The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ปรัชญาแดนพุทธภูมิ : บทนำ ข้ามของ (แม่น้ำโขง) ซมสีสรรค์เมืองท่าแขก

ปรัชญาแดนพุทธภูมิ : บทนำ ข้ามของซมสีสรรค์เมืองท่าแขก 



คำสำคัญข้ามของ (แม่น้ำโขง), เมืองท่าแขก

๑.บทนำ 

        นครพนมเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ในช่วงวัยเด็กก่อนที่จะย้ายตามพ่อแม่ไปสกลนคร และจังหวัดอื่นๆ ทำให้ผู้เขียนมีโอกาสเรียนรู้กฎหมาย  ปรัชญา พุทธศาสนาและความรู้จากประสบการณ์ชีวิตอื่น ๆ ที่เป็นเนื้อหานอกหลักสูตรการศึกษาของชาติ ในสมัยเมื่อ๖๐ ปีที่ผ่านมาอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม  วิถีชีวิตของคนไทยในยุคนั้น ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ศึกษาวิธีการหาปลา กุ้งหอยที่มีอยู่เองตามแหล่งน้ำธรรมชาติ  ในฤดูฝนนอกจากมีกุ้งแล้ว ยังมีเห็ดป่าตามธรรมชาติ ให้เก็บอีกมากมายหลายชนิด และสัตว์น้ำนั้นถูกใช้เป็นอาหารของผู้เขียนในวัดหยุดสุดสัปดาห์มานานหลายปี 

          เมื่อผู้เขียนเติบโตถึงอายุ ๗ ขวบ ชีวิตเริ่มสังคมเป็นครั้งแรก สังคมของผู้เขียนคือสังคมในโรงเรียน  ผู้เขียนจำความได้ว่าเดินเท้าเปล่าไปโรงเรียนประถมขนาดเล็ก ๆ  ห่างจากบ้าน ๒ กิโลเมตร จำได้ว่าชื่อโรงเรียนบ้านท่าอุเทน ตั้งแต่วัยเด็กเป็นชีวิตที่น่าจดจำซึ่งกลายเป็นสัญญาอยู่ในจิตวิญญาณของผู้เขียนจนถึงทุกวันนี้ ตั้งแต่จำความได้ผู้เขียนเกิดที่บ้านพักครูโรงเรียนธาตุพนมวิทยา ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ผู้เขียนเกิดเพียงปีเดียวก็โยกย้ายตามบิดาที่รับราชการเป็นครูจากโรงเรียนธาตุพนมไปยังโรงเรียนอุเทนพัฒนาเป็นโรงเรียนมัธยมที่สร้างขึ้นใหม่ประจำอำเภอท่าอุเทน  ผู้เขียนเป็นเด็กเกิดมาพ่อแม่ต้องเลี้ยงดูยาก แม่จึงพาผู้เขียนไปอธิษฐานขอเป็นลูกพระธาตุพนม ขอให้อยู่รอดปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้ ชีวิตของผู้เขียนจึงมีความผูกพันกับพระธาตุพนมไม่น้อย 

           ในความทรงจำในวัยเด็กนั้น ผู้เขียนเข้าเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ถึงปีที่ ๓ ที่โรงเรียนบ้านท่าอุเทน เลยมีเพื่อนสมัยเด็กที่เรียนด้วยกันแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓  ชีวิตของผู้เขียนเมื่อ ๕๐ ปีก่อนนั้นมองโลกบริสุทธิ์และสวยงามตามประสาเด็กในชนบทที่ถูกหล่อหลอมธรรมชาติป่าไม้ ภูเขาแม่น้ำทวย  ไม่อยู่ในสิ่งแวดล้อมของสังคมเมืองของมนุษย์ที่มากด้วยอคติ ตัดสินผู้อื่นด้วยหางตา และออกความคิดด้วยอาการเย็นชา เยอยิ่งไว้เชิงอย่างนักธุรกิจสังคม ผู้เขียนชอบอ่านหนังสือที่วางขายในท้องตลาดเพียงไม่กี่เล่ม และพ่อมักซื้อหนังสือมาแบ่งกันอ่าน เพราะยังไม่มีสื่อทางออนไลน์ให้เห็นอย่างทุกวันนี้แต่อย่างใด แต่ก็มีความทรงจำเกี่ยวกับประเพณี และวัฒนธรรมที่ดีไม่น้อยด้วยเฉพาะการใช้ชีวิตอิสระเสรีตามประสาเด็กบ้านนอก ในการเอาตัวรอดและมีความสุขในการใช้ชีวิตรอด เพราะมีสิ่งที่นำมาซึ่งความเสื่อมมีน้อย แม้โรงเรียนที่พ่อทำงานเป็นครูนั้นจะอยู่ไกลจากตัวอำเภอท่าอุเทน และบ้านพักครูที่พ่อแม่พี่น้องเราอยู่อาศัยด้วยกัน จะตั้งอยู่ไม่ห่างจากแม่น้ำโขงมักนัก แต่ก็ไกลเกินไปที่เราจะเดินเท้าเปล่าไปชมแม่น้ำโขงในยามบ่าย ๆ หรือไปดูการแข่งเรือในเทศกาลออกพรรษา หรือไปดูหมอลำในเทศกาลบูชาพระธาตุท่าอุเทน ที่เดินออกมาหน้าวัดพระธาตุอุเทนจะพบแม้น้ำโขงอันกว้างและยาวไกล ในยามค่ำคืนมองข้ามแม่น้ำโขงจะเห็นแสงไฟระยืบระยับบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขงฝั่งลาว สร้างจินตาการให้ชีวิตไม่น้อย  

