The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บทนำ สาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะผนวช(ตอน๑)

Introduction: The reason why Prince Siddhartha was ordained 
๑.บทนำ            


                 

                ผู้เขียนเป็นชาวพุทธโดยกำเนิดและดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของวิถีชาวพุทธที่สมาชิกในครอบครัวที่ยึดถือและปฏิบัติเป็นแบบอย่างของชาวพุทธในราชอาณาจักรไทย        ผู้เขียนเริ่มศึกษาพระพุทธศาสนา ด้วยการทำบุญที่วัดใกล้บ้านตั้งแต่วัยเด็ก  เมื่อโตเป็นวัยรุ่น ผู้เขียนได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาใกล้บ้านเพื่อศึกษาพระพุทธศาสนา     ผู้เขียนได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาว่าเผยแผ่มายัง "รัฐสุวรรณภูมิ"   ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมแล้ว เมื่ออุปสมบทในพระพุทธศาสนา        มีโอกาสได้ศึกษาพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย         จึงได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า    เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังภูมิภาคต่าง ๆ  ทั่วอนุทวีปอินเดีย      พระองค์ทรงเรียกดินแดนที่ราชอาณาจักรไทยตั้งอยู่ในปัจจุบันว่า  "รัฐสุวรรณภูมิ"         ซึ่งมีชื่อเสียงในหมู่พ่อค้าชาวอินเดียในสมัยพุทธกาลว่าดินแดนแห่งนี้อุดมไปด้วยเครื่องเทศโดยเฉพาะพริกไทยดำ   ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีราคาแพงเทียบเท่าทองคำ    ถือเป็นยาอายุวัฒนะที่ช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพแข็งแรง จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยม     ที่ชาวตะวันตกนิยมบริโภคพริกไทยดำเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ          

              ในปี พ.ศ.๒๕๑       พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเป็นประธานในการสังคายนาพระพุทธศาสนา (Buddhist councils) ครั้งที่ ๓        เพื่อรวบรวมหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า   เป็นหมวดหมู่ไว้ในพระไตรปิฎก  พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเล็งเห็นว่า   ในอนาคตพระพุทธศาสนา จะไม่มั่นคงในจิตใจของชาวโมริยะอีกต่อไป   เพราะจิตใจของมนุษย์เป็นของไม่เที่ยง        เปลี่ยนแปลงไปตามกิเลสที่เข้ามาในชีวิตและสั่งสมอยู่ในจิตใจทุกวัน  พระองค์จึงทรงได้แต่งตั้งพระโสณะและพระอุตตรให้ดำรงตำแหน่งพระธรรมทูตต่างประเทศ (foreign Dharma ambassadors )  แห่งอาณาจักรโมริยะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในอาณาจักรสุวรรณภูมิเพื่อพัฒนาศักยภาพชาวสุวรรณภูมิ         ให้มีชีวิตที่เข้มแข็งด้วยสมาธิ  มีจิตใจบริสุทธิ์   ปราศจากอคติและความเศร้าโศก         มีบุคลิกภาพที่อ่อนน้อมถ่อมตน    สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้  มีอุดมคติสูงสุดในชีวิต    มีความขยันมั่นเพียรไม่ย่อท้อในการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่นด้วยความซื่อสัตย์   สุจริตและยุติธรรม        มีสติและสามารถระลึกถึงความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายใน   และสั่งสมความรู้เป็นข้อมูลทางอารมณ์ในใจ      เพื่อให้ชาวสุวรรณภูมิได้นำความรู้เหล่านี้ไปแก้ไขปัญหาชีวิตของตนเอง 

