Introduction: BimbisarJail in Buddhaphumi's philosophy

๑.บทนำ
ในการศึกษาปัญหาของอภิปรัชญาเกี่ยวกับความจริงของชีวิตมนุษย์ หรือที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของปรัชญา วิชาปรัชญาเกิดจากความสงสัยของมนุษย์ ที่เรียกว่า"นักปรัชญา" เมื่อผู้เขียนศึกษาปรัชญาพุทธภูมิ ตามหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณก็เป็นเรื่องนักปรัชญา เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นนักปรัชญา เพราะองค์ทรงสำเร็จการศึกษาในสำนักเรียนของครูวิศวามิตรในหลักสูตรศิลปศาสตร์ถึง ๑๘ สาขา เมื่อพระชนมายุ ๑๖ พรรษา
เมื่อพระองค์ทรงมีพระชนมายุได้ ๒๙ พรรษา พระองค์ได้เสด็จเยี่ยมราษฎร์ และทรงเห็นปัญหาความจริงของจัณฑาล ซึ่งเป็นนักโทษที่ถูกตัดสินคดีจากคนในสังคม โดยให้ลงโทษด้วยการลงพรหมทัณฑ์ตลอดชีวิต กล่าวคือ ขับออกจากบ้านตลอดชีวิต โดยอ้างว่าพระพรหมทรงลงโทษพวกเขา เพราะกระทำผิดฐานละเมิดหลักคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายวรรณะจารีตประเพณีอย่างร้ายแรง ด้วยการแต่งงานข้ามวรรณะ เป็นต้น เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นปัญหาจัณฑาล พระองค์ทรงสงสัยถึงการมีอยู่ของพระพรหมและพระอิศวร เพราะตามคำสอนของพวกพราหมณ์อารยัน พระพรหมทรงสร้างมนุษย์และวรรณะขึ้นมา เพื่อให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่ตนเกิดมา การบัญญัติกฎหมายวรรณะส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในอนุทวีปอินเดีย แม้กระทั่งในยามแก่เฒ่า เจ็บป่วย และพวกเขาต้องเสียชีวิตบนท้องถนน
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะได้ยินข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ พระองค์ทรงมิเชื่อทันทีว่าเป็นความจริง พระองค์ทรงสงสัยไว้ก่อน จนกว่าพระองค์จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐาน พยานหลักฐานส่วนใหญ่เป็นพราหมณ์ปุโรหิต ซึ่งเป็นบุคคลน่าเชื่อถือในบ้านเมือง ซึ่งให้การยืนยันกับพระองค์ว่า พระพรหมและพระอิศวรและพระอิศวรเป็นสร้างมนุษย์และโลกมนุษย์จริง แต่เมื่อพระองค์ตรัสที่มาของพระพรหมและพระอิศวรแล้ว ก็ไม่ใครตอบได้ ทำให้พระองค์ทรงสงสัย เป็นต้น เมื่อข้อเท็จจริงในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ เป็นเช่นนี้ เราสามารถบูรณาการคำสอนทางพระพุทธศาสนากับนิติปรัชญาสมัยใหม่ได้ว่า เมื่อผู้ใดอ้างข้อเท็จจริงในเรื่องใด จะต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น หากไม่มีหลักฐาน นักปรัชญากล่าวอ้างถึงข้อเท็จจริงใด ต้องมีพยานหลักฐานพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น หากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น ถือว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นยังน่าสงสัยอยู่ มีเหตุผลบางประการที่ไม่เป็นความจริง
ผู้เขียนเดินทางจากตำบลพุทธคยา อำเภอคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดียซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยเดินทางขึ้นเหนือของตำบลพุทธคยาไปถึงเมืองราชคฤห์โบราณเมืองหลวงของแคว้นมคธ ซึ่งมีชื่อเสียงมากในสมัยอินเดียโบราณ เรื่องราวของเมืองนี้มีมานานกว่า ๒๕๐๐ ปี ชาวเมืองราชคฤห์ที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองโบราณนี้ พากันละทิ้งร่างกายของตน จิตวิญญาณของพวกเขาไปจุติยังภพภูมิอื่น ๆ เช่น โลก เทวดา และนรก จนหมดสิ้นเป็นต้น เป็นเวลาหลายปีที่ผู้เขียนเดินทางไปแสวงบุญที่เมืองต่าง ๆ ของสาธารณรัฐอินเดีย และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล โดยรถทัวร์ที่พาคณะนักแสวงบุญเป็นเวลาหลายวัน
พระนครราชคฤห์หรือเบญจคีรีนครหมายถึงเมืองที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง ๕ ลูก ได้แก่ภูเขาคิชฌกูฏ ภูเขาปัณฑวะ ภูเขาเวภาระ ภูเขาอิสิคิริ และเวปุลละ เป็นต้น เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักฐานหลายเล่มในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ ฟังข้อเท็จจริงได้ว่าเมืองราชคฤห์โบราณ เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมคธ พระโพธิสัตว์สิทธัตถะ เสด็จไปศึกษากรรมฐานกับอาฬารดาบส และอุททกดาบสที่เมืองราชคฤห์โบราณ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็เดินทางไปศึกษาการบำเพ็ญทุกรกิริยาและพระองค์ทรงค้นพบการปฏิบัติธรรมตามแนวอริยมรรคมีองค์ ๘ ที่ตำบลอุรุเวลาเสนนานิคม จนพระองค์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาประกาศพระพุทธศาสนาที่เมืองราชคฤห์เป็นครั้งแรก ตรงกับสมัยของพระเจ้าพิมพิสารเป็นกษัตริย์ปกครองแคว้นมคธแห่งนี้ และทรงถวายสวนไผ่เป็นวัดพุทธแห่งแรกในเมืองราชคฤห์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและเป็นมหาอำนาจทางทหาร ตั้งแต่ก่อนพระพุทธเจ้าเสด็จมาประกาศพระพุทธศาสนา และพระเจ้าพิมพิสารทรงสวรรคตก่อนพระพุทธเจ้าจะปรินิพพานเพียงไม่กี่ปี เนื่องจากการปฏิวัติของพระเจ้าอชาตศัตรู พระองค์ทรงยึดอำนาจอธิปไตยในการปกครองแคว้นมคธ และทรงรับสั่งให้ทหารจับพระเจ้าพิมพิสารมาขังไว้ในเขตพระราชวังราชคฤห์
