The greatest discovery is the natural laws of human life. That everyone is equal Without choosing a social caste as the basis for determining humanity When the soul is the real person of man That accumulates knowledge from the mind with reasons And show his intention to act accordingly Would receive the result of Own action

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

บทนำ: การบำเพ็ญตบะของพระโพธิสัตว์ตามหลักปรัชญาพุทธภูมิ

  Introduction: Bodhisattva's asceticism according to  Buddhaphumi Philosophy



บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

             ในการศึกษาประวัติศาสตร์การปฏิบัติธรรมของพระโพธิสัตว์สิทธัตถะ เป็นปัญหาทางปรัชญาที่ควรค่าแก่การศึกษา เพราะเกี่ยวข้องกับมนุษย์โดยตรง  เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีลักษณะเฉพาะคือ   มีอายตนะภายในที่จำกัดความสามารถในการรับรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต และมนุษย์มีอคติผู้อื่นโดยมักเลือกข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  แม้ว่าเราจะสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทางโลกในหลากหลายสาขา มีวุฒิบัตรที่แสดงถึงความรู้ความสามารถในสาขานั้น ๆ  และเป็นที่เคารพนับถือของสาธารณชน  แต่สิ่งนี้ยังคงนำไปสูความหลงผิดของตนเอง ที่หมกมุ่นอยู่กับความสำเร็จทางโลกมากกว่าการบรรลุความจริงขั้นปรมัตถ์ของชีวิต   เมื่อมนุษย์เกิดมาพร้อมกับความไม่รู้  เนื่องจากอายตนะภายในที่จำกัดความสามารถในการรับรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ  ในชีวิตและมีอคติต่อผู้อื่น    ชีวิตของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความมืดมน  พวกเขา จึงขาดปัญญาที่จะเข้าความจริงที่สมมติขึ้นและความจริงขั้นปรมัตถ์ จึงไม่สามารถใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้เพื่ออธิบายความจริงของชีวิต พวกเขาจึงเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามค่านิยมทางโลก แทนที่จะแสวงหาความจริงของชีวิตตนเอง  

             เมื่อเราเกิดมา มนุษย์ทุกคนขาดความรู้แจ้งในสัจธรรมขั้นสูงสุดที่เราเรียกว่า "ความจริงระดับปรมัตถ์  หากเรารู้แจ้งในสัจธรรมของชีวิตเราจะหลุดพ้นจากความยึดติดในความไม่เที่ยงแท้ของตนเอง เนื่องจากชีวิตของเราไม่แน่นอน ชีวิตของผู้อื่นก็ไม่แน่นอนเช่นกัน อย่าไปยึดติดกับฐานะทางสังคมด้วยการร่ำไห้คร่ำครวญ นี่แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของชีวิต และไม่มีใครเยียวยาความทุกข์ทางใจของเราได้นอกจากตัวเราเอง   เมื่อเราศึกษาความเชื่อในศาสนาพราหมณ์จากหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬาลงกรณ  อรรถกถา และบทความวิชาการต่าง ๆ เป็นต้น เราจะได้ยินว่าคำสอนและปรัชญาพราหมณ์เป็นเพียงความรู้ของมนุษย์        อย่างไรก็ตาม เมื่อมนุษย์มีอายตนะภายในที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมไปสู่เหตุการณ์ทางสังคม เหตุการณ์เหล่านี้คงอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วก็หายไปในอากาศ เมื่อมนุษย์รับรู้และจดจำสภาวะเหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจ    เมื่อจิตใจของมนุษย์วิเคราะห์หลักฐานทางอารมณ์โดยอนุมานความรู้ เพื่อพิสูจน์ความจริงของเรื่องนั้น      โดยใช้เหตุผล ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้ เพื่ออธิบายความจริงของเรื่องนั้น  ๆ    แต่การใช้เหตุผลของมนุษย์บางคน  บางครั้งใช้เหตุผลได้ถูกต้อง  บางครั้งใช้เหตุผลไม่ถูกต้อง  บางครั้งก็ใช้เหตุผลในลักษณะนี้หรือในลักษณะนั้น  เมื่อผลของการวิเคราะห์ยังคงคลุมเครือ และไม่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของเรื่องนั้น? วิญญูชนเช่นเจ้าชายสิทธัตถะทรงไม่เชื่อถือและยอมรับว่าเป็นความจริง เป็นต้น 