         ผู้เขียนสันนิษฐานว่าการเดินทางของคณะเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิของพระโสนะและพระอุตตระ ผู้นำทางได้เดินทางไปที่ดินแดนสุวรรณภูมิด้วยเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่  โดยนำสินค้าประเภทอัญมณี สร้อยคอ กำไรและอัญมณีต่าง ๆ  มายังดินแดนสุวรรณภูมิ เนื่องจากชาวสุวรรณภูมินิยมใช้เครื่องประดับเหล่านี้   เพื่อแสดงฐานะทางสังคมของตน คณะของพระธรรมทูตแห่งอาณาจักรโมริยะที่เดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่เมืองท่าสะเทิมแห่งอาณาจักรสุธรรมวดี  เป็นแห่งแรก และใช้เวลานานหลายปีในการเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้า        เพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของชาวสุธรรมวดีด้วยการปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘     เพื่อให้ชาวสุธรรมาวดีมีชีวิตที่เข้มแข็ง มีความศรัทธาในตนเองว่าสามารถบรรลุสัจธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ มีความเพียรในการปฏิบัติธรรม สติระลึกถึงความรู้จากประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมอยู่ในจิตใจ มีสมาธิในการปฏิบัติธรรมอย่างมั่นคง  ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค์ที่ขัดขวางการปฏิบัติธรรมของตนเองและมีปัญญารู้แจ้งความจริงที่เกิดขึ้นในจิตใจ มีความมั่นคงและไม่หวั่นไหวในการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่น ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม มีสติสัมปชัญญะ สามารถจดจำความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายในรางกายและสั่งสมไว้ในจิตใจ สามารถใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมได้ด้วยตนเอง เป็นต้น 
 
               ในราชอาณาจักรไทย ประชากรส่วนใหญ่ นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท และใช้อริยมรรคมีองค์ ๘ ของพระพุทธเจ้าเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพชีวิตให้เข้มแข็งด้วยการปฏิบัติธรรม จนจิตใจบริสุทธิ์ ปราศจากอคติ และความเศร้าหมอง  มีบุคลิกภาพอ่อนโยน สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ มีความมั่นคงในเป้าหมายชีวิต เพื่อปกป้องชาติ พระพุทธศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย   จึงไม่กลัวที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่นด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และยุติธรรม สามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้อย่างมีสติ โดยการอนุมานความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายใน และสั่งสมความรู้นั้นไว้ในจิตใจ นอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้นั้น  ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาในการทำงานและสังคม   จนกลายเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของราชอาณาจักรไทย ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำความดีเพื่อสังคม 

          พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทยทรงเป็นพุทธมามกะ    ที่ยึดถือหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ ของพระพุทธเจ้าในการดำเนินชีวิตของพระองค์เอง   เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ         อันเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ราษฎรทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ในส่วนของคณะสงฆ์ไทยได้อุทิศตนเพื่อรับใช้ชาติ    พระพุทธศาสนา      และพระมหากษัตริย์  ด้วยการเผยแผ่พระพุทธศาสนา   เพื่อพัฒนาศักยภาพของราษฎรในราชอาณาจักรไทย  โดยสั่งสอนให้ปฏิบัติธรรมตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘           เพื่อมีศรัทธาในประเทศของตน เชื่อว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าสามารถช่วยแก้ไขปัญหาในชีวิตของตนและผู้อื่นได้    พยายามศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน          มีสติอยู่กับปัจจุบัน   ปฏิบัติธรรมให้ชีวิตมีความเข้มแข็งด้วยสมาธิ มีจิตใจที่บริสุทธิ์ปราศจากอคติและเศร้าโศก     มีบุคลิกภาพอ่อนโยนเหมาะสมกับการทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคม      มีอุดมการณ์มั่นคงในการปกป้องประเทศ   พระพุทธศาสนา     และพระมหากษัตริย์  และไม่ลังเลที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่นด้วยความซื่อสัตย์        สุจริตและยุติธรรม เพื่อความสงบสุขในสังคมตามหลักศีลธรรมและกฎหมาย                      

                      เมื่อคนไทยยังมีฐานะยากจน มีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงตัวเอง    ต้องประสบกับความทุกข์  ต้องต่อสู้กับโรคภัยต่าง ๆที่เกิดจากการทำงานหนักและสุขภาพที่ไม่ดี    เราเลือกที่จะดับทุกข์ทางใจตามกฎธรรมชาติ  ดำเนินชีวิตที่ดีด้วยการทำสมาธิ  จนจิตใจบริสุทธิ์พ้นทุกข์  มีบุคลิกภาพที่ดี เหมาะสมกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม   มีอุดมการณ์แน่วแน่ในการทำความดี      จิตใจที่เข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ   แก้ไขปัญหาด้วยปัญญาของตนเอง    ไม่ยอมให้ผู้อื่นช่วยเหลือตลอดเวลา   

             เมื่อราชอาณาจักรไทยเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ     โรคระบาด และสงครามจากประเทศเพื่อนบ้าน       คนไทยไม่ละทิ้งทหารชายแดนที่ปกป้องแผ่นดินไทย        ช่วยส่งกำลังใจและส่งอาหารบำรุงทหารตลอดเวลา         เราแสดงเจตนารมณ์ที่จะแสดงความเมตตาและความสามัคคี         เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของชาติ เมื่อคนไทยพัฒนาศักยภาพในชีวิตด้วยการปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘          และบรรลุสัจธรรมในระดับ "อภิญญา ๖"  คนไทยรู้ว่าตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น   ความดีที่ตนได้กระทำด้วยบุญกิริยาวัตถุ   ๓  ประการนั้น (bass of meritorious action)  จะเป็นความทรงจำที่ติดตัวไปชั่วกาลนาน     เมื่อชีวิตของมนุษย์มีธรรมชาติเกิดจากปัจจัยทางร่างกายและวิญญาณ  เมื่อทำความดีหรือความชั่วย่อมเป็นกรรมสั่งสมอยู่ในใจ       เมื่อตายลงไป  กรรมดีก็จะส่งผลให้ไปเกิดในสุคติภูมิหากทำกรรมชั่วไว้มากก็ไปเกิดในทุคติภูมิ เป็นต้น 

             อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ผู้คนยังคงขาดความรู้ จึงไม่เชื่อมั่นในตนเองที่จะศึกษา ค้นคว้าและแสวงหาความรู้ เพื่อใช้ความรู้เป็นที่พึ่งอันประเสริฐในการแก้ไขปัญหาของตนเอง  เมื่อเข้าศึกษาในโรงเรียนหรือสถานศึกษาอื่น ๆ  ตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พวกเขาก็ขาดความเพียรในการศึกษาตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร     จึงขาดสติที่สั่งสมความรู้ไว้ในจิตใจและจึงไม่มีความรู้ไว้ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตของตนได้   ไม่มีสมาธิคือความตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำให้จิตสงบ  เพื่อให้เกิดปัญญาในการคิด และเมื่อขาดปัญญาคือไม่มีความสามารถในการคิดโดยใช้เหตุผลจากความรู้ในเรื่องต่าง ๆ  มากมายที่สั่งสมอยู่ในใจแล้วนำความรู้นั้นมาพิจารณาถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนที่จะตัดสินใจลงมือกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปโดยเจตนา เป็นต้น   

            เมื่อผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักปฏิบัติธรรมตามอริยมรรคมีองค์ ๘ จึงมีกิเลสสั่งสมอยู่ในใจจึงมักมีอคติต่อผู้อื่นมักโกรธเคืองอยู่เป็นประจำ มีนิสัยหยาบกระด้างไม่เหมาะแก่การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม  ขาดอุดมการณ์ในการปกป้องชาติ  พุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์  จึงไม่สามารถลปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่นให้บริสุทธิ์ยุติธรรม จึงขาดสติในการนึกถึงความรู้จากประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายในและสั่งสมไว้ในใจพวกเขาจึงขาดปัญญาพิจารณาการกระทำตามหลักศีลธรรมอันดีงามของปวงชนและกฎหมาย  จึงรับผลของกรรมทั้งในโลกนี้และโลกหน้า 
     
           นอกจากนี้มนุษย์บางคนเป็นนักวิทยาศาสตร์รักในการแสวงหาความรู้ พวกเขาจึงไม่เคยหยุดพัฒนาศักยภาพของชีวิต จึงพัฒนาความคิดโดยใช้เหตุผลอธิบายความจริงเรื่องต่าง ๆ  จนสามารถสร้างเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้ พวกเขาได้พัฒนาแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ต    ให้เป็นพื้นที่แบ่งปันความรู้สำหรับการทำงานกันทั่วโลก ภาพของความงดงามของอารยธรรมไทย ที่เราคิดว่าสูญหายไปจากวิถีชีวิตของคนไทย    กลับถูกเก็บรักษาไว้เป็นภาพถ่าย และวีดีโอเพื่อแชร์บนอินเตอร์เน็ตและเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นต่อไป ได้เรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านั้น   ซึ่งเป็นหลักฐานของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมและช่วยให้เรารู้คุณค่าของหน้าที่ที่เรามีต่อกัน แสดงให้เห็นว่าเราคนไทยจะไม่ละทิ้งเพื่อนร่วมชาติให้ทำงานเพียงลำพัง แต่ทุกคนต่างตั้งใจทำความดีด้วยการช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนทั่วโลก และสร้างอารยธรรมให้กับอาณาจักรไทย    เพื่อให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราเป็นใคร ? เป็นเวลากว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้ว ที่เราได้สืบสานประเพณีการทำตักบาตรตอนเช้าและช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อเผชิญกับกรรมแห่งชีวิต  ไม่มีใครบังคับเราได้เพราะความดีที่เราทำนั้น   สามารถมองเห็นได้ด้วยตัวเราเอง 

