Introduction: Philosophy of Sufficiency Life in Tonle Sap
คำสำคัญ ปรัชญา ชีวิตพอเพียง โตนเลสาบ
๑.บทนำ
เมื่อผู้เขียนศึกษาหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาในพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬา ฯ ก็ได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า พระพุทธเจ้าตรัสสอน ปรัชญาความพอเพียงของมนุษย์ ชีวิตมนุษย์จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยสี่ประการเพื่อความอยู่รอดของชีวิตของตนเอง คือ ที่พักอาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เป็นต้นกล่าวคือในปัจจุบัน แม้ประชาชนอาศัยอยู่ในประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ ประกอบอาชีพ ประชาชนมีสิทธิ และหน้าที่มีส่วนร่วมในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยของประเทศ มีเสรีภาพในการนับถือศาสนาตามความเชื่อของตนเอง ผู้นำของประเทศปฏิบัติหน้าที่ตามศีลธรรมและกฎหมายด้วยความบริสุทธิและยุติธรรมก็ตาม แต่ประชาชนในประเทศมีฐานะยากจนและขาดแคลนอาหารเพราะปัจจัยทางธรรมชาติไม่เอื้ออำนวย ให้ประชาชนผลิดอาหารให้เพียงพอสำหรับบริโภคตลอดทั้งปีได้ พวกเขาจะอดตายและประท้วงขอเปลี่ยนผู้นำ พวกเขาต้องการผู้นำที่มีความตระหนักรู้และสติปัญญามากในการพัฒนาประเทศที่จะข้ามพ้นข้อจำกัดของประเทศเพื่อความสงบสุขของประชาชน เมื่อประชาชนผลิตอาหารได้เพียงพอแต่กลับทำงานแลกสุขภาพเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ชีวิตก็สั้นและป่วยเรื้อรัง พวกเขาต้องการยารักษาชีวิตไว้ด้วยเทคโนโลยี่ทันสมัยทางการแพทย์และบริการที่ดีเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขา
เมื่อมีชีวิตอยู่ก็จะได้ปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ ของพระพุทธเจ้าเพื่อให้เห็นสัจธรรมของชีวิต แต่มนุษย์ไม่ได้ต้องการแค่ความพอเพียงของเท่านั้น พวกเขากลัวความไม่แน่นอนของชีวิต จึงกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตในอนาคต จึงเป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนการเมืองสร้างบ้านเมืองของตนเอง เพื่อใช้ชีวิตตามความเชื่อทางวัฒนธรรมและวัฒนธรรมของตนเอง แต่มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ์ทีมีหิริโอตัปปะจำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าอยู่ตลอดเวลา การเปลือยกายในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่น่าละอายของมนุษย์ อคติของมนุษย์ที่วิจารณ์บุคลิกภาพของผู้อื่นอย่างสนุกสนาน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นในสังคม การถูกล้อเลียนจะเป็นคนที่ไม่มั่นใจตนเอง มีภาวะซึ่มเศร้าและการฆ่าตัวตายหนีปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ เมื่อมนุษย์มีโรคประจำตัวและกลัวความตายพวกเขาจึงหาทางรอดโดยหายารักษาโรคแม้จะเสียเงินเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งจำเป็นเหล่านี้หาไม่ได้ง่าย มนุษย์จะต้องเรียนรู้จะอยู่รอดโดยการระลึกรู้ถึงความรู้จากประสบการณ์ชีวิตในอดีตอย่างมีสติและสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่สั่งสมอยูในจิตใจเพื่อแก้ปัญหาด้วยตนเองได้
เมื่ออาณาเขตของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยประเทศ ไทย เวียดนามลาว มาเลเซียและกัมพูชาที่เรียกว่า "เขมรเมืองต่ำ" ตั้งอยู่บนเส้นทางแม่น้ำโขงที่ไหลลงสู่ทะเลที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในเวียดนามระหว่างทางแม่น้ำโขงได้สร้างปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไหลลงสู่หุบเขาลึกแห่งหนึ่งของโลกกลายทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ชาวบ้านในบริเวณนี้เรียกว่า"โตนเลสาปหรือทะเลสาบน้ำจืดเขมร"ในฤดูฝนจะกลายเป็นแอ่งขนาดใหญ่มากและสามารถขยายได้เองด้วยพื้นที่ไม่น้อยกว่า ๗,๕๐๐ ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม ๕ จังหวัดของกัมพูชาได้แก่กำปงธม กำปงชะนัง พระโพธิสัตว์ และเสียมราฐเป็นต้นโตนเลสาบเป็นอ่างเก็บน้ำชั่วคราวในฤดูฝนที่มวลน้ำไหลเข้าออกได้ตลอดเวลาเหมือนแก้มลิง ที่กักเก็บน้ำใช้สรับหน้าหนาวและหน้าแล้งทุกปี ในกลางทะเลสาบแห่งนี้ซ่อนชุมชนมากมายเช่น หมู่บ้าน โรงเรียน โบสถ์คริสต์ และสถานีตำรวจ เป็นต้น กลางทะเลสาบเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของชีวิตผู้คนที่สามารถเขียนนวนิยายเกี่ยวกับความสุข ความทุกข์ ความผิดหวังและเติมเต็มความปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใจของผู้คน ให้นักท่องเที่ยวอยากรู้ความจริงของชีวิต เพื่อค้นหาเรื่องราวของชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทะเลสาป
ที่มาของความรู้ของผู้เขียน เมื่อผู้เขียนได้ฟังความคิดเห็นจากคำบรรยายจากไกด์ชาวกัมพูชาว่า มีชุมชนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางของโตนเลสาบ มีชาวประมงหลายเชื้อสายอาศัยเช่นกัมพูชา เวียดนาม และจามเป็นต้น เจ้าของชุมชนส่วนใหญ่จะทำประมงในฤดูฝนเพราะช่วงนี้ที่โตนเลสาบอุดมสมบูรณ์ที่สุด ชีวิตของชาวประมงจะเจริญรุ่งเรืองด้วยการค้าปลาที่จับได้จากโตนเลสาบเท่านั้น ในช่วงฤดูแล้ง น้ำในทะเลสาบจะไหลออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเกือบทั้งหมด มีเพียงคลองเท่านั้นในฤดูแล้งของเดือนเมษายน เมื่อความรู้ของชาวโตนเลสาบจากประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสของพวกเขา และสั่งสมอยู่ในจิตใจของทุกคน นี่คือเวลาที่จิตใจของพวกเขานึกถึงจะใช้ความรู้ที่มีอยู่เพื่อการเอาชีวิตรอดอยู่บนทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี ที่ปริมานน้ำโขงปริมานมหาศาลได้ลงสู่โตนเลสาบเป็นแหล่งอาหารตามธรรมชาติ พวกเขาจะชีวิตอย่างไรกับสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของชีวิต ดังนั้นรัฐบาลของกัมพูชาเห็นว่าควรส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ เพื่อเติมจากการทำประมงในฤดูฝน คือส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยรับนักท่องเที่ยวลงเรือชมความงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวประมงโตนเลสาบ และจำหน่ายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว เป็นต้น
เมื่อผู้เขียนได้อ่านความคิดเห็นเกี่ยวกับโตนเลสาบ ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่แสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตบนเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้นตามคำสอนของพระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า เมื่อได้ยินความคิดเห็นในเรื่องใด ๆ อย่าเชื่อทันที่ในเรื่องที่เล่าสืบทอดกันมา ยึดถือในขนบธรรมเนียมจารีตและประเพณี ความรู้จากตำราหรือคัมภีร์ต่าง ๆ เป็นต้น ควรสงสัยไว้ก่อน จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ มาวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบในเรื่องนั้น
ด้วยเหตุผลข้างต้น ผู้เขียนจึงสงสัยความคิดเห็นของนักท่องเที่ยว ที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตผ่านประสาทสัมผัสและสั่งสมอยู่ในจิตใจของพวกเขาเหล่านั้นในแง่มุมต่าง ๆ ไว้อย่างน่าสนใจว่าชาวโตนเลสาบมีปรัชญาชีวิตที่พอเพียงอย่างไร จึงใช้ชีวิตบนผืนทะเลสาบอันกว้างแห่งนี้ในฤดูฝนและบนทะเลสาบอันแห้งแล้งแห่งนี้ในฤดูร้อน ผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้เกี่ยวกับปรัชญาพอเพียงในโตนเลสาบต่อไป ดังนั้น ผู้เขียนจึงสอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างเพียงพอ ใช้ในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐาน เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงหรือพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องนี้ คำตอบจะเขียนเป็นบทความเชิงวิเคราะห์โดยใช้ความรู้จากประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสของผู้เขียนเอง ที่เคยเดินทางไปศึกษาวิถีชีวิตของชาวโตนเลสาบในช่วงฤดูฝน เมื่อวิเคราะหฺ์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายความจริงของคำตอบในปรัชญาชีวิตพอเพียงในโตนเลสาบแล้ว จะเป็นความรู้ที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินอย่างสมเหตุสมผล และไม่สงสัยข้อเท็จจริงอีกต่อไป บทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพของชีวิตผู้คน ให้มีความรู้ความเข้าใจความจริงแห่งชีวิต และมีทักษะในการใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผล มีโอกาสเท่าเทียมกันในการเข้าถึงความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ลดปัญหาจากแนวคิดดื้อรัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ เพราะประชาชนมีศักยภาพในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น