Introduction to Jetavana Monastery in Buddhaphumi's Philosophy
บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของวัดเชตวันมหาวิหาร
เมื่อผู้เขียนมาศึกษาต่อระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยบานารัสฮินดู อำเภอพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ผู้เขียนได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับวัดเชตวันมหาวิหาร จากเพื่อนนักศึกษาว่า พระนครสาวัตถี เป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่เป็นเวลา ๒๕ ปี เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพัฒนาศักยภาพของชีวิตชาวเมืองสาวัตถีในแคว้นโกศลให้บรรลุความจริงของชีวิต และตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่ประสูติของพระพุทธเจ้าในสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เมื่อเราบวชเป็นพระภิกษุและเริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการที่สำนักเรียนของวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ในช่วงเข้าพรรษาแรกของการอุปสมบท พระอาจารย์สอนว่าในสมัยพุทธกาลนั้น วัดเชตวันมหาวิหารตั้งอยู่ในพระนครสาวัตถี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศลซึ่งปัจจุบันคืออำเภอสาวัตถี รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย แต่ผู้เขียนไม่ค่อยสนใจนัก เพราะราชอาณาจักรไทยไทยมีวัดนับหมื่นแห่ง
เมื่อผู้เขียนศึกษาที่มหาวิทยาลัยบานารัสฮินดู เมืองพาราณสีรัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดียเป็นเวลาหลายปี ผู้เขียนมีโอกาสไปแสวงบุญหลายครั้ง และบางครั้งผู้เขียนก็ทำหน้าที่เป็นพระธรรมทูตที่บรรยายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ณ วัดเชตวันมหาวิหาร อำเภอสาวัตถี รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ผู้เขียนได้รับแรงบันดาลใจให้ศึกษาพระพุทธศาสนาจากพระไตรปิฎก เพื่อสอนนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก รวมถึงศึกษาการใช้เหตุผลทางพุทธศาสนาในการตีความข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งสัจธรรมสูงสุดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
วัดเชตวันมหาวิหารเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในพระพุทธศาสนา เนื่องจากพระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ที่นั้นเป็นเวลา ๑๙ พรรษา เดิมเป็นพระอุทยาน (สวนหลวง) ของเจ้าชายเชตแห่งราชวงศ์โกศล ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองสาวัตถีทางทิศใต้ ดังปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬา ฯ ] จูฬวรรค[เสนาสนขันธกะ] ข้อ ๓๐๘ ได้กล่าวว่า" สมัยนั้นท่านอนาถบิณฑิกคหบดีเป็นคน มีมิตรมาก มีสหายมาก ประชาชนเชื่อถือคำพูดท่านอนาถบิณฑิกคหบดีทำธุระในกรุงราชคฤห์เสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปกรุงสาวัตถี ระหว่างทางชวนคนทั้งหลายสร้างอาราม สร้างวิหาร เตรียมทานเวลานี้พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาแล้วในโลกนี้และข้าพเจ้าได้ทูลนิมนต์พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นแล้ว พระองค์จะเสด็จมาทางนี้ครั้งนั้นคนทั้งหลายที่ท่านอนาถบิณฑิกคหบดีชักชวนไว้ได้พากันสร้างอารามสร้างวิหารเตรียมทาน"
ครั้นท่านอนาถบิณฑิกคหบดีถึงกรุงสาวัตถีเที่ยวตรวจดูรอบๆกรุงสาวัตถีคิดว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าควรประทับที่ไหนดี ซึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้านเกินไปไม่ใกล้จากหมู่บ้านเกินไป การคมนาคมสะดวก ผู้อยากจะเข้าเฝ้าไปมาสะดวกได้ง่าย ผู้คนไม่พลุกพล่านกลางคืนมีเสียงรบกวนน้อยไม่มีเสียงอึกทึกไร้ผู้คน เป็นสถานที่พวกมนุษย์จะทำกิจที่ลับได้เหมาะแก่การหลีกเร้น ท่านอนาถบิณฑิกคหบดีได้เห็นว่าพระอุทยานของเจ้าเชตราชกุมาร เป็นสถานที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเกินไป ไม่ใกล้จากหมู่บ้านเกินไป การคมนาคมสะดวก ผู้อยากจะเข้าเฝ้าไปมาสะดวกได้ง่ายผู้คนไม่พลุกพล่าน กลางคืนมีเสียงรบกวนน้อยไม่มีเสียงอึกทึกไร้ผู้คน เป็นสถานที่พวกมนุษย์จะทำกิจที่ลับได้เหมาะแก่การหลีกเร้นครั้นแล้ว ถึงเข้าเฝ้าเจ้าเชตราชกุมารถึงที่ประทับ ครั้นถึงที่แล้วได้กราบทูลเจ้าเชตราชกุมารดังนี้ว่าพระลูกเจ้าขอพระองค์ทรงโปรดประทานพระอุทยานแก่กระหม่อมเพื่อจัดสร้างพระอารามเถิด พระเจ้าขา"