         แม้ว่าราชอาณาจักรไทยจะไม่ใช่แหล่งกำเนิดของพระพุทธศาสนา แต่ราชอาณาจักรไทยก็เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด  โดยได้นำเอาพระปัญญาของพระพุทธเจ้า  มาสร้างศาสนสถานนับหมื่นแห่งทั่วราชอาณาจักรไทย เพื่อส่งเสริมให้คนทั่วโลกเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย  ซึ่งมีแหล่งความรู้จากความคิดของบรรพบุรุษของเรา    ผู้สร้างศาสนสถานอันงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะในราชอาณาจักรไทย    โดยไม่มีกฎหมายใด ๆ ที่จะบังคับให้ผู้คนมีความศรัทธาและปฏิบัติธรรมตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า 
       
         ในปัจจุบัน  แม้ชาวอินเดียจะไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า   แต่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ก็ได้บัญญัติคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ในประมวลกฎหมายอาญา เพื่อสร้างสังคมสันติสุขบนพื้นฐานของศีลธรรมและกฏหมาย ถือเป็นแนวทางในการกำหนดพฤติกรรมของผู้คนในสังคม เพื่อป้องกันการละเมิดชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น  แสดงให้เห็นว่าคำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นหลักสากลและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก เป็นต้น  

           เมื่อผู้เขียนอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ในช่วง ๕ พรรษาแรก พระภิกษุสงฆ์รูปใหม่ที่จำพรรษาอยู่ในวัดทั่วราชอาณาจักรไทย มีหน้าที่ศึกษาพระพุทธศาสนา ผู้เขียนได้ฟังข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากประวัติพระพุทธเจ้าว่า เหตุผลที่เจ้าชายสิทธัตถะผนวชเป็นพระโพธิสัตว์เพราะทรงเห็นคนแก่ คนเจ็บ  คนตาย และภิกษุทั้งหลาย  พระองค์จึงทรงสงสัยใคร่รู้ความจริงของชีวิตว่าทำไมมนุษย์ต้องแก่ เจ็บป่วย และตาย เป็นต้น จึงทรงตัดสินพระทัยผนวช เพื่อแสวงหาสัจธรรมของชีวิต 

               เมื่อผู้เขียนมีโอกาสศึกษาที่มหาวิทยาลัยบานาราฮินดู สาธารณรัฐอินเดีย          จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกทางปรัชญา   การศึกษาของผู้เขียนจึงไม่ได้มุ่งเน้นเพียงความรู้เท่านั้น       โดยมีปริญญาบัตรรับรองมาตราฐานความรู้อีกต่อไป     แต่มุ่งศึกษา     เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกวิชาชีพให้คุ้มค่ากับการศึกษาและการวิจัยที่ยาวนานหลายปี  เมื่อผู้เขียนศึกษาปรัชญาจากหลักฐานเอกสารในตำราเรียนหลายเล่ม  เราได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าปรัชญาเป็นความรู้ของมนุษย์ที่เราเรียกว่า "นักปรัชญา" และวิชานี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นมารดาแห่งศาสตร์ทั้งปวง   

                   โดยทั่วไป ชาวพุทธทั่วโลกได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธศาสนาจากพระไตรปิฎกมานานกว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้ว          พวกเราได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรงเห็นคนชรา     คนป่วย  คนตาย และภิกษุอยู่ริมถนนในเมืองกบิลพัสดุ์ เป็นต้น      พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยออกผนวชเพื่อศึกษาสัจธรรมของชีวิต        ซึ่งชาวพุทธทั่วโลกได้ยินเรื่องราว  ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งสมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน     และยอมรับโดยปริยายว่าเป็นความจริง         โดยไม่มีเหตุผลใด ที่จะสงสัยความจริงนี้อีกต่อไป 