            มูลเหตุของแรงจูงใจของการเดินทางไปเที่ยวเมืองท่าแขก เนื่องมาจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๐มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา ที่ผู้เขียนเป็นอาจารย์ประจำ   ได้ประกาศปิดเรียนเป็นเวลา ๓ วันเพื่อให้นิสิตที่เป็นพระภิกษุสามเณร ที่ได้เรียนวิชาภาษาบาลีมาตลอดทั้งปหลายรูปด้วยกัน ได้ไปสอบวิชาภาษาบาลี เพื่อรักษาหลักคำสอนและวิธีการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน ทำให้ผู้เขียนมีเวลาว่างพักผ่อนที่จะหยุดการทำงานเพื่อรักษาสุขภาพตัวเองเพราะการนั่งอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ จะทำให้เจ็บป่วยทางกายเพราะเลือดลมเดินทางไม่สะดวกทั่วร่างกายย่อมเกิดความเครียดจากการทำงานรีบเร่งเพราะชีวิตทำกิจกรรมจำเจซ้ำซากร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อน ร่างกายแม้มิใช่เครื่องจักรกลย่อมแปรปรวนและเสื่อมสลายลงไปได้เช่นเดียวกัน เมื่อผู้เขียนมีโอกาส จึงตัดสินใจที่จะพักผ่อนสมองให้หายเหนื่อยล้า ๓ วัน จึงตัดสินใจเดินทางไปที่จังหวัดนครพนม นิสัยส่วนตัวปกติเป็นคนที่ชอบเขียน Blogger เกี่ยวกับปรัชญาแดนพุทธภูมิ และลงมือเขียนเผยแผ่ความรู้มาจากประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นที่ได้อ่านบทความนี้ไม่น้อยเพราะเขียนเผยแผ่มาแล้วได้สัก ๗๒ กว่าเรื่องแล้ว.         


        ธรรมชาติของมนุษย์เป็นสัตว์รู้จักคิด และแสวงหาความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ และเป็นความรู้ที่แท้จริง สามารถอธิบายด้วยเหตุผลและไม่มีข้อสงสัยแม้จะมีเหตุผลอื่นยกมาหักล้างก็ตาม จากคำถามของมนุษย์คนใดคนหนึ่งไม่มีเหตุผลใดจะมาลบล้างความเห็นจากการวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ ของเรื่องต่าง ๆ ได้  อันหลักความรู้และมีความเห็นว่าเป็นความจริงเพราะมนุษย์มีจิต เป็นเครื่องมือตัดสินความรู้ที่สมเหตุสมผลว่าความรู้ผ่านประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสนั้น ที่มาของความรู้อย่างไรและเป็นความจริงหรือความเท็จ การเขียนบทความอออนไลน์นั้น ผู้เขียนพยายามเขียนไม่เน้นบทความวิชาการมากเกินไปเพราะแต่ละคนที่อ่านนั้นมีพื้นฐานความรู้ที่แตกต่างกันมากตั้งแต่อ่านมากหรือน้อยแล้วแต่ความสนใจของแต่ละคน การเดินทางไปท่องเที่ยวแสวงหาความรู้มากน้อยแตกต่างกันไปตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคนที่สะสมมาจากการทำงาน เพราะชีวิตมนุษย์ก็เรียนรู้ตลอดเวลาและเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวทุกอย่างที่เป็นปรากฎการณ์ที่มาของความรู้คืออินทรีย์ ๖ เข้ามาสู่ชีวิตของตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว. 