พระเจ้าพิมพิสารทรงมีศรัทธาในพระศากยมุนีพุทธเจ้ามากตั้งแต่พระองค์ทรงผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ ยังทรงมิได้ตรัสรู้กฎธรรมชาติเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ พระเจ้าพิมพิสารทรงตัดสินพระหฤทัยจะยกดินแดนของแคว้นกลิงค์ ซึ่งเป็นอาณาจักรของพระองค์ถวายต่อพระสิทธัตถะโพธิสัตว์ แต่พระองค์ทรงประสงค์ในราชบัลลังก์ หลังจากตรัสรู้กฎธรรมชาติและตัดสินพระทัยเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา พระเจ้าพิมพิสารทรงปฏิบัติธรรมครั้งแรก โดยฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า ณ ลัฎฐิวันสวนตาลหนุ่มแล้ว จนกระทั่งจิตของพระเจ้าพิมพิสารทรงบรรลุโสดาปัตติผล พร้อมกับชาวเมืองราชคฤห์จำนวน ๑๑๐,๐๐๐ คน พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์องค์แรกในพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นในแคว้นมคธ
พระเจ้าพิมพิสารทรงพระราชทานพระราชอุทยานเวฬุวันเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ชื่อว่า "วัดเวฬุวันมหาวิหาร" ถวายแด่พระพุทธเจ้าทรงใช้เป็นสถานที่สอนวิปัสสนากรรมแก่ชาวเมืองราชคฤห์ตั้งแต่พรรษที่ ๒ เป็นต้นมา เมื่อเจ้าชายอชาตศัตรูทรงปฏิวัติ เพื่อยึดอำนาจอธิปไตยในปกครองแคว้นมคธจากพระเจ้าพิมพิสาร แต่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงเป็นกบฏและยึดอำนาจอธิปไตยไม่สำเร็จ แต่พระเจ้าพิมพิสารทรงเมตตาให้อภัยโทษ และสละราชย์สมบัติยกแคว้นมคธให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงปกครองต่อไป แต่พระองค์ทรงก็ยังไม่หลุดพ้นบ่วงกรรมเพราะพระเทวทัตได้ยุยงให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงประหารชีวิตพระเจ้าพิมพิสารเสีย เพราะเกรงว่าในภายภาคหน้า พระราชบิดาจะเปลี่ยนพระทัยยึดราชสมบัติคืน

ดังนั้นพระเจ้าอชาตศัตรูจึงจับพระเจ้าพิมพิสารไปขังไว้ในโรงรมควันนักโทษ เมื่อถูกคุมขังพระเจ้าพิมพิสารทรงปฏิบัติกรรมฐานจนกระทั่งพระองค์เสด็จสวรรคต เป็นต้น ปัญหาที่ผู้เขียนสงสัยว่าเมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงถูกคุมขังในโรงอบควันนักโทษในเมืองราชคฤห์โบราณนั้น ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ไหน? ผู้เขียนสงสัย และสนใจที่จะแสวงหาความรู้เกี่ยวกับปัญหาความจริงของคุกพระเจ้าพิมพิสาร (Bimbisar Jail) โดยสืบเสาะข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานในส่วนพยานหลักฐานได้แก่พระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ บันทึกสมณชาวจีน แผนที่โลกกูเกิล เมื่อหลักฐานเพียงพอแล้ว ผู้เขียนจะใช้หลักฐานเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยการอนุมานความรู้หรือคาดคะเนความรู้เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ โดยการใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องคุกของพระเจ้าพิมพิสารว่ามีจริงหรือเท็จ อย่างสมเหตุสมผล
คำตอบเรื่องนี้ ผู้เขียนจะเขียนในรูปแบบบทความเชิงวิเคราะห์จากแหล่งความรู้ พยานหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯคัมภีร์ต่าง ๆ และความรู้ผ่านประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสของผู้เขียน ที่เคยมาเยือนดูสถานที่แห่งนี้หลายครั้งและเป็นสถานอีกที่อีกหนึ่ง ที่ผู้เขียนชอบบรรยายให้นักแสวงบุญชาวไทยฟังและทำพิธีปฏิบัติบูชาในคุกของพระเจ้าพิมพิสาร เป็นต้น บทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับพระธรรมทูตต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อสั่งสอนธรรมแก่ผู้แสวงบุญให้มีเนื้อหาของวิชาพระพุทธศาสนาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนวิธีพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้า จะเป็นประโยชน์สำหรับนิสิตปริญญาเอก ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว พวกเขาจะใช้หลักฐานเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้หรือคาดคะเนความจริงเพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบในหัวข้อวิจัยที่ตนสงสัยและต้องการคำตอบในเรื่องนั้น ความจริงในเรื่องนี้จะเป็นความรู้ที่สมเหตุสมผล ข้อเท็จจริงอันเป็นที่สุด และไม่มีเหตุที่จะสงสัยในความจริงของชีวิตมนุษย์อีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น