                   เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นนักปรัชญา พระองค์ทรงชอบแสวงหาความรู้เกี่ยวกับการมีอยู่จริงของเหล่าทวยเทพ      พระองค์ทรงแสวงหาข้อเท็จจริง และรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เมื่อมีหลักฐานเพียงพอ พระองค์จึงทรงเริ่มกระบวนการพิจารณาความจริงของปรัชญา โดยเริ่มต้นจากความสงสัยเกียวกับการมีอยู่จริงของเทพเจ้า ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่ก่อนสมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน    การวิเคราะห์ข้อมูลโดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ    เพื่อพิสูจน์ความจริงของคำตอบในเรื่องที่น่าสงสัยนั้น อย่างไรก็ตาม   ความเชื่อของศาสนาพราหมณ์คือการฟังข้อเท็จจริงจากพยานเพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะยืนยันความจริงได้  ไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ความจริง

                ตามปรัชญาพุทธภูมินั้น  การฟังข้อเท็จจริงจากพยานเพียงคนเดียวนั้นไม่น่าเชื่อถือ และพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสขข้อเท็จจริงเหล่านี้ว่าเป็นสัจธรรม    ธรรมชาติของมนุษย์มีลักษณะเด่น คือองค์ประกอบของชีวิตที่เกิดจากปัจจัยทางร่างกายและทางจิตใจ ก่อให้เกิดชีวิตมนุษย์ใหม่    จิตใจของมนุษย์อาศัยอยู่ในร่างกายและใช้อายตนะภายในรับรู้ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้น     สั่งสมเรื่องราวเหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานทางอารมณ์ในจิตใจ  เมื่อรวบรวมข้อมูลได้เพียงพอ    พวกเขาจะวิเคราะห์ข้อมูลโดยการอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงของเรื่องนั้น  ๆ  อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของมนุษย์มักลำเอียงต่อผู้อื่นเนื่องจากความเกลียดชัง, ความกลัว, ความหลงผิด, ความโง่เขลาและการรับรู้ที่จำกัดของอายตนะภายในของร่างกายมนุษย์  ชีวิตของมนุษย์เต็มไปด้วยความมืดมน ส่งผลให้มนุษย์ไม่สามารถใช้เหตุผล  ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักปรัชญาใช้ในการอธิบายความจริงของสิ่งต่าง ๆ  ได้อย่างมีเหตุผล  ยกตัวอย่างเช่นสิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของการรับรู้ของมนุษย์ หรือ เชื้อโรคที่เล็กที่สุด หรือสิ่งที่อยู่ไกลเกินประสาทสัมผัสของมนุษย์ที่จะรับรู้ได้           

          มนุษย์จำเป็นต้องสร้างเครื่องมือสำหรับการรับรู้ เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น ในยุครุ่งเรืองของศาสนาพราหมณ์  พราหมณ์อารยันได้สอนให้ชาวอนุทวีปอินเดียเชื่อในความมีอยู่ของเทพเจ้า พระพรหมและพระอิศวรเป็นเทพเจ้าที่ช่วยให้ผู้คนบรรลุความฝันในชีวิต และพราหมณ์ดราวิเดียนสอนว่าแม่น้ำเป็นเทวดาที่ช่วยให้ผู้คนบรรลุความฝันในชีวิตเช่นกัน   แม้ว่าชาวอนุทวีปอินเดีย จะไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของเทพเจ้าผ่านประสบการณ์ชีวิตผ่านอายตนะภายใน และได้สั่งสมความรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของเทพเจ้าและเทวดาไว้ในจิตใจเช่นเดียวกับพราหมณ์ แต่พวกเขาเชื่อมั่นอย่างไม่ต้องสงสัยการมีอยู่ของเทพเจ้าและเทวดา   ตามคำสอนของพราหมณ์อาวุโสของอาณาจักรสักกะที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขาตกลงที่จะบูชาเทพเจ้าตามคำสอนของพราหมณ์   พร้อมกับสิ่งของมีค่าต่าง ๆ เพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุความฝันในชีวิต     สิ่งของมีค่าเหล่านี้นำความมั่งคั่งมหาศาลมาสู่พราหมณ์อารยันและดราวิเดียน แ่ต่ผลประโยชน์จากการบูชาเทพเจ้านั้นมหาศาล   ทำให้พราหมณ์อารยันโลภมากและต้องการครอบครองการบูชาเทพเจ้า 