      ความรู้ที่ผ่านอินทรีย์ ๖ เข้าสู่ชีวิตมนุษย์นั้นจะเกิดเป็นความรู้ของตัวเอง ต่อเมื่อมนุษย์สนใจตั้งใจอ่าน เขียน ศึกษาและเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติความรู้เหล่านี้ย่อมสั่งสมและเก็บรักษาไว้ในจิตของตนเอง หากมนุษย์ไม่สนใจหรือใจลอยให้ความสำคัญกว่าสิ่งที่อยู่ไกลตัวเกินไป การศึกษาเล่าเรียนผ่านประสบการณ์เหล่านั้นย่อมไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียน หากเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ซ้ำซากอยู่แต่ปรากฎการณ์เดิมเกี่ยวกับเรื่องราวที่มากระตุ้นเตือนชีวิตไม่มีความแปลกใหม่จะเกิดความเครียดที่เปล่าประโยชน์แต่หากเราเขียนวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในแง่มุมวิชาการมากไป ก็จะมีกลุ่มของผู้อ่านจะมีความสนใจน้อยเพราะมนุษย์ทุกคนมักจะแสวงหาเฉพาะสิ่งที่ตนขาดเท่านั้น ความรู้ที่เขียนไปรับได้เฉพาะผู้คนบางกลุ่มเท่านั้นที่สนใจเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริง การเขียนเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่งปราศจากการยกตัวอย่าง บางทีก็ขาดอรรถรสของเนื้อหาเพราะสร้างแรงบันดาลใจให้สู้ชีวิตไม่ได้ ตัวอย่างของการเขียนวิชาการจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นของชีวิต การเขียนเชิงวิชาการซ้ำไปซ้ำมาหลายบท 

        ในแง่เหตุผลทางตรรกะมุม เดิม ๆ ทำให้ผู้อ่านชักจะไม่ค่อยสนุกเพราะเขียนต่อไปไม่ได้ ขาดสีสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจของชีวิตให้กับผู้อ่านทำให้เรื่องที่เขียนมาไม่น่าติดตาม จึงตัดสินใจหาข้อมูลเพิ่มคิดว่าไปปฏิบัติศาสนกิจเที่ยวชมพุทธสถานที่ไหนสักแห่งหนึ่งก็จะซื้อหนังสือเกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ ไว้เป็นข้อมูลของแนวคิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไว้ศึกษา ฉันจึงตัดสินใจนั่งรถทัวร์เดินทางจากสถานีขนส่งรถโดยสารของจังหวัดนครราชสีมาไปที่จังหวัดมุกดาหาร ให้นิสิตระดับบัณฑิตศึกษาสาขาปรัชญาลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าอาวาสธรรมสถานวัดจันทร์ขาว มารับที่วัดศรีมงคลใต้แล้วค่อยเดินทางไปที่จังหวัดนครพนมกันต่อไป เพื่อเดินทางไปชมงานด้านประวัติของพุทธศาสนาโดยมีพระสมใจลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าของท่องถิ่นรับอาสาจะพาฉันไปเที่ยวชมวัดต่างๆในเขตจังหวัดนครพนมเป็นครั้งแรกในรอบ ๕๐ ปีหลังจากได้โยกย้ายตามครอบครัวของฉันจากเมืองนครพนมไปนี้ไปสู่เมืองอื่น ๆ ค่ำคืนนี้ฉันพักจำวัดที่ธรรมสถานจันทร์ขาวเป็นเวลา ๑ คืน อากาศเย็นสบายดีอุณหภูมิไม่ต่ำมากอากาศจึงไม่หนาวจึงไม่รู้สึกเย็นถึงกระดูกในร่างกายของฉัน 