เหตุผลที่สร้างวัดเชตวันมหาวิหารของอนาถบิณฑิกเศรษฐีนั้น ก็เพราะท่านได้ฟังพระธรรมเทศนาเรื่อง"ชีวิตมนุษย์" ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เมืองราชคฤห์แห่งแคว้นมคธ จนกระทั่งบรรลุโสดาปัตติผล อนาถบิณฑิกเป็นคฤหัสถ์ที่มีความศรัทธาในพระพุทธเจ้า และปรารถนาให้พระองค์ทรงได้เผยแผ่พระธรรมแก่ชาวเมืองโกศล ให้พัฒนาศักยภาพชีวิตของตนเองด้วยการปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘ เพื่อให้บรรลุความจริงของชีวิต และดำรงชีวิตอย่างสงบสุขโดยยึดถือศีลธรรมและกฎหมาย ในปีที่ ๑๔ พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับที่วัดเชตวันมหาวิหารเป็นครั้งแรก และเป็นวัดพุทธแห่งที่สองของพระพุทธศาสนาสร้างในแคว้นโกศลโดยอนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาและสร้างวัดถวายพระพุทธเจ้าและพระสาวกจำพรรษาในฤดูฝนเป็นเวลา ๓ เดือนและเป็นสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในแคว้นโกศล เพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของชาวโกศลให้บรรลุความจริงในระดับอภิญญา ๖ พระองค์ได้ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแคว้นนี้เป็นเวลา ๒๕ พรรษา และพระองค์ทรงจำพรรษาอยู่ที่วัดเชตวันมหาวิหารเป็นเวลา ๑๙ พรรษาและที่วัดบุพพารามเป็นเวลา ๖ พรรษา
เมื่อผู้เขียนได้ยินข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดเชตวันมหาวิหารแล้ว จากการศึกษาจากตำราเรียนพุทธศาสนาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาหรือจากการฟังพระธรรมเทศนาของพระธรรมทูตต่างประเทศในวัดเชตวันมหาวิหารอันเก่าแก่แห่งนี้หลายครั้งแล้ว ผู้เขียนก็ยอมรับข้อเท็จจริงโดยปริยายว่าเป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงในเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่ถูกถ่ายทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หรือสิ่งที่นิยมถือปฏิบัติสืบ ๆ กันมาจนเป็นแบบแผน ขนบธรรมเนียมหรือจารีตประเพณี หรือจากข่าวลือที่พูดกันทั่วไป แต่ไม่มีอะไรยืนยันได้แน่นอน จากตำราเรียนหรือคัมภีร์ศาสนา เป็นต้น
เราไม่ควรเชื่อทันที เราควรสงสัยเสียก่อนจนกว่าจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้ โดยใช้เหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น ๆ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดเชตวันมหาวิหารน ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้ายังถือเป็นที่สงสัยเกี่ยวกับที่มาของวัดเชตวันมหาวิหาร ผู้เขียนจึงสนใจศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับวัดพระเชตวันมหาวิหารในพระไตรปิฏกเพิ่มเติม โดยเขียนวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานในพระไตรปิฎก อรรถกถา บันทึกลายลักษณ์อักษรของการเดินทางสู่พุทธภูมิของสมณะจีน ๒ รูป ความเห็นที่บันทึกโดยของนักโบราณคดี และความรู้ผ่านประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสของผู้เขียนที่ได้เดินทางไปแสวงบุญ ในวัดเชตวันมหาวิหารหลายครั้งทั้งในฐานะผู้แสวงบุญ พระนักเทศน์ เป็นต้น โดยใช้เหตุผลในการอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่อง วัดเชตวันมหาวิหารอย่างสมเหตุสมผล บทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่พระภิกษุ สามเณร พระนักเทศน์ พระธรรมทูตสายต่างประเทศ ในการบรรยายเนื้อหาทางพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับวัดเชตวันมหาวิหารเพื่อให้ผู้แสวงบุญในดินแดนพุทธภูมิได้ฟังเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนกระบวนพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้าและปรัชญาจากหลักฐานต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตระดับปริญญาเอกด้านพระพุทธศาสนา และปรัชญา สามารถใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการอนุมานความรู้ โดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของคำตอบในหัวข้อวิจัยได้ เป็นการสร้างองค์ความรู้ที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินที่สมเหตุสมผล และไม่มีข้อสงสัยในข้อเท็จจริงของการวิจัยในระดับปริญญาเอกอีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น