The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564

บทนำ: ปราสาทหินพนมวันในปรัชญาฮินดู


Introduction to  Prasat Hin Phanom Wan in Hindu philosophy 

บทนำ ปราสาทพนมวันเทวสถานในปรัชญาฮินดู


           โดยทั่วไปแล้ว ชีวิตมนุษย์ทั่วโลกเกิดพร้อมกับความไม่รู้ของชีวิต และมีความกลัวซ่อนอยู่ในจิตใจของทุกคน มนุษย์มักเป็นคนขึ้ขลาดไม่กล้าเผชิญความจริงของเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต เพราะมัวแต่ยึดติดกับความสุขที่เคยมี  ความพอใจในสิ่งตนเองเคยได้ กลัวความผิดพลาดจะที่เกิดขึ้นในชีวิต มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องแสวงหาที่พึ่งพาอันประเสริฐของตนเอง เมื่อพวกเขาได้ยินความคิดเห็นว่าเทพเจ้าองค์ใดดี พวกเขาก็จะแห่กันไปพึ่ง ด้วยการบูชาและขอพรเทพเจ้าองค์นั้น ช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในชีวิต  เมื่อผู้ใดบูชาเทพเจ้าองค์ใดแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จตามความปรารถนา   เขาก็จะแสวงหาเทพเจ้าองค์ใหม่ เพื่อสักการะบูชา ขอพรเทพเจ้าองค์ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป    

           ในอำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา เคยเป็นดินแดนแห่งหนึ่งที่ถูกปกครองโดยรัฐสุวรรณภูมิ  ซึ่งเป็นรัฐที่มีอธิปไตยเป็นของตนเอง  ดำรงเอกราชอยู่ในช่วงระยะเวลาหลายร้อยปี ก่อนรัฐสุวรรณภูมิสลายไปตามกฎธรรมชาติ ก่อนที่ราชอาณาจักรไทยประกาศตนเป็นรัฐเอกราช  สถานที่แห่งนี้ มีโบราณสถานแห่งหนึ่งที่มีอายุไม่น้อยไว้กว่า ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งแสดงให้เห็นอิทธิพลของแนวคิดปรัชญาฮินดู ได้กระจายเผยแผ่มา ยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ก่อนที่แนวคิดเรื่องปรัชญาฮินดูจะเสื่อมสลายไปตามกฎธรรมชาติ เหลือแต่ร่องรอยอารยธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความคิดของเขาเอง  ผู้เขียนได้เดินทางไปที่วัดปราสาทหินพนมวันหลายครั้ง และได้เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสของตนเองว่าปราสาทหินแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์  อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา  ผู้คนเชื่อว่า ปราสาทแห่งนี้เป็นวัดฮินดู ตั้งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา ระยะทางประมาณ ๑๗ กิโลเมตร ผู้เขียนเป็นอาจารย์หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิตสาขาปรัชญา และเคยนำนิสิตคณะพุทธศาสตร์ชั้นปีที่ ๓ ภาควิชาพระพุทธศาสนา มาทำกิจกรรมเสริมหลักสูตรในรายวิชาศาสนาพราหมณ์และฮินดู ปราสาทหินพนมวันเป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นมาเป็นวัด เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมบูชายัญของศาสนาฮินดู เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตของพระเจ้ายโศวรมันที่ ๑ กษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรขอมโบราณ ทรงเชื่อในหลักคำสอนของศาสนาฮินดู ปราสาทหินพนมวัน จึงเป็นวัดในศาสนาฮินดูนิกายไศวะมาก่อน 

           เมื่อผู้เขียนได้รับรู้การมีอยู่จริงของปราสาทหินพนมวัน อย่างไรก็ตามประวัติความเป็นมาของปราสาทแห่งนี้ยังไม่ชัดเจน ประมาณปี พ.ศ. ๑๓๓๑ - ๑๓๖๓   ในดินแดนอนุทวีปอินเดีย นักปราชญ์ฮินดูนามว่า "ศังกาจารย์" ก่อตั้งลัทธิอทไวตเวทานตะ เพื่อทำลายความเชื่อของชาวพุทธในอนุทวีปอินเดียนักปรัชญฮินดูชื่อ"ศังกาจารย์" ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดพื้นฐานของปรัชญาพุทธศาสนามหายานเนื่องจากศังกาจารย์ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยนาลันทาโบราณ เมืองนาลันทา แคว้น มคธ เขาจึงสนใจวิชา "ตรรกศาสตร์"  ซึ่งอธิบายวิธีการใช้เหตุผล การตีความปรัชญาพุทธมหายาน และการประยุกต์ใช้ปรัชญาพุทธมหายานเพื่ออธิบายปรัชญาพราหมณ์ เพื่อพัฒนาคำสอนของศาสนาพราหม์ให้เป็นคำสอนของศาสนาฮินดูจนถึงทุกวันนี้ พวกพราหมณ์ได้นำคำสอนของศาสนาฮินดู มาเผยแผ่คำสอนในรัฐสุวรรณภูมิ ตามเส้นทางการค้าโบราณมาสู่อาณาจักรขอมโบราณ มีพื้นที่ครอบคลุมเขตอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์และอำเภอพิมาย อำเภอเมืองนครราชสีมา ในช่วงปีพ.ศ.๑๕๔๓-๑๖๔๓ ก่อนจะตกเป็นอาณานิคมของราชอาณาจักรสุโขทัยและราชอาณาจักรอยุธยา  

        ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นนั้น  ผู้เขียนจึงสงสัยในประวัติของปราสาทหินพนมวัน เป็นวัดในศาสนาฮินดูหรือไม่? แต่ผู้เขียนชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องนี้ต่อไป จึงตัดสินใจสอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ    จากเอกสารของกองโบราณคดีศิลปากร และพยานวัตถุของจารึกปราสาทหินพนมวัน ตัวปราสาทหินพนมวัน และพยานบุคคลได้แก่ ความเห็นของเจ้าหน้าที่กองโบราณคดี ที่ได้แปลอักษรขอมจารึกปราสาทพนมวัน เพื่อหาเหตุผลของคำตอบในปราสาทหินพนมวันนี้ บทความเรื่องปราสาทหินพนมวัน นี้จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตในการศึกษาปรัชญาศาสนาพราหมณ์ฮินดู เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้การพัฒนาความคิดของมนุษย์ในการปฏิรูปสังคม ส่วนกระบวนการวิเคราะห์ที่มาของความรู้จะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัย ในการศึกษาในระดับปริญญาเอกด้านศาสนาและวัฒนธรรมต่อไป รวมทั้งการนำพิธีกรรมบูชายัญนั้น มาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่อไป.   

     

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