       แม้เราจะออกท่องเที่ยวจาริกไปแดนในพระพุทธศาสนาในสถานที่ใดก็ตาม เราไม่อยากว่างเว้นจากศาสนกิจแต่เนื่องจากเด็กวัดทำหน้าที่เป็นสารถี ต้องทำงานเป็นช่างอู่รถยนต์จะรอเราก็ไม่ได้และติดตามเราไม่ได้ เพราะข้อจำกัดของเวลาจึงจำเป็นต้องออกจากวัด ๐๗.๐๐ น. จึงงดออกบิณฑบาตญาติโยมจึงเอาข้าวต้มมาถวายในยามเช้า วัดเงียบสงบเจ้าอาวาสจำพรรษาเพียงรูปเดียวแต่วัดวาสะอาดสะอ้านมาก ความทุกข์ทรมาณของจิตใจขจัดได้ การเขียนหนังสือและการใช้ชีวิต ด้วยการภาวนาเป็นประจำทำให้พวกลืมเรื่องราวของความทุกข์ยากได้บ้างดีกว่า เราปล่อยจิตใจของเราให้จมปลักกับความทุกข์ทรมาณจากความผิดหวังได้ คณะพวกเรามาถึงแต่เช้าฉันมองเห็นธรรมชาติที่สวยงามของแม่น้ำโขงลมเย็นพัดมาผัสสะกาย ฉันเริ่มมีความสุขที่ได้ปล่อยวางความทุกข์ เพราะความเร่งรีบของชีวิตหมดสิ้นไป ผู้คนมามาใช้ด่านแห่งนี้ไม่น้อยแม้จะมีการสร้างสะพานให้ข้ามแม่น้ำโขงสามารถใช้รถส่วนตัวเป็นพาหนะพาตนไปเที่ยวเมืองท่าแขกได้ก็ตาม แต่ก็มีผู้คนส่วนหนึ่งที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถเดินทางข้ามฟากแม่น้ำโขงไปสู่เมืองท่าแขกได้ 


            ก็ต้องอาศัยท่าเรือแห่งนี้เป็นที่ข้ามไปมาระหว่างเมืองทั้งสองแห่งนี้  เมืองนครพนมในตัวอำเภอเมืองจะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่เงียบสงบแต่ไม่เงียบเหงาเพราะยังมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยมีย่านธุรกิจการค้า การศึกษา การคมนาคมขนส่งไปสู่เมืองต่างๆ เพราะผู้คนมีการศึกษาหาความรู้จากโลกออนไลน์ตลอดเวลาย่อมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ศึกษาหาความรู้ผ่านโลกออนไลน์ แม้จะเป็นความรู้จากผู้คนที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันกิโลเมตรได้ถาโถมผ่านไวฟายเข้ามาสู่จิตของผู้คนในเมืองแห่งนี้ ชีวิตของผู้คนที่เคยใช้ชีวิตอย่างสมถะมักน้อยพอมีพอกิน ไม่เพียรพยายามเพื่อแข่งขันกับผู้โดยยินยอมแลกกับสุขภาพของตนความรู้เหล่านี้เข้ามาสู่จิต ย่อมทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงของความคิดไปตามกระแสอารมณ์โลกเป็นเรื่องธรรมดาเพราะผู้คนที่อาศัยบนโลก ย่อมมีจิตที่ทนทานต่ออารมณ์ของโลกมากระทบกระทั่งตลอดเวลากับผู้คนที่อาศัยในเมืองชายแดนของประเทศไทยได้ทำให้เราเห็นร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกสบายเกิดขึ้นอยู่ปะปายตามริมฝั่งแม่น้ำโขงในเวลา๐๗.๐๐น. 

     ริมชายฝั่งแม่น้ำโขงอากาศนั้นเย็นสบายลมร้อนบนฝั่งแม่น้ำโขงลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าอากาศก็พัดเข้าแทนที่เป็นระลอก ๆ ชีวิตไม่มีงานอันเร่งรีบให้ทันตามกำหนดกาลของเงื่อนไขของเวลา มารอคอยให้เราสะสางกองอยู่ตรงหน้าสนองความต้องการของผู้คน ที่มีจิตร้อนรนเพราะเงื่อนไขของเวลามาบีบบังคับอยู่ตรงหน้าล้วนก่อให้เกิดความเคร่งเครียดที่เป็นความทุกข์ของชีวิตทั้งสิ้น จึงใช้เวลาที่เหลือเพราะรอคอย เดินเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของเมืองท่าแขกเต็มไปด้วย สีสรรค์ของผู้คนที่อาศัยฝั่งตะวันออกที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เมืองโบราณแห่งนี้มีตั้งอยู่ริมฝั่งโขงมีอากาศบริสุทธิ์พัดผ่านมากเป็นเมืองชายแดนที่น่าสนใจเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจมาก ริมฝั่งแม่น้ำโขงเมืองนครพนมเป็นที่ตั้งของหลายวัดในพระพุทธศาสนาแม้วันเวลาจะล่วงไปถึง ๕๐ ปี วัดแห่งนี้ยังคงสภาพเดิม ด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนมการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าออกนอกประเทศ  ในยามเช้าวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เวลา ๐๘.๐๐น.คณะของเราจึงเดินทางไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม
   