                    อย่างไรก็ตาม   ผู้เขียนโต้แย้งในข้อเท็จจริงว่าคนชราคนป่วยและคนตาย       ซึ่งเป็นความรู้ที่สั่งสมมาจากประสบการณ์ชีวตผ่านอายตนะภายในร่างกาย   และสั่งสมมาเป็นเวลานานในจิตใจของมนุษย์จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคม ความจริงเชิงประจักษ์เหล่านี้สามารถเข้าใจได้ง่ายในชีวิตประจำวัน  ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้เป็นทฤษฎีธรรมชาติเกี่ยวกับความจริงของชีวิตมนุษย์ ซึ่งพิสูจน์ได้ง่ายจากข้อเท็จจริงว่า "ทุกคนเกิดมาต้องตาย" ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่เจ้าชายสิทธัตถะจะทรงใคร่ครวญในเรื่องนี้   
                 
         
           เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาการมีอยู่ของอาณาจักรสักกะโบราณ จากหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาฯ ผู้เขียนได้ฟังข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า  อาณาจักรสักกะเป็นอาณาจักรโบราณที่ตั้งอยู่ในอนุทวีปอินเดีย  มี "ราชอปริหานิยธรรม" ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีใช้ปกครองอาณาจักรสักกะ   คำสอนของพราหมณ์ถูกบรรจุอยู่ในคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะกล่าวกันว่า เมื่อพระพรหมสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงสร้างวรรณะ เพื่อให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรณะที่ตนเกิดมา      เมื่อกฎหมายวรรณะแล้วมีผลบังคับใช้ประชาชนชาวสักกะ ก็มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งหมายความว่า ห้ามมิให้มีเพศสัมพันธ์กับบุคคลในวรรณะอื่น และห้ามมิให้ปฏิบัติหน้าที่ในวรรณะอื่น ผู้ใดฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกพระพรหมลงโทษ โดยคนในสังคมลงโทษด้วยการขับไล่ออกจากชุมชนไปตลอดชีวิต  เป็นต้น  

           เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จไปเยี่ยมราษฏร พระองค์ก็ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ อย่างไรก็ตาม พระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณไม่ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของคนชรา  คนป่วย คนตาย และนักบวชไว้อย่างชัดเจน เจ้าชายสิทธัตถะประสูติในวรรณะกษัตริย์ พระองค์ทรงมีสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่ในการปกครองประเทศตามวรรณะของพระองค์      เจ้าชายสิทธัตถะทรงสามารถช่วยเหลือราษฎร ด้วยหลักแห่งความเมตตา        ดังนั้น พระองค์จึงทรงไม่จำเป็นต้องออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์เพื่อแสวงหาสัจธรรมของชีวิต   อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์ทรงแสดงพระสงค์ที่จะละทิ้งวรรณะกษัตริย์ในราชวงศ์ศากยะ พระองค์ก็ทรงสูญเสียสิทธิ  เสรีภาพและหน้าที่ตามกฎหมายวรรณะ และไม่สามารถกลับสู่สถานเดิมในสังคมได้ 

         หลังจากศึกษาประวัติศาสตร์ของเจ้าชายสิทธัตถะและได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว         เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นบุคคลที่มีความศรัทธาอย่างลึกซึ้งในศาสนาพราหมณ์   และสำเร็จการศึกษาในหลักสูตรศิลปศาสตร์ ๑๘ สาขา    พระองค์ทรงประสูติในวรรณะกษัตริย์ ซึ่งมีสิทธิและหน้าที่ในการปกครองแคว้นสักกะ   ตามกฎหมายวรรณะที่พระองค์ประสูติมา        เพื่อพระองค์จะทรงปกครองอาณาจักรสักกะซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบอันกว้างใหญ่ติดกับเทือกเขาหิมาลัย     อันอุดมสมบรูณ์  ถือเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ             เพราะผลิตข้าวได้เพียงพอให้ประชาชนบริโภคภายในประเทศ   และสามารถส่งออกข้าวไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของอนุทวีปอินเดีย      พระองค์ประทับอยู่ในปราสาท  ๓ หลังในเขตพระราชวังกบิลพัสด์ุ ณ พระนครกบิลพัสดุ์         ฉลองพระองค์ของเจ้าชายสิทธัตถะตัดเย็บจากผ้าไหมกาสีอันเลืองชื่อ    ที่นำเข้าจากต่างประเทศ       และผลิตโดยตรงจากพระนครพาราณสีเป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสี และมีข้าราชบริพาร ๔๐,๐๐๐ คน        ประจำการในปราสาท ๓ แห่ง     เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคนั้น 


