ไกลออกไป เรียกว่า "มกุฏพันธเจดีย์" (Ramabhar Buddhist stupa) ซึ่งเป็นสถานที่พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าศากยมุนี
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือ ๒,๕๔๕ ปี หลังการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ผู้เขียนและนักศึกษาไทย ๓๐ คน จากมหาวิทยาลัยเมืองพาราณสี ได้เดินทางไปที่ "มกุฏพันธเจดีย์" เป็นครั้งแรก และได้เห็นเจดีย์โบราณทรงคล้ายชามคว่ำตั้งตระหง่านอยู่กลางอากาศ ก่อด้วยอิฐโบราณ มีฐานเป็นวงกลมและมีลานรอบเจดีย์มกุฏพันธนะ ผู้เขียนได้เห็นกลุ่มพุทธศาสนิกชนหลายกลุ่มสวดมนต์และเจริญสมาธิภาวนาอยู่ในลานรอบเจดีย์มกุฏพันธนะ
ผู้เขียนได้ฟังเรื่องราวจากนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายรุ่นจากมหาวิทยาลัยเมืองพาราณสี เล่าให้ผู้เขียนและคณะฟังถึงประวัติความเป็นมาของเจดีย์มกุฏพันธะว่า หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้ามัลละแห่งอาณาจักรมัลละทรงนำพระสรีระสังขารของพระพุทธเจ้าไปประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าที่มกุฎพันธะเจดีย์ จากนั้นผู้เขียนและพระภิกษุสงฆ์จำนวน ๓๐ รูป ได้สวดพระอภิธรรม ๗ บทและเจริญสมาธิภาวนา เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า เพื่อพัฒนาศักยภาพในการดำรงชีวิตให้เข้มแข็ง มีจิตใจที่บริสุทธิ์และไม่ลำเอียงต่อผู้อื่น ไม่ปล่อยให้กิเลสที่สั่งสมมานานในสังสารวัฏมาครอบงำจิตใจ มีบุคลิกที่อ่อนโยน เหมาะสมกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ยึดมั่นในอุดมคติอันเป็นเป้าหมายของชีวิต ไม่หวั่นไหวในการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่นและประเทศชาติด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม มีสติที่สามารถระลึกความรู้จากประสบการณ์ผ่านอายตนะภายในร่างกายแล้วสั่งสมความรู้ไว้ในใจ และสามารถนำความรู้นั้นแก้ไขปัญหาของตนเองได้
เมื่อผู้เขียนจะได้ยินความจริงเกี่ยวกับ"มกุฏพันธนเจดีย์"
ในภาษาอังกฤษเรียกว่า "Ramabhar Stupa" ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าชายมัลละแห่งอาณาจักรมัลละ ทรงประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้า หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานเป็นเวลา ๗ วัน แม้ว่าผู้เขียนและผู้แสวงบุญท่านอื่น ๆ จะยอมรับความจริงโดยปริยายว่า มกุฏพันธเจดีย์เป็นสถานที่ที่เจ้าชายมัลละแห่งแคว้นมัลละทรงประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าก็ตาม
แต่ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อนักตรรกะและนักปรัชญาได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หรือสิ่งที่ยึดถือและปฏิบัติจนกลายเป็นแบบแผน ขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณี หรือจากตำราหรือคัมภีร์ทางศาสนา เป็นต้น พวกเขามักจะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ตามปฏิภาณของตนเองตามหลักเหตุผล และคาดคะเนความจริงจากสิ่งที่ได้ยินมานั้น การใช้เหตุผลของนักตรรกะ นักปรัชญาในการอธิบายความจริงของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง บางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลอธิบายความจริงได้อย่างถูกต้อง บางครั้งพวกเขาอาจใช้เหตุผลอธิบายความจริงไม่ถูกต้อง บางครั้งก็ใช้เหตุผลในลักษณะนี้ บางครั้งก็ใช้เหตุผลในลักษณะนั้น เป็นต้น เมื่อเหตุผลที่ใช้อธิบายความจริงของคำตอบเรื่องนั้นไม่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของคำตอบ วิญญูชนจะไม่เชื่อถือว่าคำตอบนั้นเป็นความรู้ที่แท้จริง เราไม่ควรตัดสินใจเชื่อข้อเท็จจริงเหล่านั้นทันที่ เราควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนจนกว่าจะไ้ด้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีหลักฐานเพียงพอที่จะใช้เป็นข้อมูล เพื่อวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆเพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริง หรือพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนั้นเป็นต้น
เนื่องจากข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังคงเป็นที่สงสัย และผู้เขียนชอบศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับมกุฏพันธเจดีย์ ในฐานะสถานที่พระเจ้ามัลละแห่งอาณาจักรมัลละ ทรงประกอบพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้า ผู้เขียนจะค้นคว้าข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานจากที่มาของความรู้ในพระไตรปิฎกของมหาจุฬาลงกรณ อรรถกถา พยานเอกสารดิจิทัล เช่นแผนที่โลกของกูเกิลและพยานวัตถุ เช่น มกุฎพันธนเจดีย์ เมื่อมีหลักฐานเพียงพอผู้เขียนจะใช้หลักฐานเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์หลักฐานโดยอนุมานความรู้ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องนี้ และคำตอบที่ได้จะเป็นความรู้ที่สมเหตุสมผล และไม่สงสัยในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพุทธสถานโบราณนี้อีกต่อไป
บทความที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงอย่างสมเหตุสมผล จะเป็นประโยชน์ต่อพระธรรมทูตแห่งราชอาณาจักรไทย ที่อุทิศตนทำงาน ณ ดินแดนกำเนิดของพระพุทธศาสนาเพื่อใช้เป็นความรู้ในการบรรยายแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยพุทธฟัง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้า ณ มกุฏพันธนเจดีย์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กระบวนการพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้า จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาระดับปริญญาเอกทางพระพุทธศาสนาและปรัชญา เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางการค้นคว้าทางพระพุทธศาสนาและปรัชญา ให้ได้ความรู้ความเข้าใจในการแสวงหาความจริงอย่างสมเหตุสมผล โดยไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อีกต่อไปเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในเรื่องพิธีถวายเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าที่มกุฏพันธนเจดีย์อีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น