  ตั้งอยู่ถนนสุนทรวิจิตรคณะของเราเดินเข้าไปสำนักงานทำหนังสือผ่านแดนเมื่อเสร็จแล้วเราก็ลงเรือข้ามฝากพร้อมกับเสียค่าเรือ ๓๐ บาทจากนั้นก็เดินลงสู่ท่าน้ำนั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำโขงมีนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคนขึ้นรถเรือเดินทางไปด้วยกัน และคนลาวอีหลายคนมาซื้อสินค้าและข้าวของหลายอย่างบรรทุกใส่เรือข้ามฟากไปขายที่เมืองท่าแขกของประเทศลาว การนั่งเรือโดยสารเขาห้ามมิให้สูบบุหรี่ หากใครสูบบุหรีเขาให้สูบบุหรี่บนเรืออีกลำหนึ่ง  การเดินทางของเราเพื่อศึกษาหาเก็บความรู้ผ่านประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่ปรากฏเป็นหลักฐานหลงเหลือเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุให้เห็นได้แก่ วัดพระธาตุศรีโคตรบองแสดงหลักฐานให้เห็นชาวเมืองท่าแขกได้มีความเชื่อและศรัทธาในการนับถือพระพุทธศาสนาตั้งแต่สมัยโบราณและได้มีการสร้างวัดวาพระพุทธศาสนาในดินแดนแถบนี้ทำให้เรามีบ่อเกิดที่มาของความรู้ได้จากประสบการณ์ของประสาทสัมผัสจากการได้เที่ยวชมสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนมข้ามฟากทางเรือแห่งนี้อนุญาตให้เฉพาะคนไทยและคนลาวเท่านั้นส่วนชาวต่างประเทศต้องไปขึ้นสะพานไทย-ลาวแห่งที่๓เท่านั้นการเดินทางไปสู่ประเทศลาว 

      สามารถทำใบผ่านแดนง่ายขึ้นเพราะเขาเอาสถานที่ทำการจากศาลากลางจังหวัดมาตั้งสถานที่ทำการข้างด่านตรวจคนเข้าออกจึงง่ายต่อการเดินทาง แต่เมื่อเรามาถึงด่านตรวจคนเข้าออกเมืองนครพนมยังไม่เปิดทำการเรายังทำใบผ่านแดนไม่ได้ต้องรอถึง๐๘.๐๐ น.การทำใบผ่านแดนเราเป็นพระภิกษในพระพุทธศาสนาต้องใช้บัตรประชาชนพระหรือสำหรับบรรพชิตหากไม่มีก็ใช้ใบสุทธิได้สะดวกสบายอีกแบบหนึ่ง ด่านตรวจคนเข้าออกเมืองนครพนมแห่งนี้ ใช้เป็นประตูเมืองออกไปสู่ต่างประเทศจากฝั่งตะวันตกไปสู่เมืองท่าแขกตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นท่าเรือนานาชาติอีกแห่งหนึ่งที่เปิดใช้กันมายาวนานหลายร้อยปีแล้วตั้งแต่ฝรั่งเศสเข้ายึดปกครองประเทศลาว ในปัจจุบันเป็นเส้นทางเข้าออกสำหรับคนไทยและคนลาวเข้าออกไปหาสู่กันตลอดทั้งวันใช้ขนส่งสินค้า ระหว่างกันแม้สะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงจะเปิดทำการให้คนไทยลาวขับรถยนต์ไปหาสู่กันแต่ผู้คนส่วนหนึ่งยังใช้ด่านแห่งนี้ยังได้รับความนิยมเพราะสะดวกดีและอยู่กลางใจเมืองนครพนมมองไปไม่ไกลจากด่านเท่าไหร่ นักมองเห็นพญานาปล่อยน้ำพุ่งออกจากปากเห็นได้ตลอดเวลาอากาศยามเช้าเย็นสบายมากจึงเดินทางไปถ่ายรูปเป็นเครื่องระลึกว่าได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้การเดินทางได้สัมผัสธรรมชาติจากลมพัดจากแม่น้ำโขงแสงแดดอันอบอุ่น


๒.ข้ามของ(แม่น้ำโขง)

       วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ พระสมใจซึ่งเป็นลูกศิษย์ของฉันชวนให้ไปเยี่ยมชมพุทธศิลปของอาณาจักรศรีโคตรบูร ที่เหลืออยู่จนถึงทุกนี้ ปรากฎหลักฐานมีอยู่ในเมืองท่าแขก แขวงคำม่วนเป็นเขตการปกครองในภาคกลางของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวคำว่า "แม่น้ำโขง"ในภาษาท้องถิ่นของลาวเรียกว่า "แม่น้ำของ"เป็นแม่น้ำนานาชาติ เพราะเป็นแม่น้ำไหลผ่านหลายประเทศด้วยกันโดยเฉพาะ จีน พม่า ลาวไทย เขมร และ เวียดนาม แม่น้ำโขงมีต้นกำเนิดของแม่น้ำจากเทือกเขาหิมาลัย เป็นที่ตั้งของยอดเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี เทือกเขาเหล่านี้ตั้งอยู่ล้อมรอบที่ราบสูงของเขตปกครองพิเศษของประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงในจุดที่สุดในโลก ในปัจจุบันประเทศธิเบตนั้น เป็นเขตปกครองตนเองธิเบตของประเทศจีน ที่ราบสูงแห่งนี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๔,๖๐๐ กว่าเมตรที่ถือว่าเป็นหลังคาโลก ในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์วงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ห่างไกลจากดวงอาทิตย์มาก ทำให้แผ่นดินบนโลกเย็นมาก จนเกิดปรากฎการบรรยายกาศของโลกเป็นฤดูหนาว  ในบริเวณที่ราบสูงทิเบตนั้นมีหิมะปกคลุมอย่างหนาแน่นบนภูเขาคุนหลุนด้านทิศเหนือ ส่วนทิศใต้ของที่ราบสูงทิเบตมีหิมะปกคลุมภูเขาหิมาลัยและทางด้านทิศตะวันตกของที่ราบสูงทิเบตมีหิมะปกคลุมภูเขาสูงคาราโครัมไว้อย่างหนาแน่น. 

         แต่พอถึงเดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายนนั้นเป็นช่วงเวลาที่โลกมีวงโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าฤดูหนาว กาลเวลาบ่งบอกว่า โลกกำลังย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้เริ่มร่วงหล่นจากบนต้นประมาณ ๑ สัปดาห์ และจากนั้นก็เริ่มผลิใบใหม่แทนใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นที่เรียกว่าฤดูใบไม้ผลิ หิมะบนยอดเขาทั้ง ๓ แห่งเริ่มละลายเพราะความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ที่เวียนเข้ามาใกล้ที่สุด ทำให้หิมะเริ่มละลายกลายเป็นมวลน้ำในปริมาณมหาศาล เกิดกระแสน้ำก็ไหลลงสู่ที่ต่ำจากบริเวณที่ราบสูงธิเบต ไหลผ่านลงเบื้องต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ๔,๖๐๐ กว่าเมตร เป็นสายธารน้ำยาวไกลถึงหลายพันไมล์ประมาณ ๔,๕๐๐ กิโลเมตร ไหลออกสู่ออกสู่ทะเลจีนใต้ที่ประเทศเวียดนามชื่อของแม่โขงนั้น เมื่อสายน้ำไหลผ่านดินแดนของประเทศใด ย่อมถูกเรียกเปลื่ยนชื่อไปตามดินแดนและภาษาที่ผู้คนในดินแดนแถบนั้นใช้ในการสื่อสารกัน ตัวอย่างเช่น แม่น้ำโขงเมื่อไหลผ่านที่ราบสูงธิเบตซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีนชาวธิเบต เรียกชื่อแม่น้ำโขงนี้ว่าดเซซู (Dze Chu) เรียกว่า สายน้ำภูผา เมื่อไหลผ่านมณฑลยูนานของจีนเรียกชื่อแม่น้ำโขงว่าแม่น้ำล้านช้าง (Lant Sang) ครั้นแม่น้ำโขงไหลผ่านเมืองเชียงรุ้งในประเทศพม่า ชาวเมืองเชียงรุ้งเรียกชื่อแม่น้ำโขงว่าเก๋าลุงเกียงหมายถึงแม่น้ำมังกรทั้ง ๙ เมื่อไหลผ่านประเทศไทยและลาวคนลาวเรียกแม่น้ำโขงว่า"แม่น้ำของ" เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Kong ส่วนชาวไทย เขมร และเวียดนามอ่านภาษาฝรั่งเศสว่า Kong (โขง ) จึงเรียกว่า แม่น้ำโขง 


ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