              ดังนั้น  เมื่อผู้เขียนได้ฟังความจริงเกี่ยวกับ "นิมิต๔ "ของเจ้าชายสิทธัตถะแล้ว  พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยในการออกผนวชเป็นพระโพธิสัตว์เพื่อแสวงหาสัจธรรมของชีวิต   หากผู้เขียนแสดงทัศนะหรือความคิดเห็นของตนเองตามหลักเหตุผล และการคาดคะเนความจริงในเรื่อง"นิมิต๔ เป็นอย่างนี้ โดยใช้เหตุผล  ซึ่งเป็นเครื่องมือนักตรรกะและนักปรัชญาในการอธิบายความจริง         โดยใช้เหตุผลของผู้เขียนก็คงเหมือนนักตรรกะและนักปรัชญาในสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เมื่อพราหมณ์บางคนในโลกเป็นนักตรรกะ เป็นนักปรัชญา มักแสดงทัศนะของตนเองตามหลักเหตุผลและคาดคะเนความจริง  แต่นักตรรกะ นักปรัชญาเหล่านั้น มักใช้เหตุผลอธิบายความจริงในเรื่องนั้น บางครั้งก็ใช้เหตุผลถูกบ้าง  ใช้เหตุผลผิดบ้าง  เป็นอย่างนั้นบ้าง เป็นอย่างนี้บ้าง  เมื่อความจริงของคำตอบยังคลุมเครือและไม่ชัดเจนแน่นอนจะเป็นอย่างไร  วิญญูชน (The wise man) เช่นเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระพุทธเจ้า  พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์และพระโพธิสัตว์ก็ไม่ยอมรับเหตุผลของคำตอบนั้นว่าเป็นความรู้ที่แท้จริงในเรื่องนั้น   เป็นต้น  

              ดังนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เมื่อเราได้ยินข้อเท็จจริงเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ถูกเล่าต่อ ๆ กันมา    เราไม่ควรเชื่อในทันที่ว่าเป็นความจริง  เราควรสงสัยเสียก่อน จนกว่าจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานได้ เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว เราจะใช้หลักฐานเหล่านั้นเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์โดยการอนุมานความรู้ เพื่อพิสูจน์ความจริงของสาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงผนวช  (The cause  of Prince Siddhartha's ordination)  โดยการใช้เหตุผล  ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องนี้  

             ดังนั้น  เมื่อผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้ต่อไป   โดยจะสืบค้นข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ   เช่น พระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ  อรรถกถา และเอกสารโบราณที่พระภิกษุชาวจีนสองรูปบันทึกไว้ สถานที่ประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนาที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช  แผนที่โลกของกูเกิล และเอกสารอื่น ๆ  เป็นต้น เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว  ผู้เขียนจะนำหลักฐานเหล่านั้นเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยอนุมานความรู้ และการคาดคะเนความจริงเพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนั้น ๆ   โดยใช้เหตุผลซึ่งเป็นเครื่องมือของนักปรัชญาในการอธิบายความจริงของคำตอบเรื่องนี้ โดยจะเขียนคำตอบในรูปแบบของบทความวิชาการ  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพระธรรมทูตต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ไปปฏิบัติศาสนกิจในอินเดียเนปาล  และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก   ในการบรรยายเรื่องราวต่าง ๆของพระพุทธศาสนา ให้ผู้แสวงบุญได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้าได้อย่างชัดแจ้ง ไร้ความสงสัยในข้อเท็จจริงอีกต่อไป ส่วนกระบวนการพิจารณาความจริงของพระพุทธเจ้า จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตปริญญาเอกทางพระพุทธศาสนาและปรัชญานำไปใช้เป็นแนวทางวิเคราะห์ข้อเท็จจริงโดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ  เช่น พระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ เพื่อเขียนวิทยานิพนธ์ให้สอดคล้องกับหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาได้อย่างสมเหตุสมผลและไม่ข้อสงสัยใด ๆ ต่องานวิจัย อีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