             เมื่อมหาราชาแห่งอาณาจักรสักกะทรงแต่งตั้งพราหมณ์อารยันเป็นปุโรหิต (priesthood)  ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในด้านกฎหมาย ขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณี   เหล่าปุโรหิตเชื่อว่า หากพราหมณ์มิลักขะยังคงประกอบพิธีบูชายัญอีกต่อไป  พวกเขาก็จะยังคงได้รับความเคารพนับถือจากประชาชนต่อไป  ในอนาคต มหาราชาอาจทรงแต่งตั้งพราหมณ์ดราวิเดียนให้เป็นปุโรหิต อาจสร้างปัญหาทางการเมืองให้กับประเทศ        พวกเขาจึงนำคำสอนของพราหมณ์ไปเสนอต่อรัฐสภาแห่งแคว้นสักกะ ให้เป็นทั้งคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะ โดยแบ่งประชาชนออกเป็น ๔ วรรณะ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์และศูทร เป็นต้น  หากคนในวรรณะใดฝ่าฝืนหลักคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะ โดยมีเพศสัมพันธ์กับคนจากวรรณะอื่นหรือแต่งงานระหว่างวรรณะ กฎหมายให้อำนาจคนในสังคมลงโทษด้วยการถูกไล่ออกจากที่อยู่อาศัยตลอดชีวิต ต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนไปตามถนนในเขตพระนครกบิลพัสดุ์และพระนครเทวทหะ แม้ในวัยชรา เจ็บป่วย และตายข้างถนน  เป็นต้น    

        เมื่อผู้เขียนได้ศึกษาหลักฐานในพระไตรปิฎกมหาจุฬา ฯ และอรรถกถาก็ได้ยินข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นพระโอรสองค์โตของพระเจ้าสุทโธทนะ ผู้ปกครองแคว้นสักกะ พระองค์ทรงมีสิทธิและหน้าที่ปกครองประเทศ ตามวรรณะกษัตริย์ที่พระองค์ทรงประสูติ พระองค์ทรงสำเร็จหลักสูตรศิลปศาสตร์จำนวน ๑๘ วิชา พระองค์ทรงมีเชื้อสายดีจากราชวงศ์ศากยะ เป็นที่รักของพระบิดาพระมารดาและประชาชน เป็นต้น ทรงมีความรู้ดีในกฎหมายรัฐธรรมนูญจารีตประเพณีสูงสุดที่ใช้การปกครองอาณาจักรสักกะที่เรียกว่า "หลักอปริหานิยธรรม"  ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของผู้บริหารในยุคนั้น 

           วันหนึ่งเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จเยี่ยมชาวพระนครกบิลพัสดุ์ และประพาสสวนหลวงที่พระนครกบิลพัสด์ุ พระองค์ทรงเห็นปัญหาจัณฑาลที่ฝ่าฝืนคำสอนของศาสนาพราหมณ์และกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะ โดยมีเพศสัมพันธ์กับวรรณะอื่นหรือการแต่งงานข้ามวรรณะ และถูกสังคมลงโทษโดยถูกเนรเทศออกจากสังคมไปตลอดชีวิต และใช้ชีวิตเร่ร่อนไปตามถนนในพระนครกบิลพัสดุ์ แม้จะอยู่ในวัยชรา เจ็บป่วย  และนอนตายข้างถนนในพระนครกบิลพัสดุ์ หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรเสร็จสิ้นแล้วพระองค์ทรงนำปัญหาจัณฑาล  มาพิจารณาเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือจัณฑาลให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายจารีตประเพณีเกี่ยวกับวรรณะ 

         เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงสอบสวนข้อเท็จจริง      และรวบรวมหลักฐานซึ่งประจักษ์พยานได้แก่ พราหมณ์ปุโรหิตได้ยืนยันข้อเท็จจริงต่อเจ้าชายสิทธัตถะว่า พระพรหมและพระอิศวร เป็นผู้สร้างมนุษย์และวรรณะให้กับมนุษย์จริง  พวกเขาเคยเห็นพรหมและอิศวรในอาณาจักรสักกะมาก่อนที่พระองค์จะประสูติ แต่เมื่อพระองค์ตรัสถามประวัติของพระพรหมและพระอิศวร แต่ไม่มีพราหมณ์ปุโรหิตคนใดตอบได้ พระองค์ทรงมีพระประสงค์จะปฏิรูปสังคมในอาณาจักรสักกะ โดยทรงเสนอให้ออกกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยการยกเลิกวรรณะในอาณาจักรสักกะต่อรัฐสภาศากยวงศ์ แต่รัฐสภาไม่เห็นชอบเพราะเป็นข้อห้ามตามหลักอปริหานิยธรรม มาตรา ๓ ห้ามมิให้ยกเลิกกฎหมายที่บัญญัติไว้แล้ว  

       เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงพิจารณเห็นว่าระบบการเมืองของอาณาจักรสักกะ  เป็นการใช้อำนาจอธิปไตยผ่านรัฐสภาแห่งราชวงศ์ศากยะทั้ง ๓ อำนาจ คืออำนาจในการตรากฎหมาย อำนาจบริหารและอำนาจตุลาการ จึงเป็นอุปสรรคต่อปฏิรูปสังคมของพระองค์เองให้ประชาชนมีสิทธิและหน้าที่ในการศึกษา อาชีพและการมีส่วนร่วมในการบริหารรัฐได้อย่างเท่าเทียมกัน แต่เจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นสมณะในขณะเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จเยี่ยมราษฎรในเขตพระนครกบิลพัสดุ์ ทำให้พระองค์ทรงมองเห็นทางออกจากปัญหาของประเทศ เมื่อการมีอยู่ของเทพเจ้า ยังคงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย และพระองคควรค้นหาสัจธรรมแห่งชีวิตมนุษย์ต่อไปและกฎหมายรัฐธรรมจารีตประเพณีสูงสุด ก็เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปอาณาจักรสักกะ เมื่อได้ฟังข้อความเห็นแล้ว เขาก็เห็นว่าข้อเท็จจริงข้อนี้ถือเป็นที่สิ้นสุด พระองค์ทรงมีจิตเมตตาช่วยมนุษย์ให้พ้นจากความมืดมิดของชีวิต เจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยละทิ้งวรรณะกษัตริย์เพื่อผนวช เพื่อศึกษาค้นคว้าหาความจริงชีวิตต่อไป 

ปรัชญา&แดนพุทธภูมิ
     
เมื่อการบำเพ็ญตบะเป็นหนึ่งในการปฏิบัติหลายอย่างของพระโพธิสัตว์ศากยมุนี พระองค์ทรงปฏิบัติ เพื่อแสวงหาความรู้เกี่ยวกับความจริงแห่งชีวิตมนุษย์ ทำให้ผู้เขียนสงสัยว่าการบำเพ็ญตบะมีการปฏิบัติอย่างไร ? พระโพธิสัตว์สิทธัตถะจึงทรงตัดสินพระทัยเลือกวิธีนี้ เหตุผลที่กล่าวข้างต้น 

              ผู้เขียนมีความสนใจที่จะวิจัยเพิ่มเติมในการบำเพ็ญตบะของพระโพธิสัตว์  ผู้เขียนจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ อาทิ เช่น  พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ อรรถกถา และคัมภีร์พระพุทธศาสนา  พยานบุคคลได้แก่ความเห็นของนักวิชาการ หลักฐานสำคัญทางภูมิศาสตร์ของถ้ำบำเพ็ญตบะของพระพุทธเจ้า  เมื่อรวบรวมหลักฐานได้เพียงพอแล้ว  ก็จะทำการวิเคราะห์โดยอนุมานความรู้จากหลักฐานต่าง ๆ     เพื่อหาเหตุผลมาอธิบายข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อย่างสมเหตุสมผลและมีความเห็นว่าเป็นจริงและถูกต้อง  

            บทความที่ได้จากการวิเคราะห์เกี่ยวกับการบำเพ็ญตบะ จะเป็นข้อมูลให้พระวิทยากรนำไปใช้ในการบรรยายแก่ผู้แสวงบุญชาวพุทธในสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งเพื่อให้เนื้อหาเป็นไปในทางเดียวกัน  ส่วนกระบวนการพิจารณาความจริงของปรัชญาพุทธภูมิ โดยอนุมานความรู้เพื่อหาเหตุผลอธิบายข้อเท็จจริงเรื่องนั้นอย่างสมเหตุสมผล จะเป็นประโยชน์ต่อนิสิตในระดับปริญญาเอก และสามารถใช้เป็นแนวทางในการวิจัยระดับปริญญาเอกได้ เพื่อสร้างองค์ความรู้ในหัวข้อวิจัยและความเป็นจริงอย่างสมเหตุสมผล  ไม่มีข้อสงสัยในความจริงอีกต่อไป
    

ไม่มีความคิดเห็น:

